สามบิ๊ก "อี-คอมเมิร์ซ" ชวนผู้ประกอบการไทย ขายสินค้าผ่านช่องทางใหม่

07 มิ.ย. 2561 | 12:59 น.
จากงานสัมมนา E-Commerce Big Bang จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ หัวข้อ “การเพิ่มช่องทางการขายสินค้าไทยโดยแพลตฟอร์มเด็ดระดับโลก” ผู้แทนจาก 3 ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ ทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาค คือ อีเบย์ ช้อปปี้ และอีเลฟเว่นสตรีท ได้ร่วมตอกย้ำถึง “โอกาสทอง” ของการค้าออนไลน์ที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรพลาด เพราะนอกจากเทคโนโลยีการสื่อสารทุกวันนี้จะเอื้ออย่างมากแล้ว แนวโน้มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังโตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงผู้ซื้อจากทั่วโลกได้เพียงปลายนิ้วคลิกผ่านแพลตฟอร์มของหลากหลายผู้ให้บริการ
8247 นายเจสัน ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัทอีเบย์ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอิสราเอล ยกตัวอย่างประสบการณ์ของอีเบย์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก เข้าถึงตลาดผู้ซื้อผู้ขายกว่า 190 ประเทศ และมีผู้ซื้อมากกว่า 170 ล้านคน เผยว่า ปรัชญาการทำธุรกิจของอีเบย์คือ การทำให้ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในการค้าขายออนไลน์ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครหรืออยู่ในประเทศใดก็ตาม ซึ่งอีเบย์ทำเช่นนั้นได้ด้วยการทำแพลตฟอร์มซื้อขายที่ใช้ง่าย ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยาก เพียงเข้าไปในเว็บไซต์ eBay.com ก็สามารถขายสินค้าได้ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการลงทะเบียน ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการเริ่มต้นนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย (จ่ายต่อเมื่อทำยอดขายได้แล้ว) ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพได้จากการขายสินค้าบนอีเบย์ด้วยการเริ่มต้นอย่างง่ายดายแต่สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้ทั่วโลก
8250 จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาใช้บริการ “ในปี 2001 (พ.ศ. 2544) อีเบย์เข้ามาให้บริการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตอนนั้นยังไม่มีออฟฟิศอย่างเป็นทางการ แต่ปีแรกที่เปิดตัวนั้น เรามีผู้ขายในไทยจำนวนมากและจากวันนั้นจนถึงวันนี้เรามียอดขายสินค้าจากประเทศไทยถึง 42,000 ล้านบาท เฉพาะปีที่ผ่านมา (2560) มีผู้ขายเพิ่มขึ้น 7,500 ราย และมีผู้ขายรวมในปัจจุบันมากกว่า 10,000 ราย” ถามถึงโอกาสเติบโตของอี-คอมเมิร์ซในอนาคต ผู้บริหารของอีเบย์ประมาณการณ์ว่า ภายในปี 2020 ยอดขายสินค้าข้ามพรมแดนทางออนไลน์ (Cross Border Trade: CBT) ผ่านแพลตฟอร์มของอีเบย์ทั่วโลกน่าจะขยับขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
33869 ด้านอากาธา โซว์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ช้อปปี้ ประเทศไทย ขยายมิติของอี-คอมเมิร์ซเพิ่มเติมว่า อย่ามองเพียงการค้าขายผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นช่องทางร้านค้าออนไลน์ทั่วไปที่ผู้คนคุ้นเคยกันดี เพราะมีอีก 2 เทรนด์ใหม่ที่มีการขยายตัวอย่างร้อนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นเทรนด์ระดับโลก นั่นคือ โมบายล์คอมเมิร์ซ (Mobile Commerce) ซึ่งเป็นการซื้อขายสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เข้าเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ก็สามารถซื้อขายสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็วทันใจ และอีกเทรนด์คือโซเชียล คอมเมิร์ซ (Social Commerce) เป็นการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค และอินสตาแกรม
33867 สำหรับช้อปปี้เองนั้น เข้าสู่ตลาดประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2558 ค้นพบว่า เทรนด์โมบายล์คอมเมิร์ซของไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับภาพรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโมบายล์คอมเมิร์ซโตเร็วกว่าในภูมิภาคอื่นๆของโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้สมาร์ทโฟนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทคโนโลยีบริการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็วผ่านระบบดิจิตอล ผู้บริโภคเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ เป็นโอกาสให้ช้อปปี้เข้ามานำเสนอแพลตฟอร์มซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ

ซึ่งนอกจากไทยแล้วบริษัทยังบุกเจาะตลาดในเอเชียอีก 6 ประเทศในเอเชีย เน้นกลยุทธ์ localization เข้าถึงผู้ซื้อผู้ขายในแต่ละประเทศ ซึ่งมีความต้องการแตกต่างกันไป ทำให้เนื้อหาและบริการบนแอพพลิเคชั่นของช้อปปี้ในแต่ละประเทศตอบโจทย์ได้อย่างตรงเป้าหมาย ปัจจุบันช้อปปี้มีผู้ขายในระบบกว่า 6 ล้านคน “สำหรับในประเทศไทยนั้น เรามีผู้ขายมากกว่า 800,000 คน มียอดดาวน์โหลดกว่า 19 ล้านครั้ง โดยมุ่งเน้นทั้งแอพบนมือถือและโซเชียลมีเดีย ที่สำคัญคือเรามีระบบขนส่งสินค้าที่รวดเร็วและติดตามได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ผู้ขายในระบบของช้อปปี้ยังจะได้รับการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ด้านต่างๆเกี่ยวกับการขายสินค้าบนช่องทางใหม่นี้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอีกด้วย”
33933 นายฮงชอล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเลฟเว่นสตรีท (ประเทศไทย) เว็บจำหน่ายสินค้าออนไลน์อันดับหนึ่งจากเกาหลีใต้ ร่วมตอกย้ำความร้อนแรงของธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์ว่า การใช้อินเทอร์เน็ตที่กระจายตัวทั่วถึงมากขึ้น เทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนและความสะดวกสบายในการชำระเงินออนไลน์เป็นปัจจัยที่เอื้อให้ ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยนั้นมีการขยายตัวอย่างมาก ภายในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดซื้อขายออนไลน์ของไทยเติบโตขึ้นราว 7 เท่า คนรุ่นใหม่ใช้อินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่าง เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม และไลน์ เพื่อการทำธุรกรรมค้าขายเพิ่มมากขึ้น
33932 จากแนวโน้มเหล่านี้ทำให้เชื่อได้ว่า การทำธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์จะยังคงทิศทางขยายตัวต่อไป สำหรับอีเลฟเว่นสตรีทนั้น เป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อันดับ 1 จากเกาหลีใต้ มีจุดแข็งที่ผู้ซื้อสามารถเลือกสรรจับจ่ายสินค้าคุณภาพดีโดยตรงจากเกาหลีอย่างจุใจ มีสินค้าให้เลือกกว่า 16 ล้านรายการ นอกจากนี้ ยังจับมือกับธนาคารพาณิชย์จัดกิจกรรมให้ส่วนลดแก่ผู้ที่จับจ่ายสินค้าบนอีเลฟเว่นสตรีทผ่านบัตรเครดิตของธนาคาร เป็นการกระตุ้นการจับจ่ายและเพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้าอีกด้วย “ในภาษาเกาหลี เลข 10 หมายถึงความสมบูรณ์แบบ (perfect) แต่ชื่อของเรา “อีเลฟเว่น” เป็นเลข 11 เพราะสิ่งที่เรามอบให้กับลูกค้าที่เป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนั้น คือมูลค่าเพิ่ม เป็นสิ่งที่เหนือกว่าความสมบูรณ์แบบ”
e-book-1-503x62-7