เร่งแก้ฮั้วขายปลีกน้ำมัน-สนพ.ชี้เอาผิดไม่ได้ จ้างทีดีอาร์ไอศึกษาต้นทุนจริง

20 ก.ค. 2561 | 06:39 น.
สนพ.เตรียมงัดมาตรการกระตุ้นผู้ค้านํ้ามันโฟกัสการแข่งขันธุรกิจนํ้ามันโดยตรง ไม่ใช้นอนออยล์จูงใจ เตรียมว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญศึกษาดัชนี-สถานการณ์แข่งขันในประเทศ แก้ปัญหาฮั้วราคาขายปลีก คาดเสร็จปี 2562

กระทรวงพลังงานส่งเสริมการแข่งขันเสรีธุรกิจนํ้ามัน โดยมีการปรับโครงสร้างราคานํ้ามันเชื้อเพลิงตั้งแต่ราคาหน้าโรงกลั่นไปจนถึงราคาขายปลีก แต่พบว่าผู้ค้านํ้ามันทุกราย ต่างประกาศราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการเท่ากันหมด แม้ว่าก่อนหน้านี้นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะออกมาตรการเพื่อไม่ให้ผู้ค้านํ้ามันแจ้งราคาล่วงหน้า เพื่อแก้ปัญหาการฮั้วราคานํ้ามันขายปลีกของผู้ค้านํ้ามันก็ตาม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องกลับมาประกาศราคาล่วงหน้าเหมือนเช่นเดิม
10-464x290 โดยกระทรวงพลังงาน ยอมรับว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาการฮั้วราคาขายปลีกนํ้ามันของผู้ค้านํ้ามันได้ เนื่องจากเป็นธุรกิจการแข่งขันเสรี ที่ผู้ค้านํ้ามันสามารถกำหนดราคาเองได้ ในขณะที่ภาครัฐมีกลไกที่จะควบคุมไม่ให้ค่าการตลาดปรับตัวสูงเกินจริงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานพยายามที่จะหาทางออก ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้บริโภคมากที่สุด ที่สามารถเลือกเติมนํ้ามันในราคาที่แตกต่างกันได้ จากต้นทุนของผู้ค้านํ้ามันที่มีความแตกต่างกัน

IMG_0328 (1)

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากปัญหาการกำหนดราคาขายปลีกนํ้ามันที่เท่ากันทุกสถานีบริการนํ้ามันหรือทุกค่ายบริษัทนํ้ามัน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการฮั้วราคาของค่ายผู้ค้านํ้ามันนั้น ในการแก้ปัญหาดังกล่าว นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้สนพ.ไปหาแนวทางในการแก้ปัญหาว่าจะมีวิธีดำเนินการปัญหานี้อย่างไร เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดประโยชน์สูงสุด

โดยแนวทางหนึ่งที่เตรียมไว้ สนพ.จะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เพื่อศึกษาสภาพการแข่งขันธุรกิจนํ้ามันในประเทศไทย ว่าควรมีดัชนีอะไรบ้างเป็นตัวชี้วัด อาทิ ของแถม ธุรกิจที่ไม่ใช่นํ้ามัน และค่าการตลาด ซึ่งจะนำไปสู่ข้อเท็จจริงของการบริหารจัดการต้นทุนของผู้ค้าแต่ละรายได้ชัดเจนมากขึ้น  เพราะตามหลักของการทำธุรกิจแล้ว การบริหารต้นทุนของแต่ละรายจะไม่เท่ากันอยู่แล้ว หากรายใดมีต้นทุนตํ่ากว่า ก็สามารถกำหนดราคาขายปลีกในราคาที่ตํ่ากว่ารายอื่นได้ แต่ในความจริงที่เกิดขึ้นเวลานี้ ราคาขายปลีกที่ผู้ค้านํ้ามันแต่ละรายประกาศหน้าสถานีบริการนั้น เท่ากันทุกราย แม้แต่เศษสตางค์ก็ตาม

ดังนั้น ผลการศึกษาที่ออกมา จะเป็นการตอบความชัดเจนการบริหารจัดการต้นทุนการค้าปลีกนํ้ามันได้ ซึ่งกระทรวงพลังงานต้องการส่งเสริมให้ผู้ค้านํ้ามันแข่งขันโดยตรงไปยังธุรกิจนํ้ามันเป็นหลัก โดยแยกการดำเนินธุรกิจนอนออยล์ ออกมาให้เห็นชัด ซึ่งการศึกษาคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในต้นปี 2562

“ปัจจุบันผู้ค้านํ้ามันไม่ได้แข่งขันด้านราคาขายปลีกนํ้ามันโดยตรง แต่ผู้ค้ากลับแข่งขันที่นอนออยล์เป็นหลัก ดังนั้นการแข่งขันที่ธุรกิจนํ้ามันโดยตรงควรเข้มข้นกว่านี้ ดังนั้น ผู้ค้านํ้ามันควรโฟกัสไปที่ธุรกิจนํ้ามันเป็นหลัก ซึ่งราคาขายปลีกนํ้ามันไม่ควรเท่ากัน การศึกษาดัชนีในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการแข่งขันในธุรกิจนํ้ามันโดยตรงมากขึ้น” นายทวารัฐกล่าว
e-book-1-503x62 หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 วันที่ 24-27 มิถุนายน 2561