ตลาดกังวลส่งออกเวเนซุเอลาลดต่อเนื่อง หนุนราคาน้ำมันดิบขึ้น
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2561
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดกังวลกับปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา (PDVSA) อาจประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เพราะประสบปัญหากับการส่งมอบน้ำมันดิบให้ผู้ซื้อล่าช้า รวมถึงปริมาณการผลิตของประเทศปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
+ นาย Mustapha Guitouni รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของแอลจีเรียเผยว่า ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมันดิบในการประชุมวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้ ณ กรุงเวียนนา ซึ่งการเปิดเผยครั้งนี้ช่วยคลายความกังวลว่าผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต
+ นาย Jabar al-Luaibi รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรักกล่าวว่า กลุ่มโอเปกจะยังไม่หารือเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้ เนื่องจากตลาดน้ำมันขณะนี้มีเสถียรภาพ และราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะปรับลดลง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ ความต้องใช้น้ำมันดีเซลในอินเดียที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูมรสุม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 62-76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 73-78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับมาตรการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน หลังมาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผู้ผลิตอาจเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยอุปทานที่หายไปจากอิหร่าน และเวเนซุเอลา โดยจะมีการหารือในการประชุมของกลุ่มโอเปกวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้
กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบยืนอยู่เหนือต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยของสหรัฐฯ
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. 61 แตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 1.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และเวสต์เท็กซัสสูงกว่า 11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดกังวลกับปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา (PDVSA) อาจประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เพราะประสบปัญหากับการส่งมอบน้ำมันดิบให้ผู้ซื้อล่าช้า รวมถึงปริมาณการผลิตของประเทศปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
+ นาย Mustapha Guitouni รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของแอลจีเรียเผยว่า ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมันดิบในการประชุมวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้ ณ กรุงเวียนนา ซึ่งการเปิดเผยครั้งนี้ช่วยคลายความกังวลว่าผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต
+ นาย Jabar al-Luaibi รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรักกล่าวว่า กลุ่มโอเปกจะยังไม่หารือเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้ เนื่องจากตลาดน้ำมันขณะนี้มีเสถียรภาพ และราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะปรับลดลง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ ความต้องใช้น้ำมันดีเซลในอินเดียที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูมรสุม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 62-76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 73-78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับมาตรการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน หลังมาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผู้ผลิตอาจเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยอุปทานที่หายไปจากอิหร่าน และเวเนซุเอลา โดยจะมีการหารือในการประชุมของกลุ่มโอเปกวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้
กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบยืนอยู่เหนือต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยของสหรัฐฯ
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. 61 แตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 1.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และเวสต์เท็กซัสสูงกว่า 11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
