ตลาด 2 ล้อ พลิกกลยุทธ์! 'ยามาฮ่า' รุกผลิตรถกอล์ฟ ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 1 ปี 65

25 มิ.ย. 2561 | 10:53 น.
ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 5 เดือนแรก ปี 61 หดตัว 2.7% ชี้! ราคาพืชผล-เศรษฐกิจฐานราก ยังไม่ดี ด้าน 'ยามาฮ่า' ขยับแผนในกลุ่มธุรกิจรถกอล์ฟ-เครื่องยนต์เรือ-เวฟรันเนอร์ พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในปี 2565

ผลจากภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วง 5 เดือนของปี 2561 ที่มียอดขายลดลง 2.7% เฉพาะเดือน พ.ค. ตัวเลขติดลบมากกว่า 11% โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดหดตัวเป็นผลมาจากเศรษฐกิจฐานรากยังไม่ดีขึ้น ตัวเลขราคาพืชผลทางการเกษตรต่ำ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดเทอม และจากการประเมินก็มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเริ่มอยู่ในภาวะทรงตัว ส่งผลให้บางค่ายต้องมีการปรับกลยุทธ์ ล่าสุด ค่ายยามาฮ่าที่ครองเบอร์ 2 ของตลาด ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแผน โดยจะรุกธุรกิจในส่วนที่ไม่ใช่จักรยานยนต์เพิ่มขึ้น


Print

"การแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงรุนแรงเหมือนเดิม แต่ปริมาณหรือความต้องการนั้น ถือว่าคงที่ ดังนั้น เราจึงพยายามที่จะหาเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ ที่จะเจาะเข้าไป ดังจะเห็นจากช่วงที่ผ่านมา ที่เราเจาะไปที่กลุ่มเครื่องยนต์เรือ , เวฟรันเนอร์ ล่าสุด คือ รถกอล์ฟ" นายประวัติ ประเสริฐพร ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายวางแผนการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวและว่า

ปัจจุบัน สัดส่วนธุรกิจของยามาฮ่ากว่า 70% ยังคงมาจากรถจักรยานยนต์ , 15% มาจากเครื่องยนต์เรือ , เรือและเวฟรันเนอร์ , รถบิ๊กไบค์ 5-10% และรถกอล์ฟ 5%

นาชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า เดิมทียามาฮ่ามีการนำเข้ารถกอล์ฟจากฐานผลิตในสหรัฐอเมริกาเข้ามาจำหน่ายในไทยต่อมาในปี 2558 ได้ลงทุนขึ้นไลน์ผลิตในรุ่นยามาฮ่า วายดีอาร์ ครูซ ป้อนทั้งตลาดในประเทศและส่งออกไปกว่า 10 ประเทศทั่วโลก และลาว กัมพูชา ในปีนี้และปีถัดไป

"ในตลาดต่างประเทศ รถกอล์ฟของยามาฮ่าถือว่าเป็นเบอร์ 1 ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 88% ส่วนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดรถกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรามีส่วนแบ่งตลาด 30% ขณะที่ ในเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนแบ่งทางการตลาดยังน้อย ดังนั้น ยามาฮ่าญี่ปุ่นจึงตัดสินใจที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก โดยใช้โรงงานเดียวกันกับที่ผลิตรถจักรยานยนต์ , เครื่องยนต์เรือ ซึ่งปัจจุบัน เรามีการใช้โลคัลพาร์ตมากกว่า 50% แล้ว"

สำหรับมูลค่าตลาดรถกอล์ฟในไทยมีประมาณ 760 ล้านบาทต่อปี หรือราว 4,000 คันต่อปี และยามาฮ่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดในปีที่ผ่านมา 8-10% และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 10-15% หรือคิดเป็นยอดขาย 1,700 คัน แบ่งเป็นขายในประเทศ 500 คัน , ส่งออก 1,200 คัน และในปี 2565 จะมีส่วนแบ่งการตลาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 30%

"เราจะเปิดตัวรุ่นใหม่ วายดีอาร์ ครูซ ขนาด 4 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ในเดือนนี้ และจะเริ่มส่งมอบในเดือนหน้า โดยจุดเด่นของรุ่นใหม่ คือ มีไฟแอลอีดี ส่องสว่างมากขึ้น และเราได้จับมือกับโตโยต้าในการผลิตมอเตอร์ เอซี พาวเวอร์ ที่ช่วยด้านแรงส่งให้มีมากขึ้น สามารถขับขี่ในพื้นที่ลาดชัน , เนินเขาได้ จุดเด่นต่อมา คือ ชุดประกอบด้านหลังสามารถถอดแยกชิ้นได้ ง่ายต่อการดูแล"


36063996_10156085079433101_7788156827396472832_n

โดย ยามาฮ่า วายดีอาร์ ครูซ มีให้เลือกตั้งแต่ 2 ที่นั่ง , 4 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.85-3.6 แสนบาท ซึ่งรุ่นใหม่ที่จะออกมาคาดว่าจะเพิ่มราคาอีกประมาณ 3-4 หมื่นบาทแล้วแต่รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่มิใช่แค่สนามกอล์ฟ อาทิ ธุรกิจการท่องเที่ยว , โรงแรม , รีสอร์ตและธุรกิจด้านบริการต่าง ๆ รวมไปถึงภาคธุรกิจอุตสาหกรรม , นิคมโรงงาน , อสังหาริมทรัพย์ และภาคธุรกิจอื่น ๆ

นายประวัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานหลังจากนี้จะพัฒนารถกอล์ฟรุ่นใหม่ ๆ ออกมาและจะนำรถไปให้ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย มีการทำกิจกรรมโรดโชว์ในภูมิภาคต่าง ๆ และที่สำคัญมีการรับประกันแบตเตอรี่ 4 ปี และประกันเครื่องยนต์ 1 ปี โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการหลังการขายได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการของยามาฮ่าไรเดอร์สคลับได้ทุกสาขา หรือราว 15 แห่ง ในสิ้นปีนี้ และบริษัทยังมีดีลเลอร์อีก 1 เจ้า คือ บริษัท ภราพัช อิเล็คโทรโมทีฟ จำกัด นอกจากนั้น แล้วยังเตรียมพิจารณาที่จะทำลีสซิ่งให้เช่าซื้อรถกอล์ฟได้ง่ายขึ้น

โดยการเพิ่มแนวรุกในครั้งนี้ มิใช่แค่เพียงยามาฮ่าค่ายเดียวเท่านั้น แต่ค่ายญี่ปุ่นอีกหนึ่งเจ้าอย่างซูซูกิ ที่ต้องเสียอันดับ 3 ในตลาดไปให้กับแบรนด์ไทยอย่างจีพีเอ็กซ์ ก็มีการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกเครื่องยนต์เรือ โดยพบว่า โรงงานของซูซูกิการผลิตเครื่องยนต์เรือในปี 2558 จำนวน 6.4 หมื่นเครื่อง ต่อมาในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นเครื่อง

เรียกได้ว่า เป็นการจัดกระบวนทัพของเหล่าผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ต้องมีการปรับตัวเพื่อรับกับการแข่งขันที่ดุเดือด


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,376 วันที่ 21-23 มิ.ย. 2561 หน้า 32-33

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ค่าย 2 ล้อกระทุ้งบีโอไอ ‘ฮอนด้า ยามาฮ่า’รอข้อสรุปแพ็กเกจรถพลังไฟฟ้า
ตลาด 2 ล้อจับเทรนด์ใหม่ ผ่ากลยุทธ์‘ฮอนด้า-ยามาฮ่า’ ปักธงขุมพลัง‘ไฮบริด-อีวี’


e-book-1-503x62-7