ฐานโซไซตี : นายกฯโรดโชว์ยุโรป ชักชวนฝรั่งลงทุนอีอีซี

ปลายเดือนมิถุนายนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมคณะชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ จะร่วมกันเดินทางไปเยือนยุโรป โดยไปเยือนประเทศอังกฤษ และ ฝรั่งเศส เพื่อโรดโชว์ชักชวนนักลงทุน ให้มาลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่อีอีซี หลังจากที่พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งตามเป้าหมายต้องการให้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอต่อเนื่องในปีนี้อย่างตํ่า 300,000 ล้านบาท ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ขณะนี้ก็มีนักลงทุนต่างชาติหลายรายสนใจที่จะเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตยา ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน
อุตตม สาวนายน บอกว่า วัตถุประสงค์หลักของการโรดโชว์ครั้งนี้ คือการสร้างความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติว่าอีอีซีคืออะไร รวมทั้งเป็นการตอกยํ้าความมั่นใจให้กับนักลงทุน หลังจากที่รัฐบาลประกาศเชิญชวนการลงทุน และเตรียมประกาศทีโออาร์ ประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ว่ารัฐบาลลงทุนจริง ในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นอกจากนั้น ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติ 9 ราย สนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนโครงการเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการสร้างเมืองใหม่ รองรับการลงทุนในอีอีซี โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาในหลายมิติ เพื่อให้เมืองอัจฉริยะก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมและเมืองยุคใหม่ มีระบบคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องรถติด

เจอ “วิบากกรรม” เข้าไปอีกคดีสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวัย 69 ปี เมื่อ “ศาลฎีกานักการเมือง” รับฟ้องในคดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในฐานความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณี ทักษิณให้ความเห็นชอบกระทรวงการคลัง สมัยที่ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ซึ่งถือเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ
โดยคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 และได้ยื่นฟ้องคดีเอง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 และแม้ ทักษิณ จะหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ไม่มาปรากฏตัวต่อศาลในการพิจารณาคดี ศาลก็จะสั่งออกหมายจับ และสามารถพิจารณาคดีมีคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ ซึ่งศาลได้นัดพิจารณาครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จนถึงขณะนี้ ทักษิณ เจอเข้าไป 7 คดีแล้ว นับจากพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองหลังการรัฐประหาร เมื่อปี 2549... อ่วมอรทัย ชนิดหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลยทีเดียว

กูรูด้านเศรษฐกิจพยากรณ์กันว่าความตื่นตัวของคนไทยกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่มหาอำนาจรัสเซีย เป็นเจ้าภาพ ว่ากันว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายในประเทศไทยไม่ตํ่ากว่า 6-7 หมื่นล้านบาท อีกทั้งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.4-0.5% ซึ่งทำให้หลายธุรกิจเริ่มทยอยออกมาเปิดตัวกิจกรรมส่งเสริมกันอย่างคึกคัก และสำหรับคนไทยก็จะได้รับชมการถ่ายทอดสดกันครบทุกแมตช์ ซึ่งถือเป็นมหกรรมกีฬาที่ทุกคนในบ้านเราและทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยเพื่อชมความยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน- 15 กรกฎาคมนี้ สำหรับแฟนบอลที่เป็นผู้โดยสารของ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ งานนี้มี “เฮ” หลังจากที่บอร์ด กสทช. มีมติว่า “เจ้าจำปี” สามารถทำ Live TV บนเครื่องบินได้ เพราะการถ่ายทอดสดข่าวกีฬาและบอลโลกบนอากาศยาน ไม่ถือเป็นการประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์

ความคิดที่ฉับไวของสายการพาณิชย์ ที่ดูแลการขายและการตลาดผู้นำหญิงเบอร์ 1 อย่าง อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการ DD ได้นำทีมออกแถลงข่าวร่วมกับผู้บริหาร ลูกหม้อ วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รอง.กก.ผอ.ใหญ่สายการพาณิชย์, กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผอ.สื่อสารการตลาดและสร้างตราผลิตภัณฑ์, สุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ผอ.วางแผนและควบคุมอุปกรณ์บริการบนเครื่องบิน ถึงความพร้อมและเทคโนโลยีของเครื่องบินแบบ B787-8, B787-9 และ A350-900 รุ่นใหม่ล่าสุดที่นำเข้าฝูงบิน และว่ากันว่าประหยัดนํ้ามันที่สุดในโลก ซึ่งจะสร้างกำไรให้กับธุรกิจการบินจากนี้ไป สามารถรองรับการถ่ายทอดสดตลอดจนการรายงานข่าวกีฬาของ BBC, CNN, NHK และ Sport 24 “ว.เชิงดอย” ขอปรบมือให้กับ “การบินไทย” ยุคนี้ และเป็นยุคที่ปราศจากการว่าจ้างที่ปรึกษาฝรั่ง ที่ละลายเงินไปอย่างสิ้นเปลืองเดือนละหลายล้านบาท!!

|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี 
|โดย : โดย...ว.เชิงดอย
|หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3373 ระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.2561