น้ำมันเครื่องหมื่นล้านแข่งดุเด้งรับโมโตจีพี-บิ๊กไบค์ ‘เอสโซ่’ส่งโมบิลร่วมวง

10 มิ.ย. 2561 | 04:24 น.
อานิสงส์โมโตจีพี-บิ๊กไบค์ขยายตัว ส่งผลให้ตลาดนํ้ามันหล่อลื่น 2 ล้อ-เติบโต “โมบิล” กระโดดร่วมวงส่งผลิตภัณฑ์ 5 รุ่นลุยตลาด ด้านเอเนออส เล็งเพิ่มไลน์อัพให้ครอบคลุม ขณะที่อิเดมิตสึ รุกหนักกิจกรรมสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หลังฟีดแบ็กดี มั่นใจสิ้นปียอดขายเข้าเป้า 20%

ภาพรวมตลาดนํ้ามันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยในแต่ละปี ถือว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยมีปริมาณการขาย 80-100 ล้านลิตรต่อปี  และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2% ขณะที่ผู้เล่นในตลาดมีหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็กที่กระโดดเข้ามาร่วมวงแย่งชิงยอดขาย

 

ล่าสุดค่ายเอสโซ่ ที่มีแบรนด์โมบิล นํ้ามันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ ก็เข้ามาบุกในกลุ่ม 2 ล้อ และทำการเปิดตัวโมบิล ซูเปอร์ โมโต โดยมีสินค้าใหม่ 5 รุ่น ได้แก่ ซูเปอร์ โมโต 10W-40, 10W-30, 20W-40 ขนาด 0.8 ลิตร และ 1 ลิตร สำหรับกลุ่มรถจักรยานยนต์ทั่วไป และอีก 2 รุ่นสำหรับรถสกูตเตอร์ ได้แก่ โมบิล ซูเปอร์ โมโต สกูตเตอร์ 10W-40, 10W-30 ขนาด 0.8 ลิตร

“ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีภายใต้แบรนด์โมบิล  ซูเปอร์ โมโต ที่เราได้คิดค้น วิจัย และพัฒนา เพื่อให้ปกป้องและยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ และการมีผลิตภัณฑ์หลายรุ่น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในระดับราคาต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม” นางสาวปาจรีย์ มีกังวาล  ผู้จัดการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์นํ้ามันหล่อลื่น ประจำประเทศไทย บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

mobil

การเข้ามารุกในตลาด 2 ล้อในครั้งนี้เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้ง บริษัท ออโต้ บิสซิเนส คอร์ปอเรชัน จำกัด (ออโต้คอร์ป) เพื่อเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นํ้ามันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ โมบิล ซูเปอร์ โมโต อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายนก็มีการแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5 รุ่นอย่างเป็นทางการ

ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายของ โมบิล ซูเปอร์ โมโต จะมีทั้งร้านค้าทั่วไป-อู่ซ่อมรถ กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ และสถานีบริการนํ้ามันเอสโซ่อีกประมาณ 600 แห่งซึ่งในอนาคตกำลังศึกษาเรื่องศูนย์เปลี่ยนถ่ายเฉพาะของจักรยานยนต์ แต่เบื้องต้นบริษัทได้ทดลอง “โมบาย ยูนิต” ประมาณ 10 คัน ซึ่งรูปแบบการบริการจะเป็นหน่วยเคลื่อนที่ มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ที่สามารถเปลี่ยนถ่ายนํ้ามันเครื่องได้ โดยบริษัทจะให้บริการตามหัวเมืองใหญ่ๆก่อน

“พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนถ่ายนํ้ามันเครื่องส่วนใหญ่จะใช้บริการที่อู่หรือร้านค้าทั่วไป  รองลงมาคือเปลี่ยนเอง ในส่วนของเรามีประสบการณ์เกี่ยวกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายอย่าง โมบิล วัน เซ็นเตอร์ ที่ให้บริการรถยนต์ แต่เฉพาะจักรยานยนต์นั้นยังไม่มี แต่เรากำลังศึกษาและพิจารณาอยู่”

อย่างไรก็ดีในช่วงเปิดตัวสู่ตลาด บริษัทได้ทำแคมเปญพร้อมทั้งกิจกรรม อาทิ  “บิดให้ไกล แชะให้สุด” ประกวดถ่ายภาพออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 มิถุนายน 2561 ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปกดไลก์เฟซบุ๊กเพจ “บิดให้ไกล ไปให้สุด” จากนั้นถ่ายภาพเลข 57 หรือ 44 และแชร์บนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง ตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมใส่แฮชแท็ก #MobilSuperMoto #บิดให้ไกลไปให้สุด ลุ้นรับรางวัลใหญ่รถมอเตอร์ไซค์ซูซูกิ รุ่นเล็ทส์พรีเมียม และบัตรของขวัญจากเทสโก้ โลตัส

นางสาวปาจรีย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดของ โมบิล ซูเปอร์  โมบิล ภายใน 3 ปีข้างหน้าจะทำได้  3%

ส่วนความเคลื่อนไหวของแบรนด์ต่างๆในกลุ่มนํ้ามันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์ในปีนี้ ถือว่าคึกคักพอสมควร อานิสงส์ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากตลาดรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะบิ๊กไบค์ที่มีการขยายตัวสูง ประกอบกับปีนี้มีการแข่งขันโมโต จีพี ครั้งแรกในประเทศไทย ยิ่งทำให้สินค้า อุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ 2 ล้อได้รับความสนใจ

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

“การแข่งขันโมโต จีพี เปรียบเสมือนฟอร์มูล่า วัน ของรถจักรยานยนต์ ดังนั้นการที่ไทยได้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพ ก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสความสนใจในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบ สำหรับเราซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่พอดิบพอดีกัน ที่จะทำตลาด โดยคาดว่าในช่วงการแข่งขันโมโต จีพี ที่บุรีรัมย์ จะมีการไปออกบูธ และทำกิจกรรมต่างๆให้ลูกค้าได้เห็นแบรนด์และตัวสินค้าอย่างใกล้ชิด” นายสุวิทย์ ตรึงจิตวิลาส ผู้จัดการฝ่ายขาย และการตลาดนํ้ามันหล่อลื่น เอเนออส บริษัท เจเอ็กซ์ นิปปอน ออยล์ แอนด์ เอเนอจี (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวและว่า

นอกจากการเกาะกระแสโมโต จีพีแล้ว เอเนออสกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันหากเปรียบเทียบตัวสินค้ากับผู้เล่นอื่นในตลาด ถือว่ายังไม่ครบทุกเซ็กเมนต์ รวมไปถึงการพัฒนาช่องทางการขายและร้านเอ็กซ์คลูซีฟช็อปเพื่อให้รองรับลูกค้าในอนาคต

ส่วนอีกรายที่โหมกิจกรรมการตลาดอย่างหนักหน่วงคือ “อิเดมิตสึ” และ “ดาฟเน่” โดยบริษัท นํ้ามันอพอลโล (ไทย) จำกัด ที่ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% แถมทุ่มงบตลาด 200 ล้านบาท และเน้นไปที่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เข้าหากลุ่มเป้าหมายผู้ใช้รถจักรยานยนต์โดยตรง อาทิ การแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบาก “IDEMITSU Thailand Supercross  2018” และก่อนหน้านั้นได้จัดการแข่งขันกีฬาชักเย่อในโครงการ “ซ้อนท้ายวิน ใส่หมวก 100% By  IDEMITSU”  เพื่อร่วมรณรงค์ให้วินมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อกแก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งลุยจัดการแข่งขันชักเย่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 1,000 คน

“ปีที่ผ่านมาเราสนับสนุนการแข่งขัน สุพรรณบุรี โมโตครอส แลนด์ 2017 และประสบความสำเร็จ สามารถทำให้แบรนด์ “IDEMITSU” ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้ ดังนั้นในปีนี้เราจึงทำการต่อยอดในกลุ่มสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งกันต่อ และเรายังมีการพัฒนารถ “IDEMITSU โมบายเซอร์วิส” ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่นำมาแต่ง เพื่อจะทำโรดโชว์ตามสนามแข่งต่างๆและรถคันนี้จะเป็นจุดบริการขายแบบเบ็ดเสร็จและบริการลูกค้านอกสถานที่ได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง”  ดร.ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นํ้ามันอพอลโล (ไทย) จำกัด กล่าว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการแข่งขันสูง ประกอบกับในปีนี้มีอีเวนต์ใหญ่อย่างโมโต จีพี ที่จะระดมขาซิ่ง 2 ล้อให้มารวมกันในบ้านเราช่วงเดือนตุลาคม คาดว่ากิจกรรมทางการตลาดพร้อมทั้งแคมเปญต่างๆ ในช่วงเดือนตุลาคมจะดุเดือดไม่แพ้บรรยากาศในสนามแข่งเลยทีเดียว

               หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,372 วันที่ 7- 9 มิถุนายน 2561 e-book-1-503x62-7