'กาแฟกระป๋อง' คึกคัก! ชงสูตรสมุนไพรสู้ศึก

22 มิ.ย. 2561 | 08:40 น.
200661-1535

'หมอเส็ง' ลุยตลาดรีเทล! ส่ง 'กาแฟกระป๋อง' พร้อมดื่มผสมสมุนไพร บุกตลาด 1.25 หมื่นล้าน หวังสิ้นปีได้แชร์ 1.5% กวาดยอดขาย 300 ล้าน พร้อมปูทางดึงลูกค้าซื้อยาสมุนไพร

น.ส.รชาดา แสงสุริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรชัยแพทย์แผนโบราณ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาสมุนไพร แบรนด์หมอเส็ง เปิดเผยว่า หลังจากได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ภายใต้แบรนด์หมอเส็งมานานถึง 15 ปี ได้มองเห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการสร้างฐานผู้บริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร จึงได้ขยายตลาดมาสู่ร้านค้ารีเทลทั่วไป ด้วยการนำผลิตภัณฑ์กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มผสมสมุนไพร 9 ชนิด มาทำตลาดด้วยการจัดจำหน่ายผ่านร้านโชวห่วย


Screen Shot 2561-06-22 at 15.33.52

โดยแผนการจัดจำหน่ายกาแฟดังกล่าวจะขายผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีเครือข่ายร้านค้ารายย่อยกว่า 500 ร้านค้า และตัวแทนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีเครือข่ายร้านค้ากว่า 700 ร้านค้า เพื่อให้กระจายสินค้าไปยังจังหวัดต่าง ๆ จากก่อนหน้าที่จัดจำหน่ายผ่านระบบขายตรง ที่มียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 3-4 แสนกระป๋องต่อเดือน ซึ่งนอกจากร้านค้าโชวห่วย บริษัทยังมีแผนนำสินค้าเข้าจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ ที่ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับแบรนด์จิฟฟี่ ที่มีสาขากว่า 160 แห่ง แฟมิลี่มาร์ท จำนวนสาขากว่า 1,200 แห่ง และท็อปส์เดลี่ ที่มีสาขากว่า 200 แห่ง แต่บริษัทจะเลือกพื้นที่การจำหน่ายบางสาขา

"นโยบายของหมอเส็งต้องการขยายตลาดไปสู่ช่องทางรีเทล เพราะมองว่า ตลาดนี้มีโอกาสสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี ขณะที่ ธุรกิจขายตรง ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจหลัก ยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งการขยายตลาดรีเทลส่วนหนึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองสินค้าที่เกี่ยวกับสมุนไพร ที่อนาคตอาจจะหันมาดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่น ๆ ของบริษัทด้วย"


zu

สำหรับเป้าหมายการขยายตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม คาดว่าในปีแรกจะทำยอดขายได้ 12 ล้านกระป๋อง หรือ คิดเป็นยอดขาย 300 ล้านบาท หรือ คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 1.5% ของตลาดกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มที่มีมูลค่ากว่า 1.25 หมื่นล้านบาท ส่วนเป้าหมายยอดขายโดยรวมของบริษัท ปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 80% ยาสมุนไพร 15% และกลุ่มกาแฟ 5% ที่ปัจจุบัน ยังมีสินค้าจำหน่ายอีก 2 รายการ ในรูปแบบทรีอินวัน

น.ส.รชาดา กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทให้กลุ่มมาลีสามพรานเป็นผู้ดำเนินการผลิตสินค้า โดยใช้วัตถุดิบเป็นกาแฟจากดาวคอฟฟี่ สปป.ลาว ซึ่งในอนาคตจะผลิตสินค้าภายใต้โรงงานของตนเอง เนื่องจากขณะนี้ อยู่ระหว่างการปรับปรุงไลน์การผลิตเพิ่มในส่วนเครื่องดื่ม ที่ใช้งบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท มีกำลังการผลิตสูงสุด1 ล้านกระป๋องต่อเดือน


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,354 วันที่ 5-7 เม.ย. 2561 หน้า 36+35

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เนสกาแฟ”ส่งคนไทยกลับบ้านฉลองสงกรานต์
กระแส‘ตูน’ฟีเวอร์ บิ๊กธุรกิจทุ่มเงินบริจาค


e-book-1-503x62-7