สหภาพ ขสมก. ยื่น ขบ. ให้พิจารณาขยายเส้นทางสัมปทานเดินรถ
สหภาพ ขสมก. ยื่นหนังสือถึง ขบ. เสนอ 3 ข้อ ให้พิจารณาขยายเส้นทางสัมปทานเดินรถ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชน
นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานฯ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2561 ณ ที่ทำการสหภาพแรงงานฯ อู่รถเมล์คลองเตย มีมติให้สหภาพแรงงานฯ ทำหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน ในการใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. และแก้ไขปัญหากิโลเมตรสูญเปล่า ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และให้แก้ไขปัญหารถโดยสารที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารผิดกฎหมาย หรือ รถเถื่อน ที่วิ่งรถทับเส้นทางสัมปทานของ ขสมก. มีรถตู้ และรถหมวด 4 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะเส้นทางรามอินทรา รามคำแหง และถนนพัฒนาการ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการตามที่เป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมาย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 โดยมีวัตถุประสงค์รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และผลประโยชนของรัฐวิสาหกิจ
ในการนี้ขอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณา 3 ประการ กล่าวคือ ประการที่ 1 ให้กรมการขนส่งทางบกได้พิจารณาขยายเส้นทางสัมปทานเดินรถโดยสารเพื่อรองรับในการให้บริการประชาชน ในช่วงเวลาที่รถในสายนั้น ๆ ขาดระยะ ให้สามารถติดป้ายรับ-ส่งผู้โดยสารก่อนนำรถวิ่งเข้าท่าต้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางสัมปทานเดินรถโดยสารของ ขสมก. ที่มีอยู่แล้ว ที่วิ่งให้บริการในเขตนั้น ๆ
ประการที่ 2 ขสมก. ได้ย้ายท่าปล่อยรถต้นทาง หรือ ที่ทำการอู่จอดรถเดิมย้ายไปอู่ใหม่ เหตุเพราะเอกชนบอกยกเลิกมิให้เช่าอู่ และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีความประสงค์ให้ยกเลิกอู่จอดรถที่เป็นของเอกชน และท่าปล่อยรถที่ไม่จำเป็น ทำให้ต้องย้ายท่าจอดรถต้นทางห่างไกลจากเส้นทางเดินรถที่มีอยู่เดิม องค์การจะต้องวิ่งรถเปล่ามาเข้าท่าต้นทาง หรือ อู่จอดรถ เห็นควรให้ขยายสัมปทานเส้นทางเดินรถให้สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการ เมื่อนำรถออกจากอู่สามารถวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทางได้ เพื่อเป็นการบริการประชาชน และแก้ไขปัญหารถขาดระยะในเส้นทางที่รถโดยสารวิ่งผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางของ ขสมก.
ประการที่ 3 ให้กรมการขนส่งทางบกส่งเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบ หรือ ตั้งด่านตรวจรถหมวด 4 และรถตู้ที่ผิดกฎหมาย รถเถื่อน และรถโดยสารทุกประเภทที่วิ่งผิดเงื่อนไขสัญญาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากตรวจพบให้ดำเนินการตามกฎหมายกรมการขนส่งทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถสาธารณะ และป้องกันการก่ออาชญากรรมบนรถโดยสารประจำทาง
"ดังนั้น ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นจึงให้เร่งนำเสนอผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขยายเส้นทางสัมปทานเดินโดยสารประจำทาง แก้ไขปัญหากิโลเมตรสูญเปล่า และรับ-ส่งผู้โดยสารเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งสหภาพแรงงานฯ ให้ทราบภายใน 30 วัน"
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "ขสมก." ยืนยัน "ไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร"
● สหภาพฯ ขสมก. ร้อง 'บิ๊กตู่' สาง 7 ปัญหาคาราคาซัง
นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานฯ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2561 ณ ที่ทำการสหภาพแรงงานฯ อู่รถเมล์คลองเตย มีมติให้สหภาพแรงงานฯ ทำหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน ในการใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. และแก้ไขปัญหากิโลเมตรสูญเปล่า ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และให้แก้ไขปัญหารถโดยสารที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารผิดกฎหมาย หรือ รถเถื่อน ที่วิ่งรถทับเส้นทางสัมปทานของ ขสมก. มีรถตู้ และรถหมวด 4 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะเส้นทางรามอินทรา รามคำแหง และถนนพัฒนาการ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการตามที่เป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมาย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 โดยมีวัตถุประสงค์รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และผลประโยชนของรัฐวิสาหกิจ
ในการนี้ขอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณา 3 ประการ กล่าวคือ ประการที่ 1 ให้กรมการขนส่งทางบกได้พิจารณาขยายเส้นทางสัมปทานเดินรถโดยสารเพื่อรองรับในการให้บริการประชาชน ในช่วงเวลาที่รถในสายนั้น ๆ ขาดระยะ ให้สามารถติดป้ายรับ-ส่งผู้โดยสารก่อนนำรถวิ่งเข้าท่าต้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางสัมปทานเดินรถโดยสารของ ขสมก. ที่มีอยู่แล้ว ที่วิ่งให้บริการในเขตนั้น ๆ
ประการที่ 2 ขสมก. ได้ย้ายท่าปล่อยรถต้นทาง หรือ ที่ทำการอู่จอดรถเดิมย้ายไปอู่ใหม่ เหตุเพราะเอกชนบอกยกเลิกมิให้เช่าอู่ และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีความประสงค์ให้ยกเลิกอู่จอดรถที่เป็นของเอกชน และท่าปล่อยรถที่ไม่จำเป็น ทำให้ต้องย้ายท่าจอดรถต้นทางห่างไกลจากเส้นทางเดินรถที่มีอยู่เดิม องค์การจะต้องวิ่งรถเปล่ามาเข้าท่าต้นทาง หรือ อู่จอดรถ เห็นควรให้ขยายสัมปทานเส้นทางเดินรถให้สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการ เมื่อนำรถออกจากอู่สามารถวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทางได้ เพื่อเป็นการบริการประชาชน และแก้ไขปัญหารถขาดระยะในเส้นทางที่รถโดยสารวิ่งผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางของ ขสมก.
ประการที่ 3 ให้กรมการขนส่งทางบกส่งเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบ หรือ ตั้งด่านตรวจรถหมวด 4 และรถตู้ที่ผิดกฎหมาย รถเถื่อน และรถโดยสารทุกประเภทที่วิ่งผิดเงื่อนไขสัญญาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากตรวจพบให้ดำเนินการตามกฎหมายกรมการขนส่งทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถสาธารณะ และป้องกันการก่ออาชญากรรมบนรถโดยสารประจำทาง
"ดังนั้น ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นจึงให้เร่งนำเสนอผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขยายเส้นทางสัมปทานเดินโดยสารประจำทาง แก้ไขปัญหากิโลเมตรสูญเปล่า และรับ-ส่งผู้โดยสารเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งสหภาพแรงงานฯ ให้ทราบภายใน 30 วัน"
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "ขสมก." ยืนยัน "ไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร"
● สหภาพฯ ขสมก. ร้อง 'บิ๊กตู่' สาง 7 ปัญหาคาราคาซัง
