KTBSTมองSETสัปดาห์นี้โดนกดดันจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติ

04 มิ.ย. 2561 | 07:11 น.
บล.KTBST มอง SET สัปดาห์นี้ ยังโดนกดดันจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติอยู่ ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ยขาขึ้น สงครามการค้า กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ เน้นกลุ่มพื้นฐานดีหรือราคาลงมามาก และหุ้นที่อิงเรื่องของการเลือกตั้ง รวมถึงกลุ่มที่มีกำไรสม่ำเสมอและจ่ายปันผลต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ที่ 1,710-1,750 จุด

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (4-6 มิ.ย.) การปรับพอร์ตรับการลด QE ดอกเบี้ยสหรัฐฯปรับตัวขึ้น และการนำหุ้น A-share ของจีนเข้าคำนวณดัชนี MSCI ทำให้ยังมีแนวโน้มที่จะมีการขายหุ้นไทยและหุ้นในตลาดเอเซีย เพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย นับตั้งแต่วิกฤต supprime ปี 2008เป็นต้นมา มองการขายของนักลงทุนต่างประเทศ ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด ของสัปดาห์นี้ ที่อาจกดให้ SET Index วิ่งเข้าใกล้ 1,700 จุด แต่คาดว่าจะมี rebound ก่อนถึงจุดนั้น)

win

ขณะที่สงครามการค้าของสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆ มีความร้อนแรงขึ้น สหรัฐฯ ยังไม่พอใจข้อเสนอลดการเกินดุลการค้าที่จีนเสนอมาจึงไม่สามารถตกลงกันได้ แต่วันพฤหัสที่ผ่านมา (31พ.ค) สหรัฐฯเปิดสงครามอีกด้านหนึ่งด้วยการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียม ที่มาจากแคนาดา-อียู-เม็ซิโกแทน มองว่านักลงทุนจะมีความกังวลต่อเรื่องนี้ปริมาณการค้าของโลกอาจสะดุดหรือชะลอ ถ้านโยบายการค้า-ภาษี ยังไม่มีความชัดเจน

ดังนั้นแรงขายปรับพอร์ตของนักลงทุน จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น สงครามการค้า และราคาน้ำมันดิบที่ผ่านช่วง peak มาแล้ว ยังคงเป็นตัวแปรลบต่อดัชนีฯอยู่ต่อไป จนกว่านักลงทุนต่างประเทศจะลดการขายหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม ในมุมบวกของตลาดหุ้นไทย คือ ราคาหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวลงมามาก และ วันที่ 5 มิ.ย. หากศาลรัฐธรรมนูญเปิดคำวินิจฉัย คำสั่ง คสช.53/2560 ว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือมีสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนดเดิม ก.พ.62 หรือเลื่อนไปไม่มากไม่เกิน พ.ค.62 เชื่อว่าตลาดจะตอบรับในทางบวก ดัชนีฯอาจไต่ระดับขึ้นไปได้ถึง 1,750 จุด ได้เช่นกัน ปัจจัยสำคัญที่ควรติดตาม คือ สัญญาณดอกเบี้ยของ fed ในการประชุมสัปดาห์หน้า และทิศทางราคาน้ำมัน

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6 สำหรับกลยุทธ์สัปดาห์นี้ ตลาดยังผันผวนแต่ down side เริ่มลดลง เพราะใกล้ระดับดัชนีที่ 1,700-1,710 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ โดยแนะนำลดการถือหุ้นที่ซื้อขายด้วย P/E สูงเมื่อเทียบกับอดีต โดยเฉพาะหุ้นที่การขยายตัวของกำไรมีไม่มาก การปรับพอร์ตลงทุนให้หาจังหวะซื้อหุ้นที่พื้นฐานดีหรือราคาลงมามาก ได้แก่ SCB , KTC, SCC , IVL , หุ้นที่อิงเรื่องการเลือกตั้ง แนะนำ KBANK , WHA , AMATA , STEC , BTS, BEM และ PLANB หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว คือ MBK ที่มีการซื้อหุ้นสยามภิวรรธน์เพิ่ม และหุ้น Defensive คือ มีกำไรสม่ำเสมอและจ่ายปันผลต่อเนื่อง แนะนำ KKP , LH และ BTSGIF ประเมินกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ที่ 1,710-1,750 จุด

e-book-1-503x62