'นิช คาร์' รอยืนยัน 'ลัมโบร์กินี'

30 มิ.ย. 2561 | 14:04 น.
นิช คาร์ เตรียมเผยความชัดเจนในการขายลัมโบร์กินี ปลายเดือน มิ.ย. นี้ ขณะที่ แบรนด์อื่น ๆ ยังยืนยันเดินหน้าทำตลาด ประเดิมด้วยการเปิดตัวแมคลาเรน 720เอส เคาะราคาเริ่มต้น 26.5 ล้านบาท พร้อมทุ่ม 20 ล้านบาท สร้างศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรองรับทุกแบรนด์

นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายซูเปอร์คาร์ แบรนด์แมคลาเรน , โลตัส , ปากานี , โคนิกเซ็กก์ , ฮัมเมอร์ เปิดเผยว่า ความชัดเจนเกี่ยวกับการทำตลาดแบรนด์ลัมโบร์กินีจะมีการประกาศอีกครั้งในปลายเดือน มิ.ย. นี้

 

[caption id="attachment_292090" align="aligncenter" width="335"] วิทวัส ชินบารมี วิทวัส ชินบารมี[/caption]

"ตลาดซูเปอร์คาร์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยอดขายตก โดยประเมินว่า ยอดขายหายไปกว่า 70-80% เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนเรื่องมาตรการด้านภาษี หรือ เงื่อนไข รายละเอียดของนโยบายต่าง ๆ จากภาครัฐ ส่วนเราเองก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ทำให้ต้องหยุดดำเนินงานไปร่วม 1 ปี"

นายวิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ลัมโบร์กินียังไม่มีข้อสรุป แต่สำหรับแบรนด์แมคลาเรนถือว่าพร้อมที่จะทำตลาดแล้ว ล่าสุด ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 720เอส ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ทวิน เทอร์โบ วี 8 แบบ 4 ลิตร กำลังเครื่องยนต์ 720 แรงม้า อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.8 วินาที โครงช่วงล่างคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Monocage II ซึ่งลดนํ้าหนักได้ถึง 18 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน สนนราคาเริ่มต้น 26.5 ล้านบาท

สำหรับ 720เอส ถือเป็นยุคใหม่ของรถยนต์ในตระกูลแมคลาเรน ซูเปอร์ ซีรีส์ เนื่องจากรถยนต์เจเนอเรชัน ที่ 2 นี้ มาพร้อมกับความลํ้าหน้าทางเทคโนโลยีและดีไซน์ที่สวยงาม และระบบวิศวกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ ส่วนการออกแบบ Double-skin ก็เพื่อพรางระบบท่อลมเข้าไว้อย่างแนบเนียน ทำให้สามารถระบายอากาศเพื่อลดความร้อนของเครื่องยนต์และลดแรงต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ประตูยังเลื่อนเปิดซ้อนเข้าใต้ส่วนหลังคา ทำให้สามารถเข้าสู่ห้องโดยสารได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกแบบแผงไฟหน้าแอลอีดียังช่วยยกระดับประสิทธิภาพของระบบอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดี

โดยรถรุ่นใหม่มียอดจองแล้วกว่า 15 คัน และบริษัท ตั้งเป้าหมายยอดจองในช่วง 1 ปีจำนวนไม่ตํ่ากว่า 30 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 10%

"เรามีประชากร หรือ สมาชิกของแมคลาเรนประมาณ 60-70 คัน ในประเทศไทย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังมีลูกค้าเข้ามาสอบถามข้อมูล และนำรถเข้ามารับบริการหลังการขายตามปกติ"

นายวิทวัส กล่าวว่า นอกจากแผนงานด้านผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทยังทุ่มงบประมาณ 20 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง สำหรับรถยนต์ซูเปอร์คาร์ทั้งที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเปิดให้ซูเปอร์คาร์แบรนด์อื่น ๆ สามารถมาใช้บริการได้ โดยใช้พื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร และสามารถรองรับรถ 80 คันต่อเดือน ซึ่งจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในไตรมาส 3


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 วันที่ 24-27 มิ.ย. 2561 หน้า 32-33

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นิชคาร์ประกาศหมดสัญญาขาย"แลมโบร์กินี"
‘นิชคาร์’เปิดศึกดีเอสไอ


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว