อสังหาโคราชไม่หวั่นตลาดซึมเดินหน้าขยายโครงการ-อัดโปรกระตุ้นยอดขาย

12 มิ.ย. 2561 | 09:47 น.
ตลาดอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมายังซึม จากกำลังซื้อไม่กระเตื้องและแบงก์เข้มสินเชื่อ ขณะที่นักพัฒนายังขยายโครงการต่อเนื่อง “คลังคาซ่า” ยักษ์อสังหาฯโคราช เดินหน้าเปิดคอนโดฯอีก 500 ยูนิต ด้านตลาดแนวราบ “ดิไอคอน” อัดโปรโมชันซื้อบ้านแถมรถ กระตุ้นยอดขาย ชี้กำลังซื้อบ้านกลุ่มไม่เกิน 2 ล้านมาแรง

lo02
นายไพจิตร  มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน เจ้าของโครงการ City Link Condo คอนโดหรูกลางเมืองโคราช เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมาว่า ในช่วงไตรมาสแรกต่อไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดนครราชสีมายังไม่คึกคักมากนัก อยู่ในภาวะทรงตัวค่อนข้างเงียบเหงา ซึ่งมาจากปัจจัยเดิม คือ กำลังซื้อของภาคเอกชนและประชาชนไม่กระเตื้องขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารยังคงเข้มงวดเช่นเดิม ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี มากนัก

lo05

สำหรับคลังคาซ่า ยังคงเดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวดิ่งเป็นหลัก ภายใต้โครงการซิตี้ลิงค์ บนเนื้อที่ 300 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ ผืนสุดท้ายกลางเมืองโคราช ติดถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา การเดินทางสะดวกสบาย

ขณะนี้มีพันธมิตรหลายรายเข้ามาร่วมสร้างศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New Central Business District : New CBD) ของจังหวัดนครราชสีมา เช่น โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์แองโกล ร้านอาหารชื่อดัง โรงแรม บิสิเนสโฮเต็ล และล่าสุด คือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จนถึงขณะนี้ได้มีการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วกว่า 75%

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

นายไพจิตร กล่าวต่อไปว่า อสังหาริมทรัพย์แนวราบ ขณะนี้ทุกโครงการปิดโครงการทั้งหมดแล้ว คลังคาซ่าจึงมุ่งพัฒนาแนวดิ่งเพียงอย่างเดียว คือ โครงการซิตี้ลิงค์ คอนโด โดยในเฟสที่ 1 มีทั้งหมด 10 อาคาร รวมกว่า 800 ยูนิต ขณะนี้ขายไปแล้วกว่า 90% เฉพาะต้นปีจนถึงขณะนี้ปิดการขายไปแล้วรวม 120 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเริ่มก่อสร้างเฟส 2 เป็นคอนโดมิเนียมหรูขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ อีก 2 แห่ง รวมกว่า 500 ยูนิต

“สำหรับการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมานั้น นายไพจิตร กล่าวว่า ตลาดแนวดิ่งในเขตเมืองยังมีการแข่งขันกันไม่รุนแรงมากนัก เพราะปัจจัยสำคัญอยู่ที่ทำเล ที่ตั้งของโครงการ แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการส่วนกลางอย่างเซ็นทรัล เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งก็ตาม ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมมี 2 กลุ่มหลัก คือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัย อาจจะซื้อให้ลูกหลาน และซื้อเพื่อการลงทุน คือ เปิดให้เช่ารายเดือน ขณะนี้กำลังนิยมมากและผู้ให้เช่าได้ราคาดีมาก อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่า จะเงียบเหงาและทรงตัวเช่นนี้จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์จึงจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายไพจิตร กล่าวในที่สุด

lo03

ด้านนายบุญมา อิ่มวิเศษ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ เวลล์ จำกัด เจ้าของหมู่บ้านดิไอคอน (The icon) บริหารงานภายใต้บริษัท สตาร์เวลล์ แอสเซท จำกัด มีบริษัทในเครือทั้งหมด 5 โครงการ รวมกว่า 300 ยูนิต ผู้ที่สร้างความฮือฮากับโปรโมชันสุดแรง “ซื้อบ้านแถมเมีย” คือ แถมเงินแต่ง งาน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเรือนหอ และโปรโมชัน “บอกต่อรับทันที 5 หมื่นบาท” ก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้จัดโปรโมชัน “ซื้อบ้านแถมรถ” เปิดเผยว่า อสังหาริมทรัพย์แนวราบในจังหวัดนครราชสีมา ยังเป็นตลาดที่ไปได้เรื่อยๆ แม้จะมีการแข่งขันกันสูง และช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมายังไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เป็นรายใหญ่เข้ามาเปิดโครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขยายหรือเปิดพื้นที่โครงการใหม่เท่านั้น การแข่งขันยังถือว่ารุนแรง

lo11

สำหรับโครงการ ดิไอคอน ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการและตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะดิไอคอน มีจุดขายเป็นหมู่บ้านที่มีคุณภาพ สมราคา และขณะนี้ได้จัดโปรโมชัน “ซื้อบ้านแถมรถ” ยิ่งสร้างความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาเป็นเจ้าของ เพราะเราแจกจริง ไม่ต้องลุ้นรถเหมือนโครงการอื่นๆ เมื่อตัดสินใจเป็นเจ้าของ ทำสัญญาเรียบร้อย ก็จะส่งมอบรถให้ลูกค้าทันที เป็นโปรโมชันที่ถูกใจลูกค้าอย่างมาก ขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่หลังสำหรับโปรโมชันดังกล่าว

นายบุญมา กล่าวต่อว่า ดิไอคอนทั้ง 5 โครงการมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ 1 ปิดโครงการทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงโครงการที่ 2-5 เท่านั้น

“กำลังซื้อของชาวโคราชส่วนใหญ่ จะให้ความสนใจซื้อบ้านราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้เป็นตลาดกลุ่มใหญ่มาก ฉะนั้นจากนี้ สตาร์เวลล์มีแผนที่จะทำโครงการบ้านจัดสรรในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่นี้ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะสรุปรายละเอียดต่างๆ ได้ นายบุญมา กล่าวในที่สุด

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,372 วันที่ 7-9 มิถุนายน 2561 e-book-1-503x62-7