เคาะเบี้ยประกัน 'อินบาวด์ทัวร์' เหมา 20 บาท/คน
[caption id="attachment_288811" align="aligncenter" width="335"]
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา[/caption]
'วีระศักดิ์' เร่งถกกรมบัญชีกลางหาทางออก รายได้จากบีบอินบาวด์ทัวร์ซื้อประกัน ไม่ผิด พ.ร.บ.วินัยการคลัง ฟันธงเลือกซื้อแบบเหมา 1 กรมธรรม์ครอบคลุม 36 ล้านคน ค่าเบี้ยอยู่ที่หัวละ 20 บาทต่อทริป
ความคืบหน้าของการผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ อินบาวด์ทัวร์ ต้องซื้อประกันภัยที่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในประเทศไทยคืบหน้าตามลำดับ หลังคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2551 กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย เพื่อกำหนดการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระที่ 1 แล้ว ยังมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ถึงแนวทางในการดำเนินการรองรับการขายประกันนักท่องเที่ยวปีละกว่า 36 ล้านคน และเตรียมหารือกับกรมบัญชีกลางถึงการดำเนินการ เพื่อไม่ให้ผิดพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงจะหารือกับอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ช่วยชี้ช่องและแนวทางว่า รูปแบบการดำเนินงานควรจะเดินอย่างไร ที่จะไม่ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ในกรณีที่หากจัดเก็บค่าธรรมเนียมประกันภัยจากนักท่องเที่ยวมาแล้ว ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าประเทศ แต่ไม่ได้นำส่งกระทรวงการคลัง แต่นำไปจ่ายให้บริษัทประกันภัย
การผลักดันอาจทำได้หลายวิธีก็จริง แต่ถ้ากรมบัญชีกลางมีแนวทางที่เห็นว่า สามารถดำเนินการได้ ผ่านการแก้ไข พ.ร.บ.นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ก็จะทำให้การบังคับใช้มีผลได้เร็ว เพราะกระบวนการแก้ไขกฎหมายทาง สนช. เห็นชอบแล้ว เดินต่อทันที เพราะขณะนี้ ผ่านมาครึ่งทางแล้ว อีก 6 เดือน ก็น่าจะประกาศใช้ได้ แต่ถ้ากรมบัญชีกลางมองว่า จะเก็บเงินเข้าคลังก่อน แล้วจัดสรรผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งอาจทำได้ แต่ถ้าปีไหนไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้จะทำอย่างไร
นอกจากนี้ ถ้าเก็บค่าธรรมเนียมตอนนักท่องเที่ยวผ่านแดน จะไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง โดยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก็เห็นด้วยที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมค่าประกันเดินทางแบบกลุ่มให้ แต่ต้องไปเขียนกำหนดให้ชัดเจน ซึ่งต้องมีการยกร่างกฎหมายใหม่ เพื่อเสนอ ครม. เห็นชอบ จากนั้นก็ต้องเริ่มกระบวนการนับหนึ่งใหม่ นำเรื่องเข้ากฤษฎีกา กลับมาเสนอ สนช. อีกครั้ง ที่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 1 ปี กว่าจะมีผลบังคับใช้
สำหรับค่าธรรมเนียมในการประกันภัย จากการหารือทางวาจา กับ คปภ. พบว่า แนวทางการซื้อประกันเป็นแพ็กเกจ หรือ ซื้อเหมา 1 กรมธรรม์ ดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคน จะเหมาะสมที่สุด เพราะค่าเบี้ยจะอยู่ที่หัวละ 20 บาทต่อทริป แต่ถ้านักท่องเที่ยวต่างคนต่างซื้อ ต้นทุนจะอยู่ที่หัวละ 200-300 บาทต่อทริป ทั้งยังมีความยุ่งยากเรื่องวิธีการขาย มากกว่าการซื้อแบบเหมา
ส่วนรูปแบบการซื้อประกันภัยของนักท่องเที่ยว อาจซื้อตอนทำวีซ่า หรือ ถ้าไม่ต้องทำวีซ่า ก็สามารถซื้อได้ตอนเข้าเมือง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้หารือกับ ตม. ที่ปัจจุบัน มีการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านด่านคนเข้าเมืองให้เก็บเงินเพิ่มสำหรับเป็นค่าประกันเดินทางแบบกลุ่มกรณีเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว และวิธีการขายก็ต้องดูให้ง่ายในการบริหารจัดการ ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มที่นำพาหนะเข้าไทย เช่น รถยนต์ เรือยอชต์ กลุ่มนี้ให้ซื้อประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น นายวีระศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA) เผยว่า เบื้องต้นสมาคมได้เสนอ 2 แนวทาง ในการดำเนินการเรื่องนี้ คือ 1.การประกันแบบเหมารวม หรือ ยกโหล โดยคิดเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 บาทต่อรายต่อครั้งเดินทาง เช่น คาดการณ์นักท่องเที่ยวเข้าไทยประมาณ 30 ล้านคน คิดอัตราเบี้ยเฉลี่ย 6 บาทต่อคน หรือคิดเป็นเบี้ยรวมอยู่ที่ 180 ล้านบาท กับ 2.การเสนอแพ็กเกจประกันให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อเอง โดยเสนอ 3-4 แพ็กเกจ เริ่มต้นอัตราเบี้ยอยู่ที่ 20 บาท , 30 บาท , 40 บาท และ 50 บาท ซึ่งทั้ง 2 แนวทางนี้ คณะทำงานยังไม่ได้มีการเคาะว่าจะเลือกแนวทางใด จึงต้องรอผลการประชุมหารือต่อไป ซึ่งเลือกแบบไหนเราก็สามารถบริหารจัดการได้อยู่แล้ว
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,372 วันที่ 7-9 มิ.ย. 2561 หน้า 01+15
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ข่าวห้ามเขียน : อย่าลืมเบี้ยประกัน
● ผู้ใช้รถรอเฮ!เบี้ยประกันลด แข่งเดือดเปิดศึกราคา LossRatio จ่อแตะ 62%
