"บิ๊กตู่" บอกคนไทยอย่าเล่นพนันบอลโลก "เหน็บ" ประชุมครม.รถไฟ "ไม่ต้องมี"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ว่า ขอให้ทุกคนไม่เล่นการพนัน ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันตามพอสมควร แล้วเอาเวลาไปเรียนหนังสือ ถ้าไปเล่นการพนันจะเกิดการทวงหนี้และฆ่ากันตายตามมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงทีมชาติที่นายกฯเชียร์มีทีมใดบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีทั้งทีมชาติฝรั่งเศส บราซิล และอิตาลี ทีมชาติอิตาลีฟุตบอลเขามีลีลาดี ขณะที่นักฟุตบอลของทีมบราซิลก็เก่ง ทีมเหล่านี้ส่งคนไปเล่นฟุตบอลกระจายไปทั่วโลก แต่ไม่ใช่นักเลงบอลจึงดูการแข่งขันเอาพอแค่สนุก แล้วเอาเวลาช่วงกลางคืนมาทำงาน ไม่ได้มานั่งดูการแข่งขันฟุตบอลจนตาแฉะแล้วพอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้ทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีทีมในใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ในใจผมไม่เหลือไว้ทำอย่างอื่นอีกแล้ว นอกจากชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน” พร้อมกับทำมือแตะหน้าอกซ้าย ก่อนยกคำพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแปลจากภาษิตภาษาฝรั่งเศส ตอนหนึ่งว่า มะโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับสื่อมวลชนที่ร่วมขบวนรถไฟมาตรวจราชการจากจ.พิจิตร ถึงจ.นครสวรรค์ว่า "ร้องเพลงสิ" ผู้สื่อข่าวถามว่าให้ร้องเพลงอะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวทันทีว่า “ทัวร์นกขมิ้นไง” ผู้สื่อข่าวถามว่าทัวร์ใครทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทัวร์ใครไม่รู้เหมือนกัน ส่วนการประชุมบนรถไฟรัฐบาลนี้ไม่ต้องมีหรอก ประชุมข้างล่างก็เวียนหัวพออยู่แล้ว วันนี้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่สงสารชาวบ้านบ้างหรือ
“เห็นแววตาและหน้าตาไหม พวกเขามีความสุขใช่ไหม แล้วจะให้ชาวบ้านไปทะเลาะเบาะแว้งกันทำไมอีก พวกเขามีความหวังกับทุกรัฐบาล วันหน้าก็หวังกับรัฐบาลหน้า บางคนรักนายกฯก็เรื่องของพวกเขา ผมยังไม่ทันพูดว่าจะเป็นรัฐบาล ทำไมต้องละเลงกันไปมาจนเสียไปหมด วันนี้จะไม่ตอบเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้มาทำการเมือง การท่องเที่ยวก็งาม ธรรมชาติก็ดี เหลือแต่คนไทยต้องรักกัน อย่าทำให้วุ่นวาย ไม่ได้โทษสื่อ เพราะมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทำให้วุ่นวาย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ขึ้นรถไฟแล้ว ทำไมไม่ประชุมครม.บนรถไฟ นายกฯกล่าวว่า “คุยยังไม่รู้เรื่องเลย จะมาประชุม ครม.บนรถไฟ สร้างภาพกันทั้งนั้น เอาไว้รถไฟความเร็วสูงก่อน ยังประชุมไม่เสร็จก็ถึงแล้ว แต่อย่าบ่นนะว่าเร็วเกินไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายกรัฐมนตรีอยู่บนโบกี้รถไฟ ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า” บางเรื่องเราอยากจะมี อยากจะเป็นแบบเขา อะไรที่ใช้กันได้ก็ใช้ไป จะคิดใหม่บางทีก็เสียเวลา แต่ถ้าเราไม่ทำแบบเขาเลยก็ไม่ได้ เราต้องดูความเป็นไปเป็นมาของต่างประเทศที่กว่าเขาจะเป็นวันนี้ได้ ก็ต้องฝ่ามาเยอะ ใช้กฎหมายอย่างแรง แต่ของเราบังคับใช้มากไม่ได้ เพราะคนมากขึ้น ก็ไม่อยากให้ไปขยายความให้คนที่ไม่เข้าใจกฎหมาย ถ้าเราสนใจคนเล็กๆ ที่ทำผิดกฎหมาย แล้วปล่อยไป ส่วนใหญ่เดือดร้อนหมด
จำไม่ได้หรือที่ผ่านมา สื่อนี่สำคัญที่สุด ไม่ได้เอาใจสื่อ ไม่ได้กลัว ส่วนการบิดเบือนในโซเชียล สื่อต้องไปเตือนพวกเขา รัฐบาลจะไปทำอะไร ก็สื่อละเมิดจรรยาบรรณสื่อบ้าง ละเมิดไปเรื่อย ก็ตีความกันเข้าไป ส่วนการเลือกตั้งอยากเลือกก็เลือกไป ขณะที่โซเชียลโจมตีหนักขึ้นก็โจมตีไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าเรื่องจริงก็ต้องเดือดร้อน ถ้าไม่จริงก็ไม่เดือดร้อน วันนี้ผมทำให้อารมณ์ดีอย่างเดียว
เราอย่าไปกลัวสื่อโซเชียล ถ้ากลัวมันก็จะเป็นอย่างนี้ จะให้ไปควบคุมอะไรอย่างไร เพราะสื่อมันมาจากต่างประเทศ มาจากยูทูบจะให้คุมอย่างไร แล้วพวกเขาสนใจกฎหมายไหม แล้วรัฐบาลไม่จำเป็นต้องตั้งรับอะไร เพราะไม่เคยไปรุกใคร ผมทำหน้าที่ของผม ผมไม่รับไม่รุก ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบอะไร ก็ทำงานให้ก้าวหน้า” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่ขบวนรถไฟได้หยุดจอดที่สถานีทับกฤช ซึ่งมีประชาชนมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีจำนวนหนึ่ง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าค้าขายกันตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรีได้โบกมือทักทาย และสอบถามว่า”ขายอะไรกันบ้าง ขนมหวาน ไก่ย่าง ใช่ไหม แล้วขายได้เยอะไหม”
นายกรัฐมนตรีได้ถามแม่ค้าคนหนึ่งว่า “ของทั้งหมดราคาเท่าไหร่ ให้ไปรวมกับทุกเจ้าที่ขายอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องไปขายใครแล้ว เดี๋ยวนายกฯเหมาทั้งหมด แจกข้างล่างกินไป เท่าไร เอาตังค์นายกฯไป นายกฯซื้อเลี้ยงพวกเรา เอ๊ะ แล้วมันจะผิดกฎหมายหรือเปล่า ผิดไหม เกิน 3 พันหรือเปล่า นายกฯให้เงินซื้อของกับแต่ละเจ้า พวกหัวหมออย่าเอาไปรวมกัน”
ผู้สื่อข่าวถามถึงทีมชาติที่นายกฯเชียร์มีทีมใดบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีทั้งทีมชาติฝรั่งเศส บราซิล และอิตาลี ทีมชาติอิตาลีฟุตบอลเขามีลีลาดี ขณะที่นักฟุตบอลของทีมบราซิลก็เก่ง ทีมเหล่านี้ส่งคนไปเล่นฟุตบอลกระจายไปทั่วโลก แต่ไม่ใช่นักเลงบอลจึงดูการแข่งขันเอาพอแค่สนุก แล้วเอาเวลาช่วงกลางคืนมาทำงาน ไม่ได้มานั่งดูการแข่งขันฟุตบอลจนตาแฉะแล้วพอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้ทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับสื่อมวลชนที่ร่วมขบวนรถไฟมาตรวจราชการจากจ.พิจิตร ถึงจ.นครสวรรค์ว่า "ร้องเพลงสิ" ผู้สื่อข่าวถามว่าให้ร้องเพลงอะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวทันทีว่า “ทัวร์นกขมิ้นไง” ผู้สื่อข่าวถามว่าทัวร์ใครทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทัวร์ใครไม่รู้เหมือนกัน ส่วนการประชุมบนรถไฟรัฐบาลนี้ไม่ต้องมีหรอก ประชุมข้างล่างก็เวียนหัวพออยู่แล้ว วันนี้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่สงสารชาวบ้านบ้างหรือ
“เห็นแววตาและหน้าตาไหม พวกเขามีความสุขใช่ไหม แล้วจะให้ชาวบ้านไปทะเลาะเบาะแว้งกันทำไมอีก พวกเขามีความหวังกับทุกรัฐบาล วันหน้าก็หวังกับรัฐบาลหน้า บางคนรักนายกฯก็เรื่องของพวกเขา ผมยังไม่ทันพูดว่าจะเป็นรัฐบาล ทำไมต้องละเลงกันไปมาจนเสียไปหมด วันนี้จะไม่ตอบเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้มาทำการเมือง การท่องเที่ยวก็งาม ธรรมชาติก็ดี เหลือแต่คนไทยต้องรักกัน อย่าทำให้วุ่นวาย ไม่ได้โทษสื่อ เพราะมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทำให้วุ่นวาย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายกรัฐมนตรีอยู่บนโบกี้รถไฟ ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า” บางเรื่องเราอยากจะมี อยากจะเป็นแบบเขา อะไรที่ใช้กันได้ก็ใช้ไป จะคิดใหม่บางทีก็เสียเวลา แต่ถ้าเราไม่ทำแบบเขาเลยก็ไม่ได้ เราต้องดูความเป็นไปเป็นมาของต่างประเทศที่กว่าเขาจะเป็นวันนี้ได้ ก็ต้องฝ่ามาเยอะ ใช้กฎหมายอย่างแรง แต่ของเราบังคับใช้มากไม่ได้ เพราะคนมากขึ้น ก็ไม่อยากให้ไปขยายความให้คนที่ไม่เข้าใจกฎหมาย ถ้าเราสนใจคนเล็กๆ ที่ทำผิดกฎหมาย แล้วปล่อยไป ส่วนใหญ่เดือดร้อนหมด
จำไม่ได้หรือที่ผ่านมา สื่อนี่สำคัญที่สุด ไม่ได้เอาใจสื่อ ไม่ได้กลัว ส่วนการบิดเบือนในโซเชียล สื่อต้องไปเตือนพวกเขา รัฐบาลจะไปทำอะไร ก็สื่อละเมิดจรรยาบรรณสื่อบ้าง ละเมิดไปเรื่อย ก็ตีความกันเข้าไป ส่วนการเลือกตั้งอยากเลือกก็เลือกไป ขณะที่โซเชียลโจมตีหนักขึ้นก็โจมตีไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าเรื่องจริงก็ต้องเดือดร้อน ถ้าไม่จริงก็ไม่เดือดร้อน วันนี้ผมทำให้อารมณ์ดีอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่ขบวนรถไฟได้หยุดจอดที่สถานีทับกฤช ซึ่งมีประชาชนมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีจำนวนหนึ่ง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าค้าขายกันตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรีได้โบกมือทักทาย และสอบถามว่า”ขายอะไรกันบ้าง ขนมหวาน ไก่ย่าง ใช่ไหม แล้วขายได้เยอะไหม”
นายกรัฐมนตรีได้ถามแม่ค้าคนหนึ่งว่า “ของทั้งหมดราคาเท่าไหร่ ให้ไปรวมกับทุกเจ้าที่ขายอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องไปขายใครแล้ว เดี๋ยวนายกฯเหมาทั้งหมด แจกข้างล่างกินไป เท่าไร เอาตังค์นายกฯไป นายกฯซื้อเลี้ยงพวกเรา เอ๊ะ แล้วมันจะผิดกฎหมายหรือเปล่า ผิดไหม เกิน 3 พันหรือเปล่า นายกฯให้เงินซื้อของกับแต่ละเจ้า พวกหัวหมออย่าเอาไปรวมกัน”