BMW บุกรถยนต์ไฟฟ้า ยึดไทยฐานผลิต-เสริม ‘มินิ ปลั๊ก-อินไฮบริด’

16 มิ.ย. 2561 | 14:58 น.
ประธานใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย “คริสเตียน วิดมานน์” ประกาศแผนรุกธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2561 เผยส่วนแบ่งทางการตลาดและอัตราการเติบโตของรถในเซ็กเมนต์นี้กว่า 18% เล็งเพิ่มไลน์อัพ มินิ ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด และศึกษาสกูตเตอร์อีวี

แนวรุกของค่ายรถหรูในตอนนี้ถือว่าคึกคักและมีสีสันทีเดียว โดยค่ายใหญ่อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอ็มดับเบิลยู ที่มีโรงงานประกอบตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีทั้ง 2 ค่าย ต่างแสดงเจตจำนงในการบุกรถยนต์ไฟฟ้า ในรูปแบบของปลั๊ก-อินไฮบริด และได้ประกาศลงทุนอย่างต่อเนื่องในการเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆ อาทิ โรงงานแบตเตอรี่, บุคลากรที่จะออกมารองรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

ล่าสุดบีเอ็มดับเบิลยู เพิ่งออกมาโชว์วิสัยทัศน์ และแผนงานขับเคลื่อนในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า

bmw

“ปี 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊ก-อินไฮบริด ที่สูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 269% และในปี 2561 เราประเมินว่าตลาดรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ดังจะเห็นจากยอดการส่งมอบที่เพิ่มขึ้นถึง 44% ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2561” นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศ ไทย ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ มีผล วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมากล่าวและว่า

ยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ในกลุ่มปลั๊ก-อินไฮบริดในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาทำได้ 18% ซึ่ง
บีเอ็มดับเบิลยูวางเป้าหมายทั้งปีไว้ที่ 20% โดยมีโมเดลหลักที่จะขับเคลื่อนคือ 530e ส่วนผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรกของปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทำได้ 3,755 คัน เติบโต 18% โดยแบ่งออกเป็นยอดขายจาก บีเอ็มดับเบิลยู 3,511 คน เติบโต 20%, มินิ 244 คันลดลง 5% และบีเอ็ม ดับเบิลยู มอเตอร์ราด 690 คัน เติบโต 50%

ล่าสุดบีเอ็มดับเบิลยู ยังเพิ่มฟีเจอร์หรือบริการใหม่ BMW ConnectedDrive ที่จะออกมารองรับกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือ iPerformance โดยผู้ใช้งานจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้จากระยะไกล และยังเข้าถึงข้อมูลผ่านแอพพลิเคชัน BMW Connected บน iPhone

โดยบริการใหม่สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ประกอบไปด้วย การแสดงสถานะรถ
ปลั๊ก-อินไฮบริด ตรวจสอบแบตเตอรี่ ระยะทางที่คาดว่าจะแล่นได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลืออยู่ และข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถได้จากทุกที่ทุกเวลา การควบคุมการชาร์จพลังงานไฟฟ้าและระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารจากระยะไกล

ผู้ใช้งานสามารถเปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศในห้องโดยสารได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือตั้งเวลาเปิด/ปิดล่วง หน้าให้ตรงกับเวลาที่ต้องการออกเดินทาง และหากรถยนต์เชื่อมต่ออยู่กับสถานีชาร์จ ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมการชาร์จด้วยการตั้งเวลาที่ต้องการได้ เพื่อเลือกให้ชาร์จไฟฟ้าในช่วง off peak หรือในช่วงเวลาที่มีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าน้อยและมีอัตราค่าไฟฟ้าตํ่ากว่าช่วงเวลาอื่นๆ

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ระบบการนำทางที่สามารถค้นหาและนำทางไปยังสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดและการประมวลและแสดงผลข้อมูลการขับขี่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ของแต่ละบุคคล โดยวิเคราะห์รูปแบบการขับขี่และควบ คุมรถยนต์บนท้องถนน

สำหรับระบบดังกล่าวเป็นการจับมือกันกับไมโครซอฟท์ โดยมีการใช้อย่างแพร่หลายในทั่วโลก แต่สำหรับประเทศไทยเพิ่งจะทำการแนะนำในเฟสแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและล่าสุดคือเฟสที่ 2

“BMW ConnectedDrive เดิมทีรองรับกับรถยนต์ที่นำเข้าเป็นหลัก อาทิ เอ็กซ์2 ,ซีรีส์ 4 แต่หลังจากเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปก็จะติดตั้งในรถยนต์ที่ประกอบจากโรงงานในประเทศอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็ม ดับเบิลยู 530e และบีเอ็ม ดับเบิลยู 740Le ซึ่งไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม” นายวิดมานน์ กล่าว

นอกจากแผนงานด้านผลิตภัณฑ์หรือการใส่ฟีเจอร์-เทคโนโลยีใหม่ๆแล้ว บีเอ็ม ดับเบิลยูได้จับมือกับพันธมิตรโครงการ ChargeNow เพื่อให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ โดยตั้งเป้าหมายติดตั้งหัวจ่ายให้ครบ 50 แห่งภายในปี 2561 ซึ่งเมื่อรวมกับหัวจ่ายของดีลเลอร์บีเอ็ม ดับเบิลยูทั่วประเทศก็จะทำให้ภายในสิ้นปีนี้มีจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้ารวมทั้งหมดถึง 100 แห่ง

ไม่พียงเท่านั้นนายวิดมานน์ ยังเปิดเผยว่า บริษัทได้นำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาวิ่งทดสอบ เพื่อดูการทำงานของระบบไฟฟ้าและส่วนต่างๆหลังจากนั้นถึงจะพิจารณาอีกที แต่เบื้องต้นยังไม่มีแผนงานที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ส่วน มินิ มีความเป็นไปได้ที่จะมีรุ่นปลั๊ก-อิน ในอนาคต

“เดิมทีมินิ มีการประกอบบางรุ่นจากโรงงานของไทย แต่เนื่องจากเป็นนโยบายทั่วโลก ทำให้ต้องปรับเป็นการนำเข้าทั้งคัน แต่เร็วๆนี้เรากำลังจะปรับเป็นการประกอบแบบ SKD จากมาเลเซียซึ่งราคาจะแข่งขันได้ และมีการเพิ่มมูลค่าเข้าไปให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น” นายวิดมานน์ กล่าว

...ทั้งนี้คาดหมายกันว่ามินิ รุ่นที่จะมาพร้อมขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริดเป็นโมเดลแรกคือ “คันทรีแมน” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนที่จริงจังเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายบีเอ็ม ดับเบิลยู

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ3,374 วันที่ 14 - 16 มิถุนายน 2561