สตาร์บัคส์เชื่อมั่นเศรษฐกิจจีน เดินแผนเปิดอีกกว่าพันสาขา เผยตลาดเอเชียบูมที่สุด

03 ก.พ. 2559 | 11:00 น.
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสตาร์บัคส์ เชนร้านกาแฟรายใหญ่ของโลก ยังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีน แม้จะมีปัญหาชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจในจีนและภูมิภาคเอเชียตามแผน
ฮาเวิร์ด ชูลต์ซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเชนร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ กล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจีนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านในขณะนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการก้าวไปสู่การพัฒนาขั้นต่อไป "เรามองในระยะยาวว่าจะสร้างธุรกิจของเราในจีนได้อย่างไร" ชูลต์ซ กล่าว

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ยังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจีนว่ามีความตั้งใจที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง และเชื่อว่าจีนจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคได้สำเร็จ "เป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ต่อหัวประชากรเป็น 2 เท่าภายในปี 2564 ซึ่งจะทำให้ชนชั้นกลางของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านคน หรือเกือบ 2 เท่าของประชากรทั้งสหรัฐฯ ในปัจจุบัน เป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อม" ชูลต์ซให้ความเห็น

คำกล่าวของชูลต์ซแสดงให้เห็นว่า สตาร์บัคส์ยังคงมองเห็นอนาคตของการขยายธุรกิจในทวีปเอเชีย ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนร้านค้าขึ้น 2 เท่าเป็นกว่า 1 หมื่นสาขาภายในปี 2562 ขณะที่แผนการขยายสาขาประมาณ 1.8 พันสาขาทั่วโลกในปีงบประมาณ 2559 นั้น ครึ่งหนึ่งจะเป็นการขยายสาขาในเอเชีย

สำหรับในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสตาร์บัคส์รองจากสหรัฐอเมริกา บริษัทมีแผนจะเปิดร้านค้าเพิ่มเติมเป็น 3.4 พันสาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีร้านค้าอยู่ประมาณ 2 พันสาขา ชูลต์ซเชื่อว่า วันหนึ่งจีนจะก้าวแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นมาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของสตาร์บัคส์

นอกเหนือจากจีนแล้ว สตาร์บัคส์จะเร่งขยายธุรกิจในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากเข้าไปเปิดร้านแห่งแรกในกัมพูชาเมื่อปีก่อน ทั้งนี้ ปัจจุบันสตาร์บัคส์มีร้านค้าอยู่ 23,500 สาขาทั่วโลก

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการล่าสุดของสตาร์บัคส์แสดงให้เห็นว่าธุรกิจในจีนและเอเชีย-แปซิฟิกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เติบโตได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดขายในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2558 เพิ่มขึ้นเพียง 5% จากในปี 2557 ที่มีอัตราการเติบโต 8%

ขณะเดียวกัน ยอดขายในตลาดสหรัฐฯ ทำผลงานได้อย่างดี ด้วยอัตราการเติบโต 9% แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การออกแบบแก้วกาแฟสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ในปีนี้มาในแบบเรียบง่าย ใช้เพียงสีแดงและมีโลโกสตาร์บัคส์ ต่างจากปีที่ผ่านๆ มาที่มีลวดลายอย่างกวางเรนเดียร์ เกล็ดหิมะ หรือของตกแต่งต้นคริสต์มาส

ส่วนยอดขายในภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้นเพียง 1% โดยสตาร์บัคส์กล่าวว่า สังเกตเห็นกิจกรรมของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตกลดลงอย่างมากหลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดยรวมแล้ว สตาร์บัคส์ทำยอดขายในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2558 ได้ 5.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2557 และมีกำไร 46 เซ็นต์ต่อหุ้น ลดลงจากปี 2557 ที่บริษัทมีกำไร 65 เซ็นต์ต่อหุ้น ขณะที่ยอดขายในร้านค้าที่เปิดมาแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยทั่วโลก 8% โดยปัจจัยหลังมาจากจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านมากขึ้น

สตาร์บัคส์เผยด้วยว่า เวลานี้มีการซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชัน Mobile Order and Pay กว่า 6 ล้านครั้งต่อเดือน โดยมีการใช้งานมากเป็นพิเศษในช่วงเช้าที่ร้านค้ามีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และบริการดังกล่าวช่วยลดความแออัดของลูกค้าที่มาต่อแถวซื้อสินค้า "ในไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกรรมกว่า 21% ในสหรัฐฯ เป็นการใช้จ่ายผ่านโมบายแอพพลิเคชัน โดยในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเป็น 22% และเรามองว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนมกราคม" เควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสตาร์บัคส์ กล่าว

แอพพลิเคชัน Mobile Order and Pay เริ่มเปิดใช้งานเป็นครั้งแรกเมื่อกว่าหนึ่งปีก่อนที่เมืองพอร์ตแลนด์ ก่อนจะขยายให้ครอบคลุมทั่วสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ปัจจุบันมีร้านค้าสตาร์บัคส์ในสหรัฐฯ กว่า 7.4 พันสาขาที่สามารถใช้แอพพลิเคชันดังกล่าวได้ และบริษัทได้ขยายบริการออกสู่อังกฤษและแคนาดาเป็นที่เรียบร้อย...

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,127
วันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559