‘MTS GOLD’ ยกชั้น โบรกฯอนุพันธ์ครบวงจรเทรด ผ่านตลาดCME 

27 มิ.ย. 2561 | 04:16 น.
การจับมือเป็นพันธมิตรกับตลาดอนุพันธ์ชั้นนำรายใหญ่สุดของโลก “CME GROUP”  ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการขยายตลาดซื้อขายทองคำอย่างครบวงจรของ MTS GOLD GROUP สู่อินเตอร์มากขึ้น

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ  ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ กรุ๊ปฯ (MTS GOLD GROUP)  ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรกับ CME GROUP  ตลาดซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ชั้นนำของโลกว่า เรามีบริษัทลูกคือ บจก.เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์  (MTS GOLD  FUTURES) เป็นโบรกเกอร์ด้านอนุพันธ์ และเป็นโบรกเกอร์ไทยรายแรกที่ได้รับเลือก โดยมีโบรกเกอร์ทั่วโลกที่ได้รับเลือกจาก  CME GROUP  เพียง 224 โบรกเกอร์เท่านั้น

[caption id="attachment_291481" align="aligncenter" width="350"] ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ[/caption]

CME GROUP  ตลาดซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ชั้นนำของโลกให้บริการซื้อขายอนุพันธ์ 4 ประเภทหลัก ได้แก่  CME, CBOT, NYMEX  และCOMEX  มีการจัดการสัญญาในปัจจุบันมากกว่า 3 พันล้านสัญญา มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 3.1 หมื่นล้านบาท) สินค้าที่นักลงทุนไทยทั่วไปคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและนักลงทุนทั่วโลกนิยมซื้อขาย  เช่น ทองคำ Comex และนํ้ามัน  Nymex, S&P 500 และ FX Futures

การร่วมลงทุนในครั้งนี้  จะทำให้บริษัท สามารถซื้อขายสินค้าผ่านตลาด CME ทำให้คนไทยสามารถลงทุนอนุพันธ์ต่างประเทศได้โดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง เพียงเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาระบบเทรดดิ้ง Meta Trader 5 หรือ MT5 ซึ่งเป็นโปรแกรมซื้อขายสัญญา ซื้อขายล่วงหน้าหรือสินค้า Futures ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี  โดยเทรดผ่านได้ทั้งคอมพิวเตอร์ (พีซี)  และมือถือ

“ จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดให้คนไทยสามารถไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งการลงทุนตลาดหุ้นตอนนี้ sideway ไม่แน่นอน ดังนั้นการลงทุนในอนุพันธ์ต่างประเทศ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่คนไทยสนใจกันมาก ไม่ต่างกับการเก็งกำไรทอง   high risk high return ลูกค้าที่เทรดเก็งกำไรระยะสั้น บางรายได้ผลตอบแทนต่อเดือนประมาณ 10%”

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่าแผนธุรกิจของบริษัท เราอยากจะโกอินเตอร์มากขึ้น สามารถเสนอโปรดักต์ต่างประเทศให้กับลูกค้าคนไทยไปลงทุนได้ ซึ่งหลังจากที่เปิดให้บริการซื้อขายสินค้าต่างประเทศ 2 สัปดาห์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยเปิดบัญชีซื้อขายแล้ว 300 บัญชี ตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปี จะเพิ่มเป็น  3  หมื่นบัญชีได้

gold1

“ในแง่กลยุทธ์ เราอยากเป็นโบรกเกอร์อนุพันธ์ครบวงจร  โดยเป้าหมายใน 1-2 ปี ต้องเป็นอันดับ 1 ของไทย เน้นเทรดทุกสินค้าได้ทั่วโลก เรามองอัตราเติบโตลูกค้ามีความต้องการที่จะเทรดต่างประเทศโดยตรงมาก  และเมืองไทยหลายโบรกเกอร์ยังไม่ได้มี  Offer ส่วนนี้ คาดสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นบัญชีได้”

ในด้านโบรกเกอร์ทองคำนั้น ที่ผ่านมา MTS GOLD ได้ขยายเข้าไปตั้งสำนักงานที่ต่างประเทศ อาทิที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง โดยมีแผนจะขยายตลาดไปทั่วอาเซี่ยน  เช่นกลุ่มประเทศ CLMV  (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย  โดยที่ตลาดสิงคโปร์ หลังจากเปิดมา 3 ปี  MTS GOLD ถือเป็นท็อป 3 ของสิงคโปร์ (การจัดอันดับในกลุ่มนอนแบงก์) มีโวลุ่มซื้อขายเติบโตปีละ 100-200% คิดเป็นมูลค่าเมื่อปี 2560  ประมาณ  5 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายจะต้องเป็นโบรกเกอร์ด้านทองคำติดอันดับ 1 ใน 3 ของอาเซียน ภายใน 3 ปี

“คือตอนนี้ทั้งอาเซียนและประเทศจีน พยายามสร้างระบบเชื่อมโยงการค้าทองคำเข้าด้วยกัน ซึ่งหากเราพร้อมก็จะเป็นหนึ่งในเจ้าที่จะเข้าไปครอบคลุมในตลาดอาเซียนที่เกี่ยวกับทองคำ การไปตั้งสำนักงานที่ฮ่องกงก็เป็นแผนในการรุกเข้าไปที่จีนซึ่งเป็นตลาดทองใหญ่ที่สุดในโลก

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,376 วันที่ 21-23 มิถุนายน 2561

e-book-1-503x62