มิตซูบิชิ ลุยปลั๊ก-อินไฮบริด
มิตซูบิชิ ลั่นเดินหน้าโครงการรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด พร้อมยื่นขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่แผนงานในครึ่งปีหลังเตรียมส่งอีก 2 โมเดลลุยตลาด
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในการผลิตรถยนต์แบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ภายในสิ้นปีนี้
“รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทรนด์ของโลกที่กำลังมุ่งไปในทิศทางดังกล่าว แต่ประเทศไทยยังต้องรอความพร้อมด้านโครง สร้างพื้นฐานก่อน ดังนั้นในเบื้องต้นเราจะทำรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดก่อน”
นายมาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของมิตซูบิชิ โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ประกอบไปด้วย โรงงานแรกเปิดทำการในปี 2535 และโรงงานแห่งที่2 มุ่งเน้นการผลิต รถกระบะขนาด 1 ตันเปิดทำการในปี 2539 ซึ่งมิตซูบิชิ ได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion โครงการแรกของประเทศ เพื่อสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถกระบะ
ต่อมาในปี 2550 มิตซูบิชิ เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion ครั้งที่ 2 หรือโครงการอีโคคาร์และลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ในปี 2555 นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ยังมีโรงงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก
นายมาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์การผลิตแหลมฉบังเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ผลิตรถยนต์ได้ถึง 4.24 แสนคันต่อปีและสามารถส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และกำลังการผลิตในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก ซึ่งล่าสุดมิตซูบิชิได้ฉลองการผลิตครบ 5 ล้านคัน
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศ ไทยในปี 2504 และผลิตรถยนต์ครบ 1 ล้านคันในปี 2546 ก่อนจะผลิตครบ 2 ล้านคันในปี 2553 และ ผลิตครบ 3 ล้านคันในปี 2556 ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในปี 2558 โดยในจำนวนการผลิต 5 ล้านคันนี้ มิตซูบิชิ ผลิตเพื่อส่งออก 3.7 ล้านคัน”
ด้านนายโมริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า มิตซูบิชิจะเดินหน้าคิดค้นเทคโนโลยีและ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกทั้งจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับเทคโนโลยีไปพร้อมการพัฒนาบุคลากร เพื่อความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
“เราจะส่งมอบยานยนต์ที่เพียบพร้อมครบครัน มั่นใจได้ในทุกการขับขี่และมอบอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้นับเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับโลกของเรา “Drive your Ambition” พันธะสัญญาจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีต่อผู้ขับขี่ทุกคน”
สำหรับโมเดลใหม่ที่มิตซูบิชิเตรียมจะเปิดตัวสู่ตลาดในครึ่งปีหลัง ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่นำเข้ามาจากโรงงานในอินโดนีเซีย และเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยเปิดตัวในตลาดประเทศไทยมาก่อน
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ3,373 วันที่10 - 13 มิถุนายน 2561
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในการผลิตรถยนต์แบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ภายในสิ้นปีนี้
“รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทรนด์ของโลกที่กำลังมุ่งไปในทิศทางดังกล่าว แต่ประเทศไทยยังต้องรอความพร้อมด้านโครง สร้างพื้นฐานก่อน ดังนั้นในเบื้องต้นเราจะทำรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดก่อน”
นายมาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของมิตซูบิชิ โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ประกอบไปด้วย โรงงานแรกเปิดทำการในปี 2535 และโรงงานแห่งที่2 มุ่งเน้นการผลิต รถกระบะขนาด 1 ตันเปิดทำการในปี 2539 ซึ่งมิตซูบิชิ ได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion โครงการแรกของประเทศ เพื่อสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถกระบะ
ต่อมาในปี 2550 มิตซูบิชิ เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion ครั้งที่ 2 หรือโครงการอีโคคาร์และลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ในปี 2555 นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ยังมีโรงงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก
นายมาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์การผลิตแหลมฉบังเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ผลิตรถยนต์ได้ถึง 4.24 แสนคันต่อปีและสามารถส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และกำลังการผลิตในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก ซึ่งล่าสุดมิตซูบิชิได้ฉลองการผลิตครบ 5 ล้านคัน
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศ ไทยในปี 2504 และผลิตรถยนต์ครบ 1 ล้านคันในปี 2546 ก่อนจะผลิตครบ 2 ล้านคันในปี 2553 และ ผลิตครบ 3 ล้านคันในปี 2556 ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในปี 2558 โดยในจำนวนการผลิต 5 ล้านคันนี้ มิตซูบิชิ ผลิตเพื่อส่งออก 3.7 ล้านคัน”
ด้านนายโมริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า มิตซูบิชิจะเดินหน้าคิดค้นเทคโนโลยีและ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกทั้งจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับเทคโนโลยีไปพร้อมการพัฒนาบุคลากร เพื่อความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
“เราจะส่งมอบยานยนต์ที่เพียบพร้อมครบครัน มั่นใจได้ในทุกการขับขี่และมอบอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้นับเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับโลกของเรา “Drive your Ambition” พันธะสัญญาจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีต่อผู้ขับขี่ทุกคน”
สำหรับโมเดลใหม่ที่มิตซูบิชิเตรียมจะเปิดตัวสู่ตลาดในครึ่งปีหลัง ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่นำเข้ามาจากโรงงานในอินโดนีเซีย และเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยเปิดตัวในตลาดประเทศไทยมาก่อน
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ3,373 วันที่10 - 13 มิถุนายน 2561