'บิ๊กตู่' ชวนกรีซ ร่วมมือพัฒนาท่าเรือ ดึงลงทุน 'อีอีซี'
วันที่ 8 มิ.ย. 2561 เว็บไซต์ www.thaigov.go.th เผยแพร่ข่าวว่า เมื่อเวลา 11.30 น. นายเพริคลีส บูตอส (H.E. Mr.Pericles Boutos) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ทั้ง 2 ประเทศต่างเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน โดยปีนี้เป็นปีครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กรีซ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้กระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด และยังเป็นโอกาสในการจัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมด้วย
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก ต่างเห็นพ้องให้ส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนของไทยและกรีซ พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย เดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น นอกจากนี้ ไทยและกรีซยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางไปท่องเที่ยวกรีซจำนวน 30 ล้านคน และกรีซยังมีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวของยุโรป ในขณะที่ ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย ทั้ง 2 ฝ่าย จึงหวังว่า ไทยและกรีซจะพัฒนาความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยว โดยสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
สำหรับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมองว่า ไทยและกรีซยังมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีกมาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกรีซที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการท่าเรือ โดยเฉพาะท่าเรือ Piraeus ซึ่งเป็นท่าเรือโดยสารและขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้ง 2 ฝ่าย จึงอาจพิจารณาพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนาท่าเรือได้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้นักลงทุนกรีซเข้ามาลงทุนไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใน EEC ซึ่งไทยสามารถเป็นศูนย์กลางด้านการค้าการลงทุน และความเชื่อมโยงในภูมิภาคไปสู่ประชาคมอาเซียนให้แก่กรีซได้ โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก กล่าวถึงความสำเร็จในการจัดตั้งสภาหอการค้า กรีซ-ไทย โดยได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดสัมมนาพูดคุยศักยภาพการค้าและธุรกิจไทย-กรีซ เชื่อมั่นว่า ทั้ง 2 ฝ่าย จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการแสวงหาลู่ทางการขยายตลาด เพื่อส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้ฝากคำกล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรีกรีซ สำหรับคำเชิญในการเยือนกรีซ โดยนายกรัฐมนตรียินดีรับคำเชิญเยือนกรีซในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "อุตตม" เผย นายกฯ ลุยโรดโชว์ยุโรป ดึงลงทุน "อีอีซี" วางเป้า 3 แสนล้าน
● จีน-ญี่ปุ่น พาเหรดลงทุนพื้นที่อีอีซี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ทั้ง 2 ประเทศต่างเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน โดยปีนี้เป็นปีครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กรีซ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้กระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด และยังเป็นโอกาสในการจัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมด้วย
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก ต่างเห็นพ้องให้ส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนของไทยและกรีซ พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย เดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น นอกจากนี้ ไทยและกรีซยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางไปท่องเที่ยวกรีซจำนวน 30 ล้านคน และกรีซยังมีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวของยุโรป ในขณะที่ ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย ทั้ง 2 ฝ่าย จึงหวังว่า ไทยและกรีซจะพัฒนาความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยว โดยสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
สำหรับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมองว่า ไทยและกรีซยังมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีกมาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกรีซที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการท่าเรือ โดยเฉพาะท่าเรือ Piraeus ซึ่งเป็นท่าเรือโดยสารและขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้ง 2 ฝ่าย จึงอาจพิจารณาพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนาท่าเรือได้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้นักลงทุนกรีซเข้ามาลงทุนไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใน EEC ซึ่งไทยสามารถเป็นศูนย์กลางด้านการค้าการลงทุน และความเชื่อมโยงในภูมิภาคไปสู่ประชาคมอาเซียนให้แก่กรีซได้ โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเฮลเลนิก กล่าวถึงความสำเร็จในการจัดตั้งสภาหอการค้า กรีซ-ไทย โดยได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดสัมมนาพูดคุยศักยภาพการค้าและธุรกิจไทย-กรีซ เชื่อมั่นว่า ทั้ง 2 ฝ่าย จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการแสวงหาลู่ทางการขยายตลาด เพื่อส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้ฝากคำกล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรีกรีซ สำหรับคำเชิญในการเยือนกรีซ โดยนายกรัฐมนตรียินดีรับคำเชิญเยือนกรีซในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "อุตตม" เผย นายกฯ ลุยโรดโชว์ยุโรป ดึงลงทุน "อีอีซี" วางเป้า 3 แสนล้าน
● จีน-ญี่ปุ่น พาเหรดลงทุนพื้นที่อีอีซี
