“กฤษฎา”สั่งเซ็ทซีโร่มิลค์บอร์ดแก้ปัญหานมโรงเรียนบูด-ฮั้วผูกขาด
"กฤษฎา" สั่งเซ็ตซีโร่มิลค์บอร์ดใหม่/ยุบคณะอนุกรรมการนมโรงเรียนหั่นทิ้งจาก 11 คณะเหลือ 5 คณะ ตัดผู้มีส่วนได้เสียออกจากคณะกรรมการ อ้างอิงแนวทาง ป.ป.ช. ดึงกรมปศุสัตว์นั่งเป็นเลขาเสียบแทน อ.ส.ค.โดนติงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หวังลบข้อครหา
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากปัญหานมโรงเรียนมีปัญหาเรื่องนมบูดเสียบ่อย จึงได้มอบนโยบาย ให้ น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้จัดสรรคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด และคณะอนุกรรมการที่มีอยู่ปัจจุบัน 11 คณะ มากเกินไปให้ยุบเหลือเท่าที่จำเป็น 4-5 คณะพอ แล้วให้การทำงานครอบคลุม โดยยึดหลักสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา สั่งให้ทยอยปรับใหม่ให้ทันรับเปิดเทอม 2/2561
สอดคล้องกับ น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน เผยว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการดึงผู้มีส่วนได้เสียภาคเอกชนออก แล้วจะยุบคณะอนุกรรมการจาก 11 คณะให้เหลือเพียง 4-5 คณะเท่านั้น เพราะหลายคณะที่ตั้งขึ้นไม่มีการประชุม เพื่อลดความซ้ำซ้อนและทันต่อการแก้ปัญหา
“สำหรับในส่วนของกรมปศุสัตว์ ก็พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นเลขานุการมิลค์บอร์ด เป็นแนวทางที่ ป.ป.ช.ได้ท้วงติง เพราะ อ.ส.ค. บทบาทของหน่วยงานทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขายแล้ว ส่วนหนึ่งก็ได้รับการจัดสรรสิทธิ์จำหน่ายในโควตานมโรงเรียนด้วย จะมีความเหมาะสมหรือไม่ และที่สำคัญจะปรับบทบาทใหม่ของโรงเรียน ให้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพของนมโรงเรียนที่ผู้ประกอบการส่งไปด้วย ไม่ใช่แค่คณะกรรมการตรวจนับเพียงอย่างเดียว จากค่อยทยอยปรับเรื่อยๆ จะเห็นว่านมโรงเรียนมีการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมทุกฝ่าย ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ตามหลักฐานที่ปรากฏชัด ที่สำคัญเด็กต้องได้ดื่มนมมีคุณภาพ ที่จริงโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากแต่ต้องช่วยกันทุกฝ่าย”
เช่นเดียวกับนายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในนามชุมนุมฯ เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จัดระเบียบอนุฯต่างๆใหม่ เป็นผลดีต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลดพวกหาผลประโยชน์มานั่ง ให้เหลือบุคคลที่สำคัญที่จะดูแลประโยชน์เกษตรกร และลูกหลานต้องได้ดื่มนมมีคุณภาพ ยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ สหกรณ์มีระบบเดียวไม่ชิงดีชิงเด่นเหมือนในเมืองไทย
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากปัญหานมโรงเรียนมีปัญหาเรื่องนมบูดเสียบ่อย จึงได้มอบนโยบาย ให้ น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้จัดสรรคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด และคณะอนุกรรมการที่มีอยู่ปัจจุบัน 11 คณะ มากเกินไปให้ยุบเหลือเท่าที่จำเป็น 4-5 คณะพอ แล้วให้การทำงานครอบคลุม โดยยึดหลักสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา สั่งให้ทยอยปรับใหม่ให้ทันรับเปิดเทอม 2/2561
สอดคล้องกับ น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน เผยว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการดึงผู้มีส่วนได้เสียภาคเอกชนออก แล้วจะยุบคณะอนุกรรมการจาก 11 คณะให้เหลือเพียง 4-5 คณะเท่านั้น เพราะหลายคณะที่ตั้งขึ้นไม่มีการประชุม เพื่อลดความซ้ำซ้อนและทันต่อการแก้ปัญหา
“สำหรับในส่วนของกรมปศุสัตว์ ก็พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นเลขานุการมิลค์บอร์ด เป็นแนวทางที่ ป.ป.ช.ได้ท้วงติง เพราะ อ.ส.ค. บทบาทของหน่วยงานทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขายแล้ว ส่วนหนึ่งก็ได้รับการจัดสรรสิทธิ์จำหน่ายในโควตานมโรงเรียนด้วย จะมีความเหมาะสมหรือไม่ และที่สำคัญจะปรับบทบาทใหม่ของโรงเรียน ให้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพของนมโรงเรียนที่ผู้ประกอบการส่งไปด้วย ไม่ใช่แค่คณะกรรมการตรวจนับเพียงอย่างเดียว จากค่อยทยอยปรับเรื่อยๆ จะเห็นว่านมโรงเรียนมีการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมทุกฝ่าย ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ตามหลักฐานที่ปรากฏชัด ที่สำคัญเด็กต้องได้ดื่มนมมีคุณภาพ ที่จริงโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากแต่ต้องช่วยกันทุกฝ่าย”
เช่นเดียวกับนายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในนามชุมนุมฯ เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จัดระเบียบอนุฯต่างๆใหม่ เป็นผลดีต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลดพวกหาผลประโยชน์มานั่ง ให้เหลือบุคคลที่สำคัญที่จะดูแลประโยชน์เกษตรกร และลูกหลานต้องได้ดื่มนมมีคุณภาพ ยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ สหกรณ์มีระบบเดียวไม่ชิงดีชิงเด่นเหมือนในเมืองไทย
