จีนลั่น! พร้อมโต้กลับ ถ้าสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มอีกระลอก

19 มิ.ย. 2561 | 11:13 น.
เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์จีน ออกแถลงการณ์เช้าวันที่ 19 มิ.ย. 2561 ว่า จีนพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของชาติ โดยจะใช้มาตรการทุกรูปแบบตอบโต้ หากสหรัฐฯ มีรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นมาอีก "การขู่จะเก็บภาษีเพิ่มครั้งใหม่นี้ ถือเป็นการละเมิดการเจรจาและข้อมติที่ทั้ง 2 ประเทศ เคยตกลงกันไว้ สงครามการค้าที่เกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายแก่บริษัทและประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ" แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุ

ฝ่ายจีน ยังระบุด้วยว่า การสร้างแรงกดดันขั้นรุนแรงและแบล็คเมล ซึ่งไม่ต่างไปจากการขู่กรรโชกทรัพย์ อย่างที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่ในเวลานี้ ถือเป็นการเบี่ยงเบนไปจากข้อมติที่จีนและสหรัฐฯ เคยเจรจากันไว้ในหลายวาระโอกาสก่อนหน้า และนำมาซึ่งความผิดหวังแก่ประชาคมโลก

 

[caption id="attachment_291254" align="aligncenter" width="503"] (ซ้าย) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ขวา) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน (ซ้าย) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
(ขวา) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน[/caption]

"สหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายเริ่มต้นสงครามการค้า ที่ละเมิดกลไกและกฎเกณฑ์ของตลาด ไม่เป็นไปตามกระแสการพัฒนาของโลกในปัจจุบัน" แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนจะตอบโต้ด้วยการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ประชาชน และระบบการค้าเสรี ทั้งนี้ ไม่ว่าบริบทแวดล้อมของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะมุ่งมั่นเปิดประเทศและปฏิรูปต่อไป

ท่าทีล่าสุดของจีนครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังจะเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีกระลอก หลังจากที่มีประกาศไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โดยรอบหลังนี้ เป็นการมอบหมายให้ยูเอสทีอาร์ไปจัดทำบัญชีรายชื่อสินค้าจีนมาเพื่อเก็บภาษีเพิ่ม 10% คิดเป็นมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า การเก็บภาษีรอบหลังนี้จะมีขึ้น หากจีนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการค้า และหากยังยืนยันจะเก็บภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ ตามที่จีนได้ประกาศไว้


Republican 2016 U.S. presidential candidate businessman Donald Trump answers a question at the first official Republican presidential candidates debate of the 2016 U.S. presidential campaign in Cleveland

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ มอบหมายให้ยูเอสทีอาร์เก็บภาษีเพิ่มในอัตรา 25% ครอบคลุมสินค้าจีน มูลค่าส่งออกรวม 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยล็อตแรกมูลค่ารวม 34,000 ล้านดอลลาร์ จะเริ่มถูกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป

(Source : www.cnbc.com/2018/06/18/trade-war-watch-china-pledges-it-will-fight-back-firmly-if-trump-publishes-list-of-new-tariffs.html)

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวถึงสถานการณ์การตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และจีน ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 61 โดยสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีเข้าสินค้าจีน จำนวน 1,102 รายการ มุ่งสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบาย Made in China 2025 และจีนตอบโต้มาตรการดังกล่าวในทันที ด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ จำนวน 649 รายการ พุ่งเป้าสินค้าสำคัญที่มีนัยยะทางการเมือง กลุ่มการเกษตร ยานยนต์ และสินค้าประมง โดยมาตรการของทั้ง 2 ประเทศ มีมูลค่าการค้าใกล้เคียงกันประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


T07-3236-b

ทั้งนี้ การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และจีนครั้งนี้ แบ่งเป็นสินค้า 2 กลุ่ม คือ สินค้ากลุ่มที่ 1 ฝั่งสหรัฐฯ 818 รายการ และฝั่งจีน 545 รายการ มีอัตราการเก็บภาษีเพิ่มร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีผลบังคับใช้พร้อมกันวันที่ 6 ก.ค. 61 และสินค้ากลุ่มที่ 2 ฝั่งสหรัฐฯ 284 รายการ และฝั่งจีน 114 รายการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังอยู่ในกระบวนการทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) ก่อนที่ USTR จะประกาศรายการสินค้าและมาตรการที่จะใช้ต่อไป (ยังไม่กำหนดวันที่ชัดเจน)

ทั้งนี้ มาตรการโต้ตอบระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 2 อันดับแรกของโลกนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการค้าโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และบั่นทอนบรรยากาศการค้าการลงทุนโลก ในระยะสั้น ตลาดเงินและตลาดทุนมีแนวโน้มผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์และความไม่แน่นอน ด้านนโยบายของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการค้าการลงทุนด้วย โดยอาจมีการชะงักงันในการสั่งซื้อสินค้า และผู้ส่งออกในจีนและสหรัฐฯ อาจเริ่มมองหาตลาดอื่นทดแทน อย่างไรก็ตาม สนค. ยังไม่พบการส่งออกสินค้าที่เข้าข่ายถูกขึ้นภาษีระหว่างกันทะลักเข้ามาไทยสูงขึ้นกว่าปกติ ซึ่งหากมีสัญญาณผิดปกติ กระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการได้ทันทีอยู่แล้ว


Appoecd

"อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์อาจยังคงตึงเครียดระยะ 2–3 เดือนข้างหน้า แต่ในที่สุดแล้ว ทั้งสองฝ่ายอาจมีท่าทีผ่อนคลายข้อกีดกันทางการค้าลง หากประชาชน เกษตรกร หรือ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากสินค้าขึ้นราคา/ต้นทุนสูงขึ้น เพราะจีนได้คัดเลือกกลุ่มสินค้าเป้าหมายที่เป็นฐานเสียงโดยตรงของประธานาธิบดีทรัมป์ จึงอาจถูกกดดันให้ทบทวนมาตรการขึ้นภาษีก็เป็นได้"

สำหรับผลกระทบในระยะยาว สนค. ประเมินว่าสงครามทางการค้าในครั้งนี้อาจทำให้เกิดการปรับรูปแบบและโครงสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ (Trade Realignment) โดยกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบมีแรงจูงใจแสวงหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพการค้าในระยะยาว


003-1

ส่วนผลกระทบต่อการค้าไทยนั้น จากการคำนวณตัวเลข scenario ทั้งเชิงรุก/เชิงรับของการส่งออกไทย พบว่า โดยรวมแล้วไทยยังจะได้ประโยชน์จากการที่อาจส่งสินค้าไปขายทดแทนได้บางประเภท แต่มูลค่าไม่มากนัก ประมาณ 1000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 0.42% ของมูลค่าการส่งออกปี 2560 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไทยเองก็จำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ที่สร้างพันธมิตรทางการค้าการลงทุนกับประเทศอื่น ๆ ให้มากและเร็วขึ้น โดยเฉพาะต้องเร่งเปิดตลาดใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยงการส่งออก เปิดการเจรจาทางการค้าและกระชับมิตรกับประเทศใหม่ ๆ มากขึ้น ซึ่งการเยือนยุโรปของคณะนายกรัฐมนตรีก็ถือส่วนหนึ่งของการดำเนินการยุทธศาสตร์ใหม่ดังกล่าว

ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงและมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1-2 ในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปต่อเนื่อง สนค. มองว่า นับเป็นโอกาสดีต่อผู้ส่งออกในการเร่งผลักดันส่งออกสินค้าและรายได้การส่งออกในรูปเงินบาทสูงขึ้น


app9650024_s

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าอย่างใกล้ชิด โดย สนค. จะติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งฝั่งสหรัฐฯ และจีน แม้ว่าในภาพรวม ขณะนี้ ไทยจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากเรื่องตลาดทุนตลาดเงินที่มีความผันผวนสูง แต่เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสงครามการค้า สนค. จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาหารือกันโดยเร็วต่อไป


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'ประยุทธ์' สั่งเปิดประตู! ดึง 'จีน' ลงทุน EEC มอบ 'สมคิด' ศึกษาตั้ง 'องค์การมหาชน' ร่วมมือด้านวิจัยกับแดนมังกร
เปิดช่องเล่นหุ้นจีน AVA เล็งร่วมทุนฮ่องกงรุกโรบอต-เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม


e-book-1-503x62-7