MG3 ใหม่ ตั้งเป้าขาย 1 หมื่นคัน!
เอ็มจีฟุ้ง! ยอดขายเติบโต มั่นใจสิ้นปีโกย 3 หมื่นคัน พร้อมกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัว 'เอ็มจี3' ใหม่ ชูระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่-ระบบอัจฉริยะ i-SMART เคาะราคาเริ่มต้น 5.19-6.29 แสนบาท
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจีน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 ทำได้เกือบ 1 หมื่นคัน คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ คือ 3 หมื่นคัน โดยแบ่งออกเป็นรุ่น เอ็มจี แซดเอส 1.5 หมื่นคัน , เอ็มจี3 ใหม่ 1 หมื่นคัน , เอ็มจีน จีเอส 3,000 คัน และอื่น ๆ อีก 2,000 คัน
"ตลาดรถยนต์รวมยังเติบโต เพราะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทั้งจีดีพี ทั้งรถในโครงการรถคันแรกที่จะเริ่มเข้ามาเทิร์นแล้วเปลี่ยนเป็นคันใหม่ ทำให้เราประเมินว่า ยอดขายของทั้งตลาดจะเติบโตประมาณ 10% หรือ 9.5 แสนคัน ขณะที่ ผลการดำเนินงานของเราในช่วง 5 เดือน ถือว่าดี และคาดว่าภายในเดือน 6 ยอดขายรวมของเราจะมากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี เพราะความนิยมที่มีต่อรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น แซดเอส และล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว คือ เอ็มจี3 ใหม่"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็มจี3 ใหม่ มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งด้วยเสียงภาษาไทย และระบบความปลอดภัย SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ฟังก์ชัน ขณะที่ ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่
เอ็มจี3 ยังมาพร้อมกระจังหน้าใหม่ และไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ (Projector Headlamp) เพิ่มความสดใสด้วยสีสันแนวบริต ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling) และหลังคาซันรูฟ (Sunroof) แบบปรับไฟฟ้า โดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light Guide) และการออกแบบด้านข้างที่เห็นเส้นสายชัดเจน พาดจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง-เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว โดยเอ็มจี3 ใหม่ มี 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น C ราคา 5.19 แสนบาท , รุ่น D ราคา 5.49 แสนบาท , รุ่น X ราคา 5.89 แสนบาท และรุ่น V ราคา 6.29 แสนบาท
"เอ็มจี3 เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2558 และสามารถทำยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันนี้ 1.7 หมื่นคัน และเรามั่นใจว่า เอ็มจี3 ใหม่ ที่เพิ่งจะเปิดตัวนี้จะทำยอดขายได้กว่า 1 หมื่นคัน ภายในสิ้นปี 2561 ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเอ็มจี3 ใหม่ จะได้รับแพ็กเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี 5 ปี และบริการแพสชัน เซอร์วิส รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 1.2 กิโลเมตร , บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และบริการคำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 รวมไปถึงบริการเช็กระยะนอกสถานที่"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ในรุ่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถตู้ขนาดเล็ก , รถยนต์ไฟฟ้า , รถปิกอัพ โดยทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการศึกษา เบื้องต้น ในปีนี้จะเน้นไปที่รุ่นแซดเอสและเอ็มจี3 ใหม่
"รถรุ่นอื่น ๆ เรายังคงดูอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รถตู้เล็ก ที่เคยประกาศว่าจะเข้ามาทำตลาด หรือ ในกลุ่มเก๋งขนาดกลางก็ยังมีอยู่ เช่นเดียวกับรถปิกอัพ ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้น ต้องดูความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในบ้านเราว่า พร้อมหรือไม่ รวมไปถึงราคาจำหน่ายต้นทุนต่าง ๆ และการสนับสนุนจากทางภาครัฐ"
ขณะที่ แผนงานด้านเครือข่าย ปัจจุบัน มีจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการ 82 แห่ง โดยภายในสิ้นปีนี้ได้ตั้งเป้าที่จะขยายเป็น 120 แห่ง
ส่วนความพร้อมของโรงงานใหม่ ได้เริ่มผลิตตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 โดยโรงงานมีกำลังการผลิต 5 หมื่นคัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 1 แสนคัน
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 วันที่ 24-27 มิ.ย. 2561 หน้า 32-33
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เปิดตัว 'ALL NEW MG3' เคาะราคาเริ่มต้น 5.19 แสนบาท
● TEST DRIVE MG ZS
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจีน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 ทำได้เกือบ 1 หมื่นคัน คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ คือ 3 หมื่นคัน โดยแบ่งออกเป็นรุ่น เอ็มจี แซดเอส 1.5 หมื่นคัน , เอ็มจี3 ใหม่ 1 หมื่นคัน , เอ็มจีน จีเอส 3,000 คัน และอื่น ๆ อีก 2,000 คัน
"ตลาดรถยนต์รวมยังเติบโต เพราะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทั้งจีดีพี ทั้งรถในโครงการรถคันแรกที่จะเริ่มเข้ามาเทิร์นแล้วเปลี่ยนเป็นคันใหม่ ทำให้เราประเมินว่า ยอดขายของทั้งตลาดจะเติบโตประมาณ 10% หรือ 9.5 แสนคัน ขณะที่ ผลการดำเนินงานของเราในช่วง 5 เดือน ถือว่าดี และคาดว่าภายในเดือน 6 ยอดขายรวมของเราจะมากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี เพราะความนิยมที่มีต่อรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น แซดเอส และล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว คือ เอ็มจี3 ใหม่"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็มจี3 ใหม่ มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งด้วยเสียงภาษาไทย และระบบความปลอดภัย SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ฟังก์ชัน ขณะที่ ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่
เอ็มจี3 ยังมาพร้อมกระจังหน้าใหม่ และไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ (Projector Headlamp) เพิ่มความสดใสด้วยสีสันแนวบริต ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling) และหลังคาซันรูฟ (Sunroof) แบบปรับไฟฟ้า โดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light Guide) และการออกแบบด้านข้างที่เห็นเส้นสายชัดเจน พาดจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง-เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว โดยเอ็มจี3 ใหม่ มี 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น C ราคา 5.19 แสนบาท , รุ่น D ราคา 5.49 แสนบาท , รุ่น X ราคา 5.89 แสนบาท และรุ่น V ราคา 6.29 แสนบาท
"เอ็มจี3 เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2558 และสามารถทำยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันนี้ 1.7 หมื่นคัน และเรามั่นใจว่า เอ็มจี3 ใหม่ ที่เพิ่งจะเปิดตัวนี้จะทำยอดขายได้กว่า 1 หมื่นคัน ภายในสิ้นปี 2561 ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเอ็มจี3 ใหม่ จะได้รับแพ็กเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี 5 ปี และบริการแพสชัน เซอร์วิส รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 1.2 กิโลเมตร , บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และบริการคำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 รวมไปถึงบริการเช็กระยะนอกสถานที่"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ในรุ่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถตู้ขนาดเล็ก , รถยนต์ไฟฟ้า , รถปิกอัพ โดยทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการศึกษา เบื้องต้น ในปีนี้จะเน้นไปที่รุ่นแซดเอสและเอ็มจี3 ใหม่
"รถรุ่นอื่น ๆ เรายังคงดูอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รถตู้เล็ก ที่เคยประกาศว่าจะเข้ามาทำตลาด หรือ ในกลุ่มเก๋งขนาดกลางก็ยังมีอยู่ เช่นเดียวกับรถปิกอัพ ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้น ต้องดูความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในบ้านเราว่า พร้อมหรือไม่ รวมไปถึงราคาจำหน่ายต้นทุนต่าง ๆ และการสนับสนุนจากทางภาครัฐ"
ขณะที่ แผนงานด้านเครือข่าย ปัจจุบัน มีจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการ 82 แห่ง โดยภายในสิ้นปีนี้ได้ตั้งเป้าที่จะขยายเป็น 120 แห่ง
ส่วนความพร้อมของโรงงานใหม่ ได้เริ่มผลิตตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 โดยโรงงานมีกำลังการผลิต 5 หมื่นคัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 1 แสนคัน
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 วันที่ 24-27 มิ.ย. 2561 หน้า 32-33
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เปิดตัว 'ALL NEW MG3' เคาะราคาเริ่มต้น 5.19 แสนบาท
● TEST DRIVE MG ZS
