บอร์ด ทอท. ไฟเขียว โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

20 มิ.ย. 2561 | 10:40 น.
- 20 มิ.ย. 61 - คณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วงเงินลงทุน 42,084.564 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยให้ ทอท. เสนอโครงการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ปัจจุบัน ทอท. กำลังดำเนินโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 60 ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม ทอท. ได้คาดการณ์ว่าในปี 2561 และ 2562 จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านคน และ 68 ล้านคนตามลำดับ ซึ่งเกินขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารหลังจากดำเนินการโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) แล้วเสร็จ และจะส่งผลให้ยังคงเกิดความแออัดในการใช้บริการท่าอากาศยาน 1200px-Suvarnabhumi_Airport_Logo.svg

ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของ ทสภ. ในอนาคตประกอบกับเพื่อดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศ แผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 เรื่องการพัฒนาระบบขนส่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จในภาคขนส่งทางอากาศโดยให้ท่าอากาศยานดอนมือง และ ทสภ. มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารที่ 90 ล้านคนต่อปี

ในปี 2562 และ 120 ล้านคนต่อปีในปี 2564 ตลอดจนเพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของรัฐบาล ทอท. จึงได้จัดทำโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ

ในการรองรับผู้โดยสารของ ทสภ. ได้อีก 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับประโยชน์จากระดับการให้บริการที่ดีของ ทสภ.จากการมีสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอรองรับความต้องการ ทำให้มีความสะดวกสบายและรวดเร็วในการใช้บริการท่าอากาศยาน นอกจากนั้น ยังก่อให้เกิดการจ้างงานและการสร้างรายได้ รวมทั้งกระจายความความเจริญสู่ชุมชนและภูมิภาคต่างๆ ของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. ใช้งบประมาณในการลงทุนรวม 42,084.564 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) sb2

สำหรับรายละเอียดโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. ประกอบด้วย

1. งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 บริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A มีพื้นที่ประมาณ 348,000 ตร.ม. เป็นอาคารแบบ Multi-Terminal สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 12 ล้านคนต่อปี และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 18 ล้านคนต่อปี พร้อมทั้งปรับปรุงลานจอดอากาศยานให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสารโดยมีหลุมจอดประมาณ 14 หลุมจอด

2. งานก่อสร้างปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบิน A, B และ C

3. งานก่อสร้างอาคารบริการท่าอากาศยานครบวงจร (Airport Multiplex Building: AMB) ด้านทิศใต้ของอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ พื้นที่อาคารประมาณ 84,000 ตร.ม. สามารถจอดรถยนต์ในอาคารได้ประมาณ 1,000–1,500 คัน และมีลานจอดรถยนต์ภายนอกอาคารอีกประมาณ 1,500–2,000 คัน

4. งานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ โดยเป็นระบบรถไฟฟ้าเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลัก (MTB) และอาคารเทียบเครื่องบิน A ในปัจจุบัน ไปยังอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และเชื่อมต่อการเดินทางจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 กับสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link มีระยะทางรวมทั้งระบบยาวประมาณ 2.5 กม.

5. งานระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เพื่อรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี และเชื่อมต่อกับระบบของอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน

6. งานก่อสร้างระบบถนนภายในท่าอากาศยานเพื่อใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2

และ 7. งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการฯ นอกจากนั้นจะมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการภายในท่าอากาศยาน ตลอดจนการใช้พื้นที่ใช้สอยอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน รวมถึงตระหนักในเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน bkk-transit01

ทอท. จะเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 พร้อมวงเงินลงทุนที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ทอท. แล้วให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2562 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564