ปตท. บริษัทน้ำมันรายแรกของไทยร่วมพัฒนา PTT e-Wallet กับ KBank ตอบสนองผู้บริโภคยุคดิจิทัล

15 มิ.ย. 2561 | 13:44 น.
ตอบรับนโยบายสังคมไร้เงินสด ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภค เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการ ณ สถานีบริการน้ำมันและร้านค้าปลีก ปตท. ด้วย PTT e-Wallet เริ่มให้บริการในไตรมาส 4 นี้

- 15 มิ.ย. 2561 - นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือพัฒนา PTT e-Wallet ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกสิกรไทย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการชำระเงินของผู้บริโภค สนองนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล ตามนโยบาย Thailand 4.0

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นวัตกรรมการเงินในยุคดิจิทัลสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มการใช้เงินสดลดลง ปตท. จึงปรับทัพธุรกิจค้าปลีก ด้วยการนำเทคโนโลยีด้านการเงินมาพัฒนา PTT e-Wallet รองรับกับวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค โดย ปตท. เป็นบริษัทน้ำมันรายแรกในประเทศที่พัฒนาระบบนี้เพื่อตอบสนองความคาดหวังและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติมากขึ้น ทั้งความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และความปลอดภัยด้วย e-wallet-kundan copy

PTT e-Wallet ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคได้มีช่องทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานีบริการน้ำมันและร้านค้าปลีก ปตท. ได้แก่ ร้านคาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น แด๊ดดี้โด ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ ศูนย์บริการยานยนต์ฟิตออโต้ และร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สามารถตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังได้ นอกจากนี้ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการสะสมแต้ม PTT Blue Card การค้นหาร้านค้าที่ใกล้เคียง และโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด โดยจะสามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบ Application หรือใช้ผ่านรูปแบบบัตรก็ได้

นอกจากนี้ ด้วยจำนวนสาขาของสถานีบริการน้ำมัน และร้านค้า ปตท. ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและความสะดวกเหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดให้ร้านค้าย่อยและชุมชนได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นช่องทางในการเสนอสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภค เพื่อเติบโตร่วมกับ ปตท. อีกด้วย 467015

“ปตท. นอกจากจะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะเชื่อมั่นว่าในโลกปัจจุบันเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในแง่ของการสร้างความรวดเร็ว สะดวกสบาย ความปลอดภัย และลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ  PTT e-Wallet จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของ ปตท. ในการต่อยอดเทคโนโลยี สร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมรับมือต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” น.ส.จิราพร กล่าวเพิ่มเติม

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาบริการยุคใหม่ ธนาคารกสิกรไทย ได้นำความเชี่ยวชาญจากการพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS ซึ่งเป็นแอปที่มีลูกค้าไว้วางใจและใช้บริการมากถึง 8.4 ล้านราย มาเป็นแนวทางในการวางโครงสร้างการพัฒนาแอปพลิเคชัน PTT e-Wallet ใน 2 ด้าน ดังนี้ T02-3324k

1. ออกแบบประสบการณ์การใช้งาน โดยมีโจทย์ตั้งต้นจาก ปตท. ที่มีความเข้าใจในลูกค้าเป็นอย่างดี เพื่อให้แอป PTT e-Wallet ใช้งานง่าย และ ปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้าของ ปตท. สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของ ปตท. ได้อย่างครบถ้วน

2. ออกแบบโครงสร้างวอลเล็ต ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ ปตท. ได้แก่ เชื่อมต่อเทคโนโลยีกับแอป K PLUS ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้แอป K PLUS สามารถสมัครใช้งาน PTT e-Wallet ได้ง่ายๆ ด้วยการยืนยันตัวตน (KYC) และสามารถโอนเงินเข้าวอลเล็ตได้ทันที สร้างระบบการเก็บข้อมูลแบบเดียวกับแอป K PLUS ช่วยรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมาก ภายใต้ความปลอดภัยระดับโลก และออกแบบระบบให้ API สามารถเชื่อมต่อกับพันธมิตรอื่นๆ เพิ่มโอกาสในการสร้างสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ร้านค้าอื่นๆ ภายในสถานีบริการ รวมถึงชุมชนมีส่วนร่วมในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายและชำระค่าสินค้าผ่านวอลเล็ตได้ในอนาคต

นายปรีดี กล่าวเสริมว่า ด้วยการออกแบบ PTT e-Wallet ตามแนวทางดังกล่าว นอกจากจะตอบสนองการใช้งานของลูกค้าให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีแล้ว จะสามารถตอบโจทย์ธุรกิจของ ปตท. ในการยกระดับการให้บริการลูกค้า ด้วยการนำฐานข้อมูลการใช้งานวอลเล็ตไปใช้ในการออกแบบแคมเปญที่ถูกใจตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแบบรายบุคคลได้ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนลดต้นทุนในการบริหารจัดการข้อมูลให้กับ ปตท. อีกด้วย