บิ๊กตู่ยันคดีพระ'ไม่ได้รังเเก''บิ๊กป้อม'ชี้เร่งเยอรมันเเล้ว'ในการส่งตัวอดีตพระพรหมเมธี'

05 มิ.ย. 2561 | 13:14 น.
บิ๊กตู่ยันคดีพระ'ไม่ได้รังเเก''บิ๊กป้อม'ชี้เร่งเยอรมันเเล้ว'ในการส่งตัวอดีตพระพรหมเมธี'

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงความคืบหน้ากรณีประสานประเทศเยอรมัน เพื่อขอนำตัวนายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดและการแก้ปัญหาวิกฤติของพระสงฆ์ในประเทศไทยว่า พระพุทธศาสนาของไทย คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ได้มา 2,500 กว่าปีแล้ว มีความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะผิดหรือถูกนั้นอยู่ที่คน รวมทั้งพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ด้วย ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน

“กติกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพระสงฆ์ก็มี พ.ร.บ.สงฆ์และกฎหมายทั่วไปที่ต้องยึดถือทั้งสองแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะทำถูกหรือทำผิดก็เป็นเรื่องการกระทำผิดของบุคคล ของพระ และผู้ที่นับถือศาสนาต้องแยกแยะออกจากกัน”นายกรัฐมนตรี กล่าว

12776_20180605032738

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่รัฐบาลทำแบบนี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ในเรื่องเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของปัญหาเงินทอนวัด ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันในทางคดีความ และกฎหมายต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้สิทธิกับทุกคน และไม่ใช่หนีออกไปต่างประเทศ ไม่ยอมรับกฎหมาย มันไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนายิ่งไม่ใช่ เราจะต้องช่วยกันทำให้เกิดการยอมรับจากทุกหมู่และทุกฝ่าย ในการนับถือพระสงฆ์ และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกคนก็ต้องมีข้อมูลเพื่อประสานการทำงานร่วมกัน และหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน

การที่ตนออกมาขอโทษในการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมพระสงฆ์นั้น ไม่ใช่ขอโทษว่าเพราะเป็นใคร แต่ขอโทษเพราะบุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการต่างๆจำเป็นต้องเหมาะสมต่อผู้ที่แต่งสงฆ์ ต้องเคารพผ้าเหลือง และเคารพพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องดูแลให้ถูกต้อง ในการทำอะไรก็ตาม วันนี้ก็มีการลงโทษกันแล้ว

pom

“และอยากจะขอร้องสื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อย่าไปตีข่าวคึกโครมจนกระทั่งกลายเป็นว่าเรากำลังรังแกพระสงฆ์ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง แล้วเราก็จะไม่ได้คนที่หนีไปกลับมาสักที ไปลี้ภัยบ้าง อะไรบ้าง เป็นปัญหาที่มันไม่ง่ายนักที่จะเอาคนกลับมาลงโทษ เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกา กฎหมายของประเทศซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของพระที่ทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ต้องพิสูจน์กันมา ผมไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นคดีการเมืองไปเสียทั้งหมด เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องยากทั้งเรื่องการหารือส่งตัวกลายเป็นปัญหาทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. เรื่องการติดตามอดีตพระพรหมเมธีจากประเทศเยอรมันมาดำเนินคดี ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังไม่ได้รายงานในเรื่องนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเยอรมันขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่เราขอร้องให้ช่วยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เยอรมันก็รับทราบที่จะไปดำเนินการ แต่จะได้ผลอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครั้ง

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

“เยอรมันไม่ได้ห้ามที่จะให้เข้าพบ แต่เป็นความประสงค์ของอดีตพระพรหมเมธีที่ยังไม่ต้องการพบกับผบ.ตร. เรื่องนี้มีคนไทยที่อยู่เบื้องหลังในการพาอดีตพระพรหมเมธีหลบหนี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ เมื่อถามถึงการขอลี้ภัยของอดีตพระพรหมเมธี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ขอ ส่วนที่มีข้อสงสัยว่า มีหลายประเทศที่หลบหนีได้ เหตุใดจึงไปที่ประเทศเยอรมันนั้น ก็เพราะเขามีกฎหมายให้ลี้ภัยได้ อดีตพระพรหมเมธีได้วางแผนไว้แล้ว”

เมื่อถามว่า หากพระพรหมเมธีไม่ต้องการพบผบ.ตร.จะมอบหมายให้คนอื่นไปดำเนินการแทนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า” เขาไม่ขอพบคนไทย โดยจะให้การดำเนินการทุกอย่างผ่านทางเยอรมันเท่านั้น ซึ่งทางไทยได้ยื่นข้อมูลให้กับทางเยอรมันไปแล้วว่ามีความผิดตามกฎหมายไทยอย่างไรบ้างเพื่อให้ทางเยอรมันนำไปพิจารณา เพราะที่ผ่านมาก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาตลอด ถือว่าเยอรมันกับไทยเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย”

เมื่อถามว่า เยอรมันจะเข้าใจข้อมูลที่เราส่งให้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เราไม่ใช่เยอรมันซะด้วยสิ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็คุยกันรู้เรื่อง แต่เบื้องหลังจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เหมือนคุยกับสื่อ ก็รู้เรื่อง ลับหลังก็ด่าตน”

e-book-1-503x62-7