คำ ต่อ คำ | ภารกิจเปลี่ยนประเทศ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"

[caption id="attachment_288860" align="aligncenter" width="404"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ[/caption]

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาใน งานสัมมนา E-Commerce Big Bang เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2561 ระบุ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่กลับมาการเมือง และปีนี้ก็เป็นปีที่ 4 กว่า 10 ปีที่แล้ว ผมอยู่ 6 ปี ฟื้นจนประเทศพ้นจากภัยของพิษต้มยำกุ้ง มันน่าเสียดายมากที่เราพลาดโอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศของเรา พลาดโอกาสจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ หายไป 10 ปี 10 ปีไม่ว่าที่รัฐบาลใดก็แล้วแต่ที่มา แล้วมันยากที่จะขับเคลื่อน เพราะว่า สภาพของสังคมมันไม่เอื้ออำนวย

10 ปีที่ผ่านมา เป็น 10 ปี ที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราสามารถขับเคลื่อนได้เร็วมาก ประเทศจีนกลายเป็นมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ เวียดนามมาแรงมาก ควบคู่กับอินโดนีเซีย มาเลเซีย มีไทยเรานี่แหละที่ย่ำเท้าอยู่กับที่ ทั้ง ๆ ที่เรามีศักยภาพเต็มเปี่ยม




เมื่อผมเข้ามาครั้งที่ 2 ผมตั้งใจแต่แรกแล้ว และไม่เคยเปลี่ยนแปลงว่า ผมมี 2 ภารกิจ ภารกิจที่ 1 คือ ต้องพยายามอย่าให้จีดีพีเราหล่นไปไกลกว่านี้ เพราะถ้าความเชื่อมั่นเราทรุดต่ำไปกว่านั้น จะฉุดขึ้นมายาก เพราะเศรษฐกิจนั้นมันขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกของคน ถ้าคนเราไม่มีความเชื่อมั่น คนจะไม่บริโภค นักลงทุนไม่ลงทุน ต่างประเทศยังไม่เข้ามา

ประการที่ 2 ก็คือ ต้องเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้ เฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่เราเก็บความรู้ และการเฝ้าสังเกตต่าง ๆ ในต่างประเทศอยู่ในสมองของเรา และรู้จุดอ่อน จุดแข็ง ของเศรษฐกิจบ้านเรามาตั้งแต่สมัยยุคแรกที่เข้าไปเป็นรัฐมนตรี 6 ปี

 

[caption id="attachment_288754" align="aligncenter" width="503"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ[/caption]

ตอนนี้ข้อแรกผ่านพ้นไป จีดีพีโต 4.8% แต่ข้อเท็จจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ ก็คือว่า มันยังกระจายไปไม่ทั่วถึงข้างล่าง ผมก็ถามว่า จะให้กระจายทั่วข้างล่างได้ดี มีเหตุผลอยู่กี่ประการ 1.ราคาพืชผลต้องดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'ข้าว' , 2.การพัฒนาพื้นที่ในชนบทต้องเข้มแข็ง หมายความว่า เศรษฐกิจชาวบ้านนั้นต้องไม่ใช่อยู่แค่สินค้าเกษตร คุณต้องสามารถผลิตสินค้าอย่างอื่นได้ การท่องเที่ยวชุมชน มีการพัฒนาภายในจากรากหญ้า ต้องโตจากภายใน ไม่ใช่แค่ประกันราคาแต่ละอย่าง




ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 4 ปี โครงการที่ลงไปจากแบงก์รัฐลงไปช่วยเหลือภาคเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท และงบที่ลงมาสู่เอสเอ็มอีไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท อันนั้นเป็นการประคอง เป็นการบรรเทา แต่ถ้าเราจะพลิกประเทศจริง ๆ มันต้องมีวิธีการอื่นที่ช่วยให้เขาเข้มแข็งขึ้นมา




สิ่งที่เราต้องการ คือ ต้องการเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นประเทศที่เน้นเรื่องของการเพิ่มมูลค่าของผลผลิต จะทำอย่างไรในเชิงของมาตรฐาน เชิงคุณภาพ เชิงของการแปรรูป เชิงของการใช้เทคโนโลยี นี่คือ สิ่งสำคัญที่สุด งบประมาณปี 62 เรามีงบเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศประมาณ 4 แสนล้านบาท พอ ๆ กับงบที่มาช่วยให้เกิดความเท่าเทียมกันในหมู่เศรษฐกิจรากหญ้าอีกประมาณ 4 แสนล้านบาท

เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหางบประมาณมาเพื่อ 2 ประการนี้ เพราะเรารู้ว่า ความสามารถในการแข่งขัน คือ ตัวที่ทำให้เราสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าความสามารถในการแข่งขันทำให้เกิดความมั่งคั่ง แล้วไม่สามารถกระจายลงไปได้ ประเทศมันอยู่ไม่ได้ ฉะนั้นเรื่องของการสร้าง Balanced Growth เป็นสิ่งสำคัญมาก


 

[caption id="attachment_288756" align="aligncenter" width="503"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ[/caption]

ประการที่ 2 ก็คือ ที่ต้องพยายามไปสู่อนาคตที่เราสามารถสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อุตสาหกรรมเหล่านี้ คือ ตัวที่จะสามารถทำให้เรามีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ทุกภาคมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้าเราขายแต่ปริมาณถูก ๆ ประเทศไม่มีทางมั่งคั่งขึ้นมาเลย

ฉะนั้น อีอีซีจึงเกิดขึ้นมา โครงสร้างสาธารณูปโภคจึงเกิดขึ้นมา โครงการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้มาอีอีซีจึงเกิดขึ้นมา การลงทุนในรถไฟฟ้า ลงทุนในรถไฟความเร็วสูง ลงทุนในถนนหนทาง หรือ ดิจิตอล ก็เพื่อให้ประเทศไทยนั้นน่าสนใจที่สุดที่ชาวต่างประเทศที่มีความสามารถเหล่านั้นจะเลือกไทย มากกกว่าไปเวียดนาม มากกว่าไปอินโดนีเซีย มากกว่าไปมาเลเซีย มากกว่าจะไปสิงคโปร์




10 ปีที่ผ่านมา เวียดนามอยู่ตรงไหนยังไม่รู้เลย วันนี้เขาหายใจรดต้นคอเรา ฉะนั้น เราไม่มีเวลามานั่งสบายอีกต่อไป โครงการอีอีซีออกมาแล้ว กฎหมายออกมาแล้ว การขับเคลื่อนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่ง

สิ่งสำคัญถัดมา คือ เรื่องของเทคโนโลยีแห่งอนาคต การสร้างผู้ประกอบการใหม่ ผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ต้องดูว่า ในสายโซ่ของแวลูเชนนั้น สมมติผมจะผลิตอาหารแปรรูป มันมีแวลูเชน ไล่ไปถึงซัพพลาย ไปถึงพื้นที่ ไปถึงโลจิสติกส์ และถ้าผมดูซัพพลายเชนของการท่องเที่ยว มันมีตั้งแต่เรื่องท่องเที่ยวไปจนกระทั่งอาหารการกิน ไปถึงบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งสายห่วงโซ่นี้แหละ ที่ผู้ประกอบการใหม่เหล่านี้จะไปสร้างมูลค่าจากตรงนั้นขึ้นมา




หากว่า ท่านสามารถส่องกล้องดูในทุกขั้นตอนของแวลูเชน โอกาสทางธุรกิจมันเกิดเสมอ แต่โอกาสเหล่านี้ในอดีตมันเกิดไม่ได้ เพราะคนตัวเล็กไม่มีกำลังจะไปสู้กับเขา เงินก็ไม่ถึง โฆษณาก็ไม่มี แถมมีอะไรเบี้ยบ้ายรายทางเต็มไปหมด แต่พอดิจิตอลมามันเปลี่ยนแล้ว

ดิจิตอลสำคัญมาก มันเปลี่ยนพฤติกรรมของธุรกิจ ถ้าเรารู้ว่า ดิจิตอลมา เราจะไม่รอช้า เอกชนที่ยังมัวงุ่มง่าม ท่านเคยอ่านนิยายโกวเล้งมั้ย เขาบอกว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา อย่าให้ต้องถึงเห็นโลง เพราะเรารู้ว่า อนาคตมาแน่นอน ถ้าผมเป็นคนขายของ ถ้าดิจิตอลของผมสามารถสื่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผมมี Big Data ข้อมูลเต็มไปหมด ผมรู้ว่า ผมจะผลิตและขายสินค้าอะไรถึงจะขายได้ ในขณะที่ อีกกลุ่มที่งุ่มง่ามทำอะไรก็ไม่เป็น ไม่มีดิจิตอล คิดเอาเอง มัวแต่ทำมาร์เก็ตรีเสิร์ชแบบดั้งเดิม คุณคิดว่าใครจะชนะ

 

[caption id="attachment_288757" align="aligncenter" width="503"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ[/caption]

ถ้าเราตามไม่ทัน ผมประกาศไปแล้วว่า ผมไม่รอนะที่บอกว่า 5-6 ปีข้างหน้า ผมจะเอาปี 2020 (2563) เป็นเป้าหมายว่า 5จี พยายามให้เกิด ไม่เกิดไม่เป็นไร แต่เราตั้งเป้า เพราะทำไม จีนประกาศปีหน้า ถ้าสมมติสิงคโปร์บอกผม 5จี ตามมา เวียดนามประกาศ 5จี ตามมา ผมถามท่าน ถ้า 5จี มา อุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลายจะอยู่ที่ไหน มันไปอยู่ที่ที่มี 5จี มากกว่า 4จี ประเทศห่างไกลไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เขามี 5จี เรามี 4จี ผมถามว่า ไปรอดมั้ย ไปไม่รอด

ดิจิตอลเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องพฤติกรรม ทั้งเรื่องการค้าออนไลน์ ทั้งเรื่องของการไปสู่การสร้างความเจริญในเมืองต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ คือ ความคิดอ่านที่อยู่ในสมองของเรา ออกมาทีละตอน ๆ เหมือนกับเวลาเขียนหนังสือ ผมออกมาทีละตอน ๆ ถ้าท่านเย็บเล่มเข้าด้วยกัน ท่านจะเข้าใจเลยว่า 1.ต้อง Sustain เศรษฐกิจของเราไม่ให้ทรุด , 2.ต้องสร้าง Balanced Growth , 3.ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจของเราให้ทันสมัย สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างอองเทรอเพรอเนอ (เถ้าแก่) สร้างเมืองที่มันทันสมัย ให้ความเจริญกระจายออกไปเมืองใหญ่ ๆ ขึ้นมาให้มันมีสัก 15 เมือง 20 เมือง ดูสิว่า จีดีพี 5% มันไม่ครณาเลย ถ้าไม่ทำอะไรเลยจำนำลูกเดียว ท่านคิดว่า ในโลกแห่งอนาคตข้างหน้าอยู่ได้มั้ย ถ้ามัวแต่บอกว่า ละทิ้งชาวนา ไม่จำนำ ไม่ช่วยเหลือ ไม่รดน้ำที่ราก อนาคตจะมีไหม




ผมบอกนานแล้วว่า การเป็นรัฐบาลไม่ใช่ว่า มาตามใจคน คนที่จะมาเป็นรัฐบาลต้องสามารถเห็นอนาคตของประเทศ ต้องกล้าทำในสิ่งที่เป็นอนาคตของประเทศ ถ้าคุณมั่นใจว่า คุณจะเป็นรัฐบาลได้ คุณต้องเห็นในสิ่งที่คนเขาไม่เห็น

อนาคตต้องมี อี-คอมเมิร์ซ แน่นอน แต่ถ้าจะให้ดี ข้อที่ 1.การบริการกระทรวงพาณิชย์ต้องเป็นเลิศอย่าแพ้เอกชน ตอนนี้เราเริ่มต้นแล้ว ท่าน จะต้องทำใจให้เปิดร่วมกับเอกชน ประสานเน็ตเวิร์กทั้งหมดตลอดแวลูเชนว่า จะให้เร็วที่สุดได้อย่างไร เพื่อให้ตรงนี้สามารถเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นหลักให้คนไทยตัวเล็กได้ ต้องใจเปิดพอตรงนี้เชื่อมกับยักษ์ใหญ่ต่างประเทศ คุณอย่าไปแข่งกับเขา สู้เขาไม่ได้หรอก แต่ต้องเชื่อมต่อเชื่อมโยงกับเขา รู้จักเอายักษ์ชนยักษ์ มีอาลีบาบา คุณต้องมี JD คุณต้องมี Amazon เข้ามา ต้องโรดโชว์ไปหาสินค้าทุกชุมชน ทีมงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้าต้องร่วมกับกรมพัฒนาชุมชนของกระทรวงมหาดไทย ร่วมมือกับอุตสาหกรรมและพัฒนาสินค้า ตัวไหนดีคัดเลือกมาเข้าเว็บไซต์ เข้าแพลตฟอร์มตัวไหนไม่ดีต้องพัฒนา สินค้าที่หลากหลาย สินค้าที่ดีมันถึงจะขายได้และข้อสำคัญแบรนด์ thaitrade.com ต้องเป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะคำว่า TRUST ความเชื่อมั่นมันเกิด เมื่อความเชื่อมั่นเกิด ทุกคนจะไหลมาที่แพลตฟอร์มนี้ นี่คือ การสร้างโอกาสให้กับประเทศ ทำแพลตฟอร์มนี้ให้เป็นที่น่าไว้ใจ น่าเชื่อถือของคนไทยเรา ไปช่วยเขาพัฒนาสินค้าตรงนี้ขึ้นมา

 

[caption id="attachment_288759" align="aligncenter" width="503"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ[/caption]

รัฐบาลนี้เหลือเวลาอย่างมากอีก 8 เดือน 8 เดือนนี้ ทุกคนเลยที่เป็นข้ารชการของเราต้องทำงานแข่งกับเวลา ทำให้ได้มากที่สุด ถ้า 4 ปี ยังทำได้ขนาดนี้ อีก 8 เดือน ยังมีเวลาทำได้อีกเยอะแยะ รัฐมนตรีพาณิชย์ต้องยอมแก่กว่านี้อีก คุณรู้อยู่แล้วว่า กระทรวงพาณิชย์นั้นเป็นกระทรวงที่มีลูกระเบิดติดอยู่ตลอด กระทรวงพาณิชย์แห่งอนาคตข้างหน้ามันไม่ใช่แค่ดูแลราคาสินค้าเกษตร ฉะนั้น ใครข้างหน้าที่ต้องการเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ต้องเข้าใจ ไอคิวต้องสูงพอ มองให้ทะลุว่า หน้าที่คุณคืออะไร นักการเมืองที่อยากจะบริหารประเทศต้องรู้ว่า ต้องทำอะไร คนที่ดี เก่ง ๆ ต้องเขามาร่วม ประเทศมันถึงจะเจริญ


……………….
คำ ต่อ คำ : ภารกิจเปลี่ยนประเทศ โดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,373 วันที่ 10-13 มิ.ย. 2561 หน้า 06

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "สมคิด" ลั่น ทำการเมืองเที่ยวนี้ตั้งใจให้สำเร็จ ชวนทุกคนร่วมมือไม่ใช่รอติ
● "สมคิด" เร่ง "5 จี-ค้าดิจิทัล" - สร้างเติบโตประเทศแบบสมดุล