ไออาร์พีซี-WHAทุ่ม8พันล. เร่งผุดนิคมฯใหม่รับลงทุน
ไออาร์พีซีจับมือ WHA เร่งผุดนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ตามนโยบายรัฐบาลรับการลงทุนในอีอีซี คาดใช้งบลงทุนราว 7-8 พันล้านบาท พัฒนาพื้นที่กว่า 2 พันไร่ ล่าสุดอยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทร่วมทุน แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดตั้งเป็นบริษัทร่วมทุนด้วยทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท โดยไออาร์พีซี ถือหุ้น 40% และWHA ถือหุ้น 60% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบนที่ดินประมาณ 2,152 ไร่ บริเวณอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ที่คาดว่าจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะเริ่มพัฒนาพื้นที่ในปีหน้าเป็นต้นไป
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับ WHA เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรม อำเภอบ้านค่าย หลังจากบริษัทได้ลงนามข้อตกลง(MOU) ไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้
[caption id="attachment_290126" align="aligncenter" width="396"]
สุกฤตย์ สุรบถโสภณ[/caption]
โดยผลดีที่จะเกิดขึ้นกับไออาร์พีซี คือ สามารถขายที่ดินทั้งแปลงได้กว่า 2 พันไร่ ที่อำเภอบ้านค่าย ที่ไออาร์พีซีมีแผนจะขายอยู่แล้ว ขณะเดียวกันการร่วมทุน 40% จะทำให้ไออาร์พีซีมีผลตอบแทนเป็นรายได้จากการขายหรือให้เช่าที่ดิน หรือทำธุรกิจประเภทคลังสินค้า เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่จะเข้ามาลงทุนรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ประเภทธุรกิจยานยนต์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และชิ้นส่วนเครื่องบิน รวมถึงอุตสาหกรรมประกอบจักรกล อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสนับสนุน เป็นต้น
ทั้งนี้ การร่วมทุนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) จัดหาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ เพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซีที่จะเกิดขึ้น ที่มีเป้าหมายไว้ราว 1.2 หมื่นไร่ ที่ปัจจุบันกนอ.จัดหาได้แล้วราว 5 พันไร่ หากรวมพื้นที่นี้อีก จะทำให้เพิ่มเป็นกว่า 7 พันไร่
“ไออาร์พีซีจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินอำเภอบ้านค่าย 620 ล้านบาท แต่กำไรคงไม่ได้มากมายนัก ตอนนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่จะมาลงทุนในอีอีซีเป็นหลัก ส่วนไออาร์พีซีคงไม่ได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในนิคมดังกล่าว แต่จะรับรู้รายได้จากการทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม นอกเหนือจากธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามันและปิโตรเคมี” นายสุกฤตย์ กล่าว
นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาซื้อหรือร่วมลงทุน (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ 2-3 ราย คาดว่าจะสรุปได้อย่างน้อย 1 รายภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศ เน้นธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก หรือการนำเม็ดพลาสติกไปใช้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่จะขยายตัวได้อีกมาก โดยไออาร์พีซีมีการผลิตเม็ดพลาสติกชนิด UHMWPE ที่มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงเป็นพิเศษ ทนทานต่อการสึกกร่อนเสียดสี รองรับแรงกระแทกได้ดี และนํ้าหนักเบา จึงสามารถนำไปผลิตทดแทนโลหะได้ ทำให้บริษัทวางแผนจะขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกจากปัจจุบันอยู่ที่ 8 พันตันต่อปี เป็น 1.2 หมื่นตันต่อปี
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38| ฉบับ 3,375 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.61
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดตั้งเป็นบริษัทร่วมทุนด้วยทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท โดยไออาร์พีซี ถือหุ้น 40% และWHA ถือหุ้น 60% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบนที่ดินประมาณ 2,152 ไร่ บริเวณอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ที่คาดว่าจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะเริ่มพัฒนาพื้นที่ในปีหน้าเป็นต้นไป
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับ WHA เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรม อำเภอบ้านค่าย หลังจากบริษัทได้ลงนามข้อตกลง(MOU) ไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้
[caption id="attachment_290126" align="aligncenter" width="396"]
โดยผลดีที่จะเกิดขึ้นกับไออาร์พีซี คือ สามารถขายที่ดินทั้งแปลงได้กว่า 2 พันไร่ ที่อำเภอบ้านค่าย ที่ไออาร์พีซีมีแผนจะขายอยู่แล้ว ขณะเดียวกันการร่วมทุน 40% จะทำให้ไออาร์พีซีมีผลตอบแทนเป็นรายได้จากการขายหรือให้เช่าที่ดิน หรือทำธุรกิจประเภทคลังสินค้า เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่จะเข้ามาลงทุนรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ประเภทธุรกิจยานยนต์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และชิ้นส่วนเครื่องบิน รวมถึงอุตสาหกรรมประกอบจักรกล อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสนับสนุน เป็นต้น
ทั้งนี้ การร่วมทุนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) จัดหาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ เพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซีที่จะเกิดขึ้น ที่มีเป้าหมายไว้ราว 1.2 หมื่นไร่ ที่ปัจจุบันกนอ.จัดหาได้แล้วราว 5 พันไร่ หากรวมพื้นที่นี้อีก จะทำให้เพิ่มเป็นกว่า 7 พันไร่
“ไออาร์พีซีจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินอำเภอบ้านค่าย 620 ล้านบาท แต่กำไรคงไม่ได้มากมายนัก ตอนนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่จะมาลงทุนในอีอีซีเป็นหลัก ส่วนไออาร์พีซีคงไม่ได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในนิคมดังกล่าว แต่จะรับรู้รายได้จากการทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม นอกเหนือจากธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามันและปิโตรเคมี” นายสุกฤตย์ กล่าว
นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาซื้อหรือร่วมลงทุน (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ 2-3 ราย คาดว่าจะสรุปได้อย่างน้อย 1 รายภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศ เน้นธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก หรือการนำเม็ดพลาสติกไปใช้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่จะขยายตัวได้อีกมาก โดยไออาร์พีซีมีการผลิตเม็ดพลาสติกชนิด UHMWPE ที่มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงเป็นพิเศษ ทนทานต่อการสึกกร่อนเสียดสี รองรับแรงกระแทกได้ดี และนํ้าหนักเบา จึงสามารถนำไปผลิตทดแทนโลหะได้ ทำให้บริษัทวางแผนจะขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกจากปัจจุบันอยู่ที่ 8 พันตันต่อปี เป็น 1.2 หมื่นตันต่อปี
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38| ฉบับ 3,375 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.61
