บทบาทนำของสหรัฐฯ ต่อยุทธศาสตร์ความมั่นคง 'อินโด-แปซิฟิก' ขยายความร่วมมือทางทหารของไทยในภูมิภาค

03 มิ.ย. 2561 | 03:04 น.
บทบาทนำของสหรัฐอเมริกา ต่อการดำเนินยุทธศาสตร์ความมั่นคงภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก และการขยายความร่วมมือทางทหารของไทยในภูมิภาค

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อ 2 มิ.ย. 61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุม IISS Shangri-La Dialogue ครั้งที่ 17 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีรมว.กลาโหมและผู้บริหารหน่วยงานความมั่นคงประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมหารือเต็มรูปแบบ ในประเด็นต่าง ๆ ประกอบด้วย บทบาทนำของสหรัฐอเมริกาและความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก  การผ่อนคลายความตึงเครียดของวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี  และการกำหนดทิศทางวิวัฒนาการของระเบียบด้านความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียน


S__17268753

พล.อ.เจมส์ แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้กล่าวถึง บทบาทนำของสหรัฐอเมริกาต่อการดำเนินยุทธศาสตร์ความมั่นคงภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกในลักษณะเปิดกว้างและเสรี โดยสรุปว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานการทูตเชิงป้องกัน โดยยึดหลักนิติธรรมและความเท่าเทียมของทุกประเทศ ในการร่วมแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี โดยไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้าและสะสมกำลังทหาร พร้อมย้ำว่า การคงอยู่ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เพื่อดำรงเสถียรภาพ ความมั่นคงและความก้าวหน้าของทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบและหารือทวิภาคีกับ นางอนา เบอร์ชาลล์ รอง นายกรัฐมนตรีโรมาเนีย ถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงของภูมิภาคและความร่วมมือด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมทั้งการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ( IUU ) โดยถือเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียน และโรมาเนียจะเป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปในปี 62  ซึ่งจะได้ประสานประโยชน์ของภูมิภาคร่วมกัน

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบและหารือกับ นายกาวิน วิลเลียมสัน รมว.กลาโหมสหราชอาณาจักร ถึงการขยายความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางทหารระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ ทั้งด้านการฝึก ศึกษา และด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยอังกฤษ พร้อมให้การสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพอาเซียนในปี 62 และมีความสนใจเข้าร่วมปฏิสัมพันธ์ในการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน และรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา พร้อมทั้งต่างใช้โอกาสนี้ เชิญ รมว.กลาโหม แลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน เพื่อร่วมหารือทบทวนแนวทางความร่วมมือที่ผ่านมา และพัฒนาความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในอนาคตให้มากขึ้น


70311

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบและหารือกับนายฮาจิต ซิงห์ สัจจาน รมว.กลาโหมแคนาดา ถึงแนวทางการขยายความร่วมมือด้านการทหาร ทั้งด้านการฝึก ศึกษา ด้านการรักษาสันติภาพ และด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยแคนนาดาอยู่ระหว่างปรับกองทัพให้ทันสมัย และให้ความสำคัญกับการป้องกันประเทศด้านเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น พร้อมทั้งขอชื่นชมบทบาทนำของไทยในภูมิภาคและพร้อมให้การสนับสนุนไทยในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีหน้า

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบและหารือกับ นายราตู อิโนเก้ คูบูอาโบลา รมว.กลาโหมสาธารณรัฐฟิจิ โดยทั้ง 2 ฝ่ายชื่นชมที่กำลังพลของทั้งสองประเทศ เคยร่วมงานกันในกองกำลังรักษาสันติภาพที่ติมอร์ตะวันออก และแสดงความยินดีร่วมกัน ที่กลาโหมทั้ง 2 ประเทศ ได้จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางทหารและจะมีการลงนามร่วมกันในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกัน ก็พร้อมที่จะขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและการประมงระหว่างกันให้มากขึ้น


70306

และในตอนท้าย พล.อ.ประวิตร ได้พบกับ ดร.อึ้ง เอ็ง เฮน รมว.กลาโหมสิงคโปร์ โดยได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมการจัดงานประชุม IISS Shangri-La Dialogue ครั้งที่ 17 ซึ่งถือว่าเป็นเวทีพูดคุยด้านความมั่นคงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค ขณะเดียวกัน สิงคโปร์พร้อมที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือกับไทย และพร้อมให้การสนับสนุนไทยในการเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“ประวิตร” เยือนกลาโหมสหรัฐฯ ย้ำสัมพันธ์เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด
กลาโหมหมีขาว ยัน! ฐานทัพสองแห่งในซีเรีย “ไม่ระคายเคือง”


e-book-1-503x62