‘รองเท้ายางพารา’บูม GROWY รุกขึ้นห้างชูจุดขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ

18 มิ.ย. 2561 | 08:43 น.
“โกร รับเบอร์ลาเท็กซ์” เตรียมขยายช่องทางจำหน่ายเข้าห้างสรรพสินค้า หวังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมเตรียมต่อยอดทำรองเท้ารุ่น 2 เชื่อดันรายได้ปีนี้โตที่ 12 ล้านบาท ชูจุดเด่นงานวิจัยจากคณะแพทย์และวิศวะในการเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

นางสาวอรฤดี เมฆตรง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกร รับเบอร์ ลาเท็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแตะยางพาราแบรนด์ “โกรวี่” (GROWY) และยางรองส้นเท้ายางพาราแบรนด์ “ฮีล ซูดเตอร์ (Heel Soolther) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทในปีนี้ ต้องการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า โดยมุ่งหวังให้แบรนด์ได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มของผู้บริโภคมากขึ้น แม้ว่าอาจจะมียอดขายไม่มาก ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์เดิมของบริษัทในช่วงแรก เพียงแต่ในช่วงนั้น บริษัทยังมีกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอ 7195

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมต่อยอดผลิตภัณฑ์โดยการเพิ่มรูปแบบของรองเท้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองความต้องการของร้านค้าที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะถามถึงชั้นวางที่เป็นของแบรนด์โดยเฉพาะ โดยเมื่อมีผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น บริษัทก็จะสามารถทำชั้นวางที่เป็นของแบรนด์ตนเองโดยเฉพาะได้

“ขั้นตอนของการผลิตรองเท้าในรุ่นต่อไปนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการคิดค้นสูตรในการใช้นํ้ายางพาราเพื่อนำมาขึ้นรูป ส่วนงบประมาณในการจัดทำแม่พิมพ์ได้ผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่าจากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10- 12 ล้านบาท หรือโตประมาณ 1-2 เท่าจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท”

ทั้งนี้ เดิมทีช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบันของรองเท้าแตะ และยางรองส้นเท้า โดยหลักจะมุ่งเน้นไปที่ร้านขายของฝากตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา และกระบี่ เป็นต้น โดยที่บริษัทจะเป็นผู้ดูแลเรื่องการเติมสต๊อกสินค้าด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการที่สั่งผลิตภัณฑ์ในปริมาณมาก เพื่อนำไปมอบให้เป็นของขวัญในงานเทศกาลสำคัญต่างๆ

สำหรับจุดเด่นของผลิต ภัณฑ์อยู่ที่การใช้วัตถุดิบที่เป็นยางพาราแท้ 100% เป็นยางพาราจากธรรมชาติโดยไม่มีการผสมสารสังเคราะห์แต่อย่างใด จะมีเพียงสารเคมีเล็กน้อยที่ใช้เพื่อการปรับสภาพของยาง และในส่วนที่เป็นสี ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่ไม่เกิดการลื่น และช่วยกระจายแรงกระแทกเวลาที่เคลื่อนไหว โดยมีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้มาจากงานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ช่วยบรรเทาอาการปวด เมื่อยล้าให้กับผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

7196 7197

นางสาวอรฤดี กล่าวอีกว่า หลักคิดในการทำธุรกิจของตนมาจากการที่ตนเป็นเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราโดยแท้จริง ดังนั้น จึงต้องการทำธุรกิจที่ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยปัจจุบันจะพบว่ามีปัญหาเรื่องของราคายาง ซึ่งบริษัทอาจจะเป็นเพียงฟันเฟืองขนาดเล็กของกลไกทั้งหมด แต่หากบริษัทไม่เริ่มที่จะดำเนินการแล้วหยุดนิ่งอยู่กับที่ การแปรรูปยางพาราก็คงจะหยุดนิ่งอยู่แค่การทำเป็นแผ่นยางรมควันเท่านั้นเหมือนในอดีต ไม่ได้มีการเพิ่มมูลค่าแต่อย่างใด

“บริษัทต้องการเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างให้กับอุตสาหกรรมยางพารา เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมได้เกิดการปรับตัว โดยที่ไม่ต้องมาติดอยู่กับวงจรเดิม ซึ่งจะต้องคอยลุ้นว่าราคายางพาราจะเป็นเท่าไหร่”

อนึ่ง ธุรกิจของบริษัท โกร รับเบอร์ ลาเท็กซ์ จำกัด เกิดจากการที่นางสาวอรฤดี มีโอกาสเข้าอบรมหลักสูตรระยะสั้นเป็นเวลาประมาณ 3 เดือนกับทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ เกี่ยวกับแผนและรูปแบบในการทำธุรกิจ ทำให้ได้พบกับงานวิจัยเกี่ยวกับยางรองส้นเท้า ตัวเธอจึงเข้าไปหารือกับเจ้าของงานวิจัยเพื่อทำธุรกิจร่วมกันจนเกิดเป็นยางรองส้นเท้ายางพารา และต่อยอดมาสู่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเองคือ รองเท้าแตะยางพาราในที่สุด โดยมีสถาบันวิจัยยาง ของ ม.อ. ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ

หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3374 วันที่ 14-16 มิถุนายน 2561

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6