ก่อนอื่นต้องชมความพยายามของประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พล.ท. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่แน่วแน่แก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งเกินราคา จนประสบความสำเร็จระดับหนึ่งและเป็นหนึ่งเดียวที่กล้าทะลายโควตาผู้ค้าสลากรายใหญ่ที่เคยเรียกกันว่า 5 เสือ
แต่การแก้ปัญหาด้วยการทะลายโควตาผู้ค้าสลากรายใหญ่ เพิ่มกำไรให้ผู้ค้ารายย่อยและกระจายการขายไปสู่ผู้ค้ารายย่อยโดยขายผ่านธนาคารกรุงไทย นำไปสู่ปัญหาและแรงกดดันใหม่ เพราะมีผู้ต้องการขายสลากเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดแถมยังเกิดเสือระดับกลางเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ภาพของคนยากจนไปรอซื้อสลากหน้าตู้เอทีเอ็ม ซึ่งบางคนต้องรอหามรุ่งหามค่ำและไม่ได้สลากไปขาย จะต้องเป็นข่าวทุกครั้งที่มีการเปิดขายสลากผ่านตู้เอทีเอ็มแต่ละงวด เป็นแรงกดดันให้ผู้บริหารกองสลากฯ ต้องทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยเร็ว
ถ้าต้องการแก้ปัญหาให้คนขายรายย่อยมีสลากขายกันทุกคน ด้วยการพิมพ์สลากเพิ่ม ก็คงต้องพิมพ์เพิ่มกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนมีคนขายเจ๊งกันไปข้างหนึ่ง และเท่ากับว่ารัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งหวังโชคมากกว่าทำมาหากิน เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เช่นกัน
ในที่สุดกองสลาก ก็ต้องกลับมาใช้วิธีการขายสลากออนไลน์ให้เป็นทางเลือกหนึ่งในการลดแรงกดดันของผู้ที่ต้องการขาย แต่ไม่มีสลากให้ขาย อาจจะเป็นวิธีที่อยากจะทำแต่ก็กลัว เงาของรัฐบาลเก่า แต่ไม่ทำคงไม่ได้แล้วในขณะนี้เพราะจะปล่อยให้คนจนนอนหนาวรอหน้าตู้เอทีเอ็มทุกครั้งที่มีการขายและซื้อได้แค่ 2-3 คนไปทั้งปีทั้งชาติคงไม่ได้
จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ ก่อนหน้านี้ก็ทำการศึกษามาเยอะแล้วไม่ต้องไปดูงานต่างประเทศให้เสียเวลา ไม่ต้องมีพิธีรีตองไม่ต้องเหนียมอาย ขออย่างเดียวทำให้ตรงไปตรงมา เท่านั้นก็พอ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,127
วันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559