ผ่างบยุทธศาสตร์ชาติ 3 ล้านล้าน ทุ่มพัฒนางานภาครัฐ 8 แสนล้าน

25 มิ.ย. 2561 | 09:44 น.
266565
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 197 ต่อ 0 เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 17.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ


หากดูในมุมของยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีดังกล่าว เพื่อใช้ตอบโจทย์ “ยุทธศาสตร์ชาติ” ทั้ง 6 ด้านแล้ว พบว่า ในปีงบประมาณ 2562 รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องของ ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ มาเป็นลำดับแรก โดยจัดสรรงบไว้ จำนวน 838,422.2 ล้านบาท อาทิ จัดสรรงบให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต เพื่อดำเนินแผนงานยุทธศาสตร์บริหารจัด การรายได้และรายจ่ายของภาครัฐ และให้กับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเพื่อดำเนินแผนงานยุทธ ศาสตร์เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง วงเงินรวม 1,111.77 ล้านบาท เป็นต้น

ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน จำนวน 560,884.9 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียม และทั่วถึง พัฒนาการศึกษาเพื่อความยั่งยืน ส่งเสริมระเบียบวินัย คุณธรรม และจริยธรรม สร้างเสริมให้คนมีสุขภาวะที่ดี ความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย การพัฒนาพื้นที่ระดับภาคด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน อาทิ จัดสรรงบให้กับ กรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เพื่อขับเคลื่อนแผนงานยุทธศาสตร์สร้างเสริมให้คนมีสุขภาวะที่ดี รวม 4,262.77 ล้านบาท

และจัดสรรงบให้กรมการศาสนา และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ดำเนินแผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมระเบียบวินัย คุณธรรมและจริยธรรม วงเงินรวม 327.34 ล้านบาท

ทั้งยังจัดงบให้กับ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา และสถาบันการพลศึกษา เพื่อขับเคลื่อนแผนงานพื้นฐานและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน วงเงิน 1,896.62 ล้านบาท เป็นต้น
3375_๑๘๐๖๒๕_0010
งบ 4 แสนล.เพิ่มขีดแข่งขัน

ถัดมา คือ ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงิน 406,496 ล้านบาท อาทิ การจัดสรรงบให้กับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อดำเนินแผนงานพื้นฐานและแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาประสิทธิภาพและมูลค่าเพิ่มของภาคการผลิต บริการ การค้า และการลงทุน วงเงิน 478.11 ล้านบาท รวมถึงจัดสรรงบให้กับ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อดำเนินแผนงานพื้นฐานด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงินรวม 1,579.09 ล้านบาท เป็นต้น

ลำดับที่ 4 เป็นเรื่องของ ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมลํ้าและสร้างการเติบโตจากภายใน วงเงิน 397,581.4 ล้านบาท โดยจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานในกำกับ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว รวมถึงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินแผนงานพื้นฐานด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมลํ้า และสร้างการเติบโตจากภายใน และแผนงานยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมลํ้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคม วงเงินรวม 5,843.61 ล้านบาท

งบยุทธศาสตร์นํ้ารั้งท้ายสุด

ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง จำนวน 329,239.6 ล้านบาท เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ เทิดทูนและพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาความสงบเรียบร้อยภายใน อาทิ จัดสรรงบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินแผนงานพื้นฐานด้านความมั่นคง และแผนงานยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ รวมถึงแผนงานยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงและลดความ
เหลื่อมลํ้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 1,526.39 ล้านบาท และจัดสรรงบให้ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อดำเนินแผนงานยุทธศาสตร์รักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในความมั่นคงชายแดนและทางทะเล วงเงิน 176.90 ล้านบาท ขณะที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้รับการจัดสรรวงเงิน จำนวน 17.56 ล้านบาท ให้ดำเนินแผนงานยุทธศาสตร์รักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายใน ความมั่นคงชายแดนและทางทะเล เป็นต้น
3375_๑๘๐๖๒๕_0011 สุดท้าย เป็นเรื่องของ ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการนํ้าและสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จำนวน 117,266 ล้านบาท อาทิ จัดสรรงบให้สำนักงานทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ กรม ชลประทาน และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อดำเนินการแผนงานพื้นฐานด้านการจัดการนํ้า วงเงินรวม 5,194.69 ล้านบาท ทั้งยังจัดวางงบให้กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์ การมหาชน) รวม 3,889 ล้านบาท เป็นต้น

สอดรับกับรายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน 350,109.9 ล้านบาท ที่ยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด จำนวน 838,388.6 ล้านบาท ตามด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน จำนวน 560,896.3 ล้านบาท และยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จำนวน 406,564.6 ล้านบาท

ผูกมัดรัฐบาล 5 เรื่อง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแผนยุทธ ศาสตร์ชาติ ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ภายหลังสนช.ให้ความเห็นชอบ ว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติจะเป็นฉบับแรกตามรัฐธรรมนูญที่ประ กาศใช้ในประเทศไทย โดยจะบังคับตั้งแต่ปี 2561-2580 และต้องทบทวนทุก 5 ปี หากสถาน การณ์ในประเทศหรือสถานการณ์โลกเปลี่ยน

เมื่อแผนยุทธศาสตร์ชาติประกาศใช้แล้วจะผูกมัด 5 ประการ คือรัฐบาลต้องแถลงต่อสภาในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ จะต้องคำนึงถึงว่านโยบายที่แถลงต้องไม่ขัดแย้งต่อยุทธศาสตร์ชาติ และไม่ซํ้าซ้อน รวมถึงผูกพันแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การจัดทำแผนอื่นใดที่เป็นแผนระดับชาติจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงแผนแม่บทปฏิรูปประ เทศ 11 ด้าน รวมทั้งการปฏิรูป ตำรวจ และปฏิรูปการศึกษา การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีจากนี้ไปต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยเริ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี 2562

|รายงาน : ผ่างบยุทธศาสตร์ชาติ 3 ล้านล้าน ทุ่มพัฒนางานภาครัฐ 8 แสนล้าน
|โดย : กมลพร ชิระสุวรรณ
|เซกชั่น : การเมือง
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 16 ฉบับ 3375 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.2561
e-book-1-503x62