‘Memory in Meajam’
‘Memory in Meajam’ สื่อความสุขผ่านภาพถ่ายหนึ่งโครงการคุณภาพจากเครือเจริญโภคภัณฑ์
“เราให้ความสำคัญกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ จึงได้จัดตั้งโครงการธรรมชาติปลอดภัย โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด โดยวัตถุประสงค์หลักในการให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในท้องถิ่นรวมถึงเยาวชนในชุมชนให้รักและหวงแหนกับธรรมชาติดั้งเดิมในพื้นที่ รวมทั้งอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลพึ่งพาอาศัยกัน ไม่เพียงเท่านั้นการปฏิบัติการของโครงการนี้ยังครอบคลุมไปถึงการปกป้อง ปราบปราม และรณรงค์เชิงรุกในการพลิกฟื้นคืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะป่าต้นนํ้า และที่สำคัญคือการส่งเสริมให้ประชาชนที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ทำกิน มีแนวทางในการประกอบอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
คำกล่าวสั้นๆ โดยคุณเทพนคร เปี่ยมเพ็ชร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด นอกจากฉายให้เห็นภาพรวมแล้ว ยังขยายภาพการดำเนินการอย่างจริงจังร่วมกับชุมชนหลากหลายรูปแบบ ภายใต้หลักคิดที่นำศาสตร์พระราชาในเรื่อง การระเบิดจากข้างใน เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนามาผนวกใช้บนฐานรากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นส่วนของการขับเคลื่อนและประยุกต์ใช้อย่างร่วมสมัย
ทั้งนี้โครงการธรรมชาติปลอดภัย โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด ได้ขยายผลการดำเนินงานไปยังหลายพื้นที่ และหนึ่งในนั้น คือ โครงการธรรมชาติปลอดภัยแม่ปาน-สันเกี๋ยง โมเดล หรือพื้นที่ในเขต ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดย ผศ.ดร.สมเกียรติ ชัยพิบูลย์ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของโมเดลไว้ว่า โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด การบูรณาการ ผ่านแนวคิดและแนวปฏิบัติร่วมกันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างมีนัยสำคัญในหลายส่วนด้วยกันคือ
1. การปลูกไม้ยืนต้นผสมผสานกับการเลี้ยงสัตว์ สะท้อนถึงการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการนี้ได้นำองค์ความรู้เข้าไปถ่ายทอดพร้อมกับสนับสนุนพันธุ์พืชที่ตรงกับสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศในพื้นที่
2. การคืนผืนป่ารักษาแหล่งนํ้า เมื่อชุมชนเลี้ยงชีพได้ผ่านการขายสัตว์และเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรจนมีรายได้ที่ดีส่งผลการบุกรุกพื้นป่าในอดีตลดลงและประชาชนพร้อมใจกลับคืนพื้นป่า ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะแต่เดิมการบุกรุกผืนป่าทำให้ป่าต้นนํ้าในส่วนนี้เหือดแห้งแต่เมื่อไม่บุกรุกและปลูกต้นไม้เพิ่มเติมทำให้ชุมชนมีแหล่งนํ้าธรรมชาติไว้ใช้สอย เพื่อการอยู่อาศัยและการเพาะปลูกได้อย่างสมบูรณ์ ถือได้ว่านํ้า คือ จุดเริ่มต้นของชีวิต และนํ้า คือ ส่วนเติมเต็มที่ทำให้ธรรมชาติปลอดภัย
สภาพพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สอดคล้องกับวิถีชุมชนที่มีเอกลักษณ์ ดินแดนที่นาข้าวเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาปะทะกับกำแพงธรรมชาติแวดล้อมไปด้วยภูเขาสูงสีเขียวเข้ม สุนทรียรสของชีวิตที่ขับกล่อมด้วยวงดนตรีจากธรรมชาติ เสียงกิ่งไม้เสียดสีกันดุจการลื่นไหลของเครื่องสาย เสียงนกตัวเล็กๆ ร่วมกันขับร้องตามแนวกิ่งไม้ใหญ่ มีเสียงจักจั่น จิ้งหรีด เรไร คอรัสเป็นระยะ กลุ่มกล้วยไม้และดอกไม้ป่าพากันชูช่ออวดสีสัน รับไอเย็นๆ จากกลุ่มหมอกจางๆ สายนํ้าตกเย็นๆ สะกดทุกลมหายใจของผู้มาเยือน กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ “แม่แจ่ม” ได้รับการกล่าวถึงในฐานะดินแดนที่มีมนต์วิเศษ ชุบร่างกายและจิตใจให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเพื่อให้ภาพอันสวยงามนี้ปรากฏสู่สายตาคนไทยทั่วประเทศและคนในทั่วทุกมุมโลก โครงการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “Memory in Meajam” จึงเริ่มต้นขึ้น
“เป้าหมายของ “Memory in Meajam” ไม่ใช่เพียงการมองกลับมาในพื้นที่ผ่านความงาม แต่ยังเป็นการชักชวนให้ประชาชนทั้งในและนอกท้องถิ่นหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าต้นนํ้าที่สำคัญ ตลอดจนแสดงออกถึงคุณค่าของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมที่งดงาม”
รศ.ดร.วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อตั้งคณะและประธานหลักสูตรปริญญาโท คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ขยายความถึงโครงการประกวดและรายละเอียดไว้ว่า การประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ เปิดโอกาสให้กับทุกคน ไม่ว่าใครก็สามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ โดยไม่จำกัดกล้องหรือชนิดของอุปกรณ์การถ่าย สำหรับลักษณะภาพที่ส่งเข้าประกวดควรถ่ายทอดถึง ทิวทัศน์ธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรม โดยภาพที่จะส่งเข้าประกวดนั้นต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ผู้สนใจสามารถส่งภาพถ่ายเข้าร่วมการประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2561 ทั้งนี้ผู้ส่งเข้าประกวด 1 ท่าน สามารถส่งภาพได้ไม่เกิน 5 ภาพ และต้องระบุของประเภทที่จะเข้าร่วม ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภท คือ 1.กลุ่มบุคคลทั่วไป 2. กลุ่มนักเรียน 3.กลุ่มบุคคลที่อยู่อาศัยในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม โดยแต่ละภาพ นอกจากสื่อถึงตัวตนและจิตวิญญาณของแม่แจ่มแล้ว ผู้ส่งภาพเข้าประกวดต้องบรรยายความรู้สึกและความประทับใจร่วมกับภาพถ่ายแต่ละภาพด้วย พร้อมติด Hashtag #MemoryInMaejam #มหาวิทยาลัยแม่โจ้ #ธรรมชาติปลอดภัย #CPP ผ่านไทม์ไลน์ ของเฟซบุ๊กเพจธรรมชาติปลอดภัย
“เมื่อชุมชนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว จะช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น” รศ.ดร.วิทยา กล่าวทิ้งท้าย ซึ่งสอดรับกับมุมคิดของคุณเทพนครที่กล่าวไว้ว่า ภาพถ่ายจากโครงการ Memory in Meajam จะฉายภาพความงดงามของป่าไม้ให้ทุกคนได้ประทับใจว่าการจัดการผ่านการตกผลึกจากทุกภาคส่วน ทั้งราชการ เอกชนและภาคประชาชนสามารถพลิกฟื้นคืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งและพึ่งพาระหว่างกันในการประกอบอาชีพได้อย่างสมดุล นี่สิ ชีวิตสัมพันธ์ ที่แท้จริง
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ หน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องร่วมมือกัน รณรงค์ปกป้องให้ธรรมชาติปลอดภัย เพราะธรรมชาติไม่ใช่เรื่องของใครคนใด คนหนึ่งแต่เป็นของมวลมนุษย์ทุกคน
สำหรับผู้ที่สนใจในการประกวดภาพถ่ายในโครงการนี้ สามารถดู
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจ ธรรมชาติปลอดภัย หรือ Safethainature
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,373 ระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.61
“เราให้ความสำคัญกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ จึงได้จัดตั้งโครงการธรรมชาติปลอดภัย โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด โดยวัตถุประสงค์หลักในการให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในท้องถิ่นรวมถึงเยาวชนในชุมชนให้รักและหวงแหนกับธรรมชาติดั้งเดิมในพื้นที่ รวมทั้งอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลพึ่งพาอาศัยกัน ไม่เพียงเท่านั้นการปฏิบัติการของโครงการนี้ยังครอบคลุมไปถึงการปกป้อง ปราบปราม และรณรงค์เชิงรุกในการพลิกฟื้นคืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะป่าต้นนํ้า และที่สำคัญคือการส่งเสริมให้ประชาชนที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ทำกิน มีแนวทางในการประกอบอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
คำกล่าวสั้นๆ โดยคุณเทพนคร เปี่ยมเพ็ชร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด นอกจากฉายให้เห็นภาพรวมแล้ว ยังขยายภาพการดำเนินการอย่างจริงจังร่วมกับชุมชนหลากหลายรูปแบบ ภายใต้หลักคิดที่นำศาสตร์พระราชาในเรื่อง การระเบิดจากข้างใน เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนามาผนวกใช้บนฐานรากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นส่วนของการขับเคลื่อนและประยุกต์ใช้อย่างร่วมสมัย
ทั้งนี้โครงการธรรมชาติปลอดภัย โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด ได้ขยายผลการดำเนินงานไปยังหลายพื้นที่ และหนึ่งในนั้น คือ โครงการธรรมชาติปลอดภัยแม่ปาน-สันเกี๋ยง โมเดล หรือพื้นที่ในเขต ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดย ผศ.ดร.สมเกียรติ ชัยพิบูลย์ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของโมเดลไว้ว่า โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด การบูรณาการ ผ่านแนวคิดและแนวปฏิบัติร่วมกันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างมีนัยสำคัญในหลายส่วนด้วยกันคือ
1. การปลูกไม้ยืนต้นผสมผสานกับการเลี้ยงสัตว์ สะท้อนถึงการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการนี้ได้นำองค์ความรู้เข้าไปถ่ายทอดพร้อมกับสนับสนุนพันธุ์พืชที่ตรงกับสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศในพื้นที่
2. การคืนผืนป่ารักษาแหล่งนํ้า เมื่อชุมชนเลี้ยงชีพได้ผ่านการขายสัตว์และเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรจนมีรายได้ที่ดีส่งผลการบุกรุกพื้นป่าในอดีตลดลงและประชาชนพร้อมใจกลับคืนพื้นป่า ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะแต่เดิมการบุกรุกผืนป่าทำให้ป่าต้นนํ้าในส่วนนี้เหือดแห้งแต่เมื่อไม่บุกรุกและปลูกต้นไม้เพิ่มเติมทำให้ชุมชนมีแหล่งนํ้าธรรมชาติไว้ใช้สอย เพื่อการอยู่อาศัยและการเพาะปลูกได้อย่างสมบูรณ์ ถือได้ว่านํ้า คือ จุดเริ่มต้นของชีวิต และนํ้า คือ ส่วนเติมเต็มที่ทำให้ธรรมชาติปลอดภัย
สภาพพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สอดคล้องกับวิถีชุมชนที่มีเอกลักษณ์ ดินแดนที่นาข้าวเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาปะทะกับกำแพงธรรมชาติแวดล้อมไปด้วยภูเขาสูงสีเขียวเข้ม สุนทรียรสของชีวิตที่ขับกล่อมด้วยวงดนตรีจากธรรมชาติ เสียงกิ่งไม้เสียดสีกันดุจการลื่นไหลของเครื่องสาย เสียงนกตัวเล็กๆ ร่วมกันขับร้องตามแนวกิ่งไม้ใหญ่ มีเสียงจักจั่น จิ้งหรีด เรไร คอรัสเป็นระยะ กลุ่มกล้วยไม้และดอกไม้ป่าพากันชูช่ออวดสีสัน รับไอเย็นๆ จากกลุ่มหมอกจางๆ สายนํ้าตกเย็นๆ สะกดทุกลมหายใจของผู้มาเยือน กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ “แม่แจ่ม” ได้รับการกล่าวถึงในฐานะดินแดนที่มีมนต์วิเศษ ชุบร่างกายและจิตใจให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเพื่อให้ภาพอันสวยงามนี้ปรากฏสู่สายตาคนไทยทั่วประเทศและคนในทั่วทุกมุมโลก โครงการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “Memory in Meajam” จึงเริ่มต้นขึ้น
“เป้าหมายของ “Memory in Meajam” ไม่ใช่เพียงการมองกลับมาในพื้นที่ผ่านความงาม แต่ยังเป็นการชักชวนให้ประชาชนทั้งในและนอกท้องถิ่นหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าต้นนํ้าที่สำคัญ ตลอดจนแสดงออกถึงคุณค่าของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมที่งดงาม”
รศ.ดร.วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อตั้งคณะและประธานหลักสูตรปริญญาโท คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ขยายความถึงโครงการประกวดและรายละเอียดไว้ว่า การประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ เปิดโอกาสให้กับทุกคน ไม่ว่าใครก็สามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ โดยไม่จำกัดกล้องหรือชนิดของอุปกรณ์การถ่าย สำหรับลักษณะภาพที่ส่งเข้าประกวดควรถ่ายทอดถึง ทิวทัศน์ธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรม โดยภาพที่จะส่งเข้าประกวดนั้นต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ผู้สนใจสามารถส่งภาพถ่ายเข้าร่วมการประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2561 ทั้งนี้ผู้ส่งเข้าประกวด 1 ท่าน สามารถส่งภาพได้ไม่เกิน 5 ภาพ และต้องระบุของประเภทที่จะเข้าร่วม ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภท คือ 1.กลุ่มบุคคลทั่วไป 2. กลุ่มนักเรียน 3.กลุ่มบุคคลที่อยู่อาศัยในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม โดยแต่ละภาพ นอกจากสื่อถึงตัวตนและจิตวิญญาณของแม่แจ่มแล้ว ผู้ส่งภาพเข้าประกวดต้องบรรยายความรู้สึกและความประทับใจร่วมกับภาพถ่ายแต่ละภาพด้วย พร้อมติด Hashtag #MemoryInMaejam #มหาวิทยาลัยแม่โจ้ #ธรรมชาติปลอดภัย #CPP ผ่านไทม์ไลน์ ของเฟซบุ๊กเพจธรรมชาติปลอดภัย
“เมื่อชุมชนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว จะช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น” รศ.ดร.วิทยา กล่าวทิ้งท้าย ซึ่งสอดรับกับมุมคิดของคุณเทพนครที่กล่าวไว้ว่า ภาพถ่ายจากโครงการ Memory in Meajam จะฉายภาพความงดงามของป่าไม้ให้ทุกคนได้ประทับใจว่าการจัดการผ่านการตกผลึกจากทุกภาคส่วน ทั้งราชการ เอกชนและภาคประชาชนสามารถพลิกฟื้นคืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งและพึ่งพาระหว่างกันในการประกอบอาชีพได้อย่างสมดุล นี่สิ ชีวิตสัมพันธ์ ที่แท้จริง
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ หน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องร่วมมือกัน รณรงค์ปกป้องให้ธรรมชาติปลอดภัย เพราะธรรมชาติไม่ใช่เรื่องของใครคนใด คนหนึ่งแต่เป็นของมวลมนุษย์ทุกคน
สำหรับผู้ที่สนใจในการประกวดภาพถ่ายในโครงการนี้ สามารถดู
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจ ธรรมชาติปลอดภัย หรือ Safethainature
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,373 ระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.61
