การออกมาลงดาบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วยการลงโทษทางแพ่ง ซึ่งหมายถึง “ลงโทษแค่เปรียบเทียบปรับ” กรณีมีผู้ถือหุ้น-ผู้บริหารกลายเป็นไอ้โม่งสร้างราคาหลักทรัพย์ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC ซึ่งปัจจุบันคือ บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI รวม 7 ราย วงเงิน 120 ล้านบาทเศษ กลายเป็นเรื่องที่ชวนขบคิดสำหรับบทลงโทษของตัวการปั่นหุ้น สร้างราคา จนทำให้กลุ่มตัวเองรวย แต่มีนักลงทุนรายย่อย แมลงเม่าตายสนิทไปหลายพันราย
ทำไมเป็นเช่นนั้น ลองพิจารณาจากพฤติกรรมที่ ก.ล.ต. ตรวจสอบพบ ผู้ถือหุ้น และผู้บริหาร รวมถึงตัวแทนที่มีการโยนหุ้นกันไปมา สร้างราคา พบว่า มี 7 คนที่ร่วมทำเป็นขบวนการ
7 คนที่ว่าคือ นายสาธิตรุ่งวัฒนภักดิ์ เจ้าของและประธานกรรมการ บ้านราชประสงค์ และโครงการใหญ่ในหัวหินที่ลงทุนร่วม 4 หมื่นล้านบาท และเคยประกาศตัวในเรื่อง
“เทคนิคการสอนลูกให้เป็นคนดี”
คนต่อมาคือ นายชวิน รุ่งวัฒนภักดิ์ ผู้เป็นลูกชายนายสาธิต คนต่อมาคือ นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ABC นางสาวธัญภา เศวตศิลป, นางสาวโสรจจันทราทิพย์, นางสาวอัยย์ริณ ตั้งพูลเจริญ และ นางสาลิกา ตั้งพูลเจริญ
ก.ล.ต.พบว่าระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม- 30 มิถุนายน 2557 หุ้น ABC มีการซื้อขาย ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มีราคาปิดเพิ่มสูงขึ้นจากหุ้นละ 2.38 บาท เป็น 7.80 บาท
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาก โดยจากต้นปี 2557 แค่ประมาณ 3 หมื่นหุ้นต่อวัน ขึ้นมาเป็นประมาณกว่า 6 แสนหุ้นต่อวัน ทั้งซื้อๆ ขายๆ
จากการตรวจสอบพบว่ามาจากกลุ่มบุคคล 7 รายข้างต้นได้มีการดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการ โดยนายสาธิต มีบทบาทเป็นแหล่งเงิน ผ่านนางสาวธัญภา ไปให้นายปรเมษฐ์ ซื้อหุ้นABC และถือครองไว้แทนนายสาธิต ต่อมาใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวโสรจ เคาะซื้อผลักดันราคาหุ้น ABC
ในระหว่างนั้น นายปรเมษฐ์ ได้ขายหุ้น ABC แบบ Big Lot ให้กับนายสาธิต นายชวิน นางสาวอัยย์ริณ และนางสาลิกา เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจว่าหุ้น ABC มีการซื้อหรือขายกันมาก โดยตอนนั้น นายปรเมษฐ์ บอกว่าต้องการดับความร้อนแรงของราคา
และเมื่อมีผู้ลงทุนหลงผิดเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว กลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ได้เทขายหุ้นและทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่ปรับสูงขึ้น ทำให้มีผู้ลงทุนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
การกระทำของบุคคลทั้ง 7 ราย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด ซึ่งปัจจุบันการกระทำความผิดดังกล่าวยังคงเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดทั้ง 7 ราย ด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 7 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ซึ่งพิจารณาจากผลประโยชน์ ที่ผู้กระทำความผิดแต่ละรายได้รับ และผู้กระทำความผิดรายนายปรเมษฐ์ ได้ทำบันทึกยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งและชำระค่าปรับทางแพ่ง 500,000 บาทแล้ว
ต่อมาผู้กระทำความผิด 6 ราย ได้ลงบันทึกยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งและชำระค่าปรับทางแพ่งครบถ้วนแล้ว โดยนายสาธิต ชำระ 57.97 ล้านบาท นายชวิน ชำระ 57.97 ล้านบาท นางสาว ธัญภา ชำระ 5 แสนบาท นางสาวโสรจ ชำระ 5 แสนบาท นางสาว อัยย์ริณ ชำระ 5 แสนบาท และนางสาลิกา ชำระ 2.83 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งเป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต.จะนำส่งกระทรวงการคลังต่อไป
ส่วนนายปรเมษฐ์นั้น นอกจากโดนปรับแล้ว ก.ล.ต.ห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 3 ปี
เรื่องนี้จบ...แต่มันไม่น่าจะจบ
การปั่นหุ่นและสร้างราคานั้น ทำให้คนตัวเล็ก นักลงทุนรายย่อยกว่า 5,000 รายที่เข้าร่วมการซื้อขายในห้วงนั้นตายสนิท เงินเก็บมาลงทุนเพื่อหวังรายได้ไปหล่อเลี้ยงชีวิตต้องมลายหายวับ ขาดทุนเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะทำอย่างไร
มันคงไม่จบเพียงแค่เรียกมาปรับ 120 ล้านบาท แล้วส่งเงินเข้าคลัง เพราะความเสียหายเหล่านั้น นักลงทุนรายย่อยเสียหาย
และหากพิจารณาให้ดีกฎหมายใน “มาตรา 296 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุชัดว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 240 มาตรา 241 มาตรา 242 มาตรา 244/1 มาตรา 244/2 หรือมาตรา 244/3 (1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 240 หรือมาตรา 241 เป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับตั้งแต่ หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
โทษเหล่านี้ ใครจะเป็นผู้ดำเนินการ...ปกป้องผู้ถือหุ้นรายย่อยครับ
นักลงทุนต้องช่วยกันพิจารณาติดตามเรื่องนี้กันนะครับ เพราะเมื่อเดือนพฤษภาคม ก.ล.ต.เพิ่งทำเรื่องแจ้งครม.ไป เรื่องการดำเนินการทางแพ่งกับผู้กระทำผิดฐานปั่นหุ้น สร้างราคา โดยใช้อำนาจเปรียบเทียบปรับมาเป็นมาตรฐานการทำงาน (อ่านเอกสารประกอบ)
เรื่องปั่นหุ้น สร้างราคา ปรับไม่พอ ต้องเดินหน้าต่อเรื่องอาญา...ขรั่บนายท่าน
|คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
|โดย : บากบั่น บุญเลิศ
|หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3375 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.2561