เกาะขอบสนาม ตามรอยฟุตบอลแดนผู้ดี

ไหนๆ Take a Trip มีโอกาสได้ไปเยือนถิ่น “พรีเมียร์ ลีก” แมตช์ฟุตบอลท็อปฟอร์มระดับโลก เลยอดไม่ได้ที่จะไปเกาะขอบสนาม สัมผัสความอลังการของสนามฟุตบอล ท่ามกลางบรรยากาศเสียงเชียร์กระหึ่มโลกของกองเชียร์ อันเป็นสีสันที่ขึ้นชื่อในเรื่องเอกลักษณ์และวัฒนธรรมการชมฟุตบอลสไตล์อังกฤษ เป็นการวอร์มอัพ เตรียมความพร้อมกันก่อนที่แฟนบอล จะตามไปเชียร์ “ทีมชาติอังกฤษ” ในมหกรรม “ฟุตบอลโลก 2018” ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งจะเริ่มนัดแรกในวันที่ 14 มิถุนายนนี้

เริ่มเส้นทางทัวร์สนามฟุตบอลในกรุงลอนดอนด้วย “Dream Destination” ของคอบอลชาวไทยอย่างสนามฟุตบอล “นิวเวมบลีย์” สนามกีฬาแห่งชาติของอังกฤษที่มีความจุถึง 9 หมื่นที่นั่ง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี (2545-2550) โชคดีจริงในวันที่เราไปเยือน ตรงกับการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ Carabao Cup 2018 (ถ้วยของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ) ระหว่างทีมอาร์เซนอล กับ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลยกำไรได้นั่งชม

ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิตของเหล่าฟุตบอลฟีเวอร์จริงๆ ทั้งตื่นเต้นกับแมตช์การแข่งขัน แถมเร้าใจไปกับบรรยากาศ เสียงโห่ร้อง และร้องเพลงเชียร์ทีมโปรดของคนอังกฤษกระหึ่มไม่เป็นสองรองใคร นอกจากนี้ในสนามแห่งนี้ ยังมีเอาต์เลต ร้านค้า โดยเฉพาะสปอร์ตแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็นไนกี้, นิว บาลานซ์, อาดิดาส รวมไปถึงสถานที่ช็อปปิ้งแบบย่อมๆ ไว้ให้เดินช็อปกันเพลินๆ

อีกไฮไลต์สำหรับเหล่าสาวก “สิงโตนํ้าเงินคราม” คือการเข้าชมสนามฟุตบอลของทีมดังประจำกรุงลอนดอน อย่าง “สโมสรฟุตบอลเชลซี” อีกหนึ่งทีมฟุตบอลบิ๊กเนมบนเกาะอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงและแฟนคลับอยู่ทั่วโลก ตั้งอยู่เมืองฟูแล่ม (Fulham) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน กับ “Chelsea FC Stadium” หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในวงการลูกหนังอังกฤษในชื่อ “แสตมฟอร์ด บริดจ์” มีความจุถึง 41,631 คน ทำให้สนามฟุตบอลแห่งนี้ติดอยู่ในอันดับที่ 8 ของสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีกปี 2560-2561

การเข้าชมสนามฟุตบอลแห่งนี้คิดค่าบริการเป็นแพ็กเกจ แบ่งเป็น 1. Stadium Tour ราคา 19 ปอนด์ ที่เราจะได้ชมห้องประชุม ห้องแต่งตัว อุโมงค์ ห้องปล่อยตัวนักกีฬา พิพิธภัณฑ์ 2. Platinum Tour ราคา 55 ปอนด์ ซึ่งเป็นทัวร์แบบส่วนตัว หรือวีไอพี และรับประทานอาหารในร้าน Frankie’s Sports Bar and Grill และ 3. Museum Only ราคา 11 ปอนด์ เข้าชมได้เพียงแค่ส่วนของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น งานนี้คงขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเวลาชมแค่ไหน ซึ่งการเข้าชมที่นี่ผู้ชมจะได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศจริง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้กุนซือของทีม ห้องแต่งตัวที่มีเสื้อจากนักเตะชื่อดังมาก มาย การวิ่งออกอุโมงค์สู่สนามบอลของเหล่านักฟุตบอล

หลังทัวร์ 2 สนามฟุตบอลสุดยิ่งใหญ่กันเต็มวัน ถึงเวลานอนพัก 1 คืน ก่อนมุ่งสู่จุดหมายต่อไป คือ “เมืองเรดดิ้ง” ใช้เวลาเดินทางจากลอนดอนร่วม 2 ชั่วโมง ก็ไปถึงเมืองเล็กๆ แน่นอนพลาดไม่ได้กับ “มาเดส กีสเตเดียม” สนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล “เรดดิ้ง” ทีมที่มีอายุกว่า 100 ปี และทีมจากรักบี้ยูเนี่ยน “ลอนดอนไอริช” สนามฟุตบอลที่อดีตเคยมีเจ้าของทีมเป็นชาวไทยก่อนจะเปลี่ยนมือสู่ 2 มหาเศรษฐีพี่น้องชาวจีน “ไต้ หย่งเก๋อ” และ “ไต้ ซิ่วหลี” เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสนามแห่งนี้มีความจุ 24,161 ที่นั่ง

ทริปนี้จัดเต็มสนามฟุตบอลโดนใจ แต่จะให้สุดๆ คนไทยอย่างเรา ต้องปิดทริปนี้กันที่ย่านช็อปปิ้งชื่อ ดัง “ออกซ์ฟอร์ด สตรีต”(Oxford Street) แหล่งรวบรวมแฟชั่นชื่อดังจากดีไซเนอร์แบรนด์ต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตเวสต์ เอนด์ ถนนที่รายล้อมไปด้วยห้างดังๆ มากมาย อาทิ ห้าง John Lewis,Selfridges, Mark & Spencer สวรรค์ของนักช็อป ที่มีทั้งแบรนด์เนม โลคัลแบรนด์ และแหล่งขายสินค้าที่ระลึกมากมายให้ได้เลือกซื้อฝากไว้เป็นที่ระลึกกับครั้งหนึ่งที่ได้มาทัวร์เมืองแห่งนี้