ล็อกซเล่ย์ฮุบลงทุนไอที ‘เนชั่นแนล อีเพย์เมนต์’
ล็อกซเล่ย์ เกาะหนึบโครงการไอทีภายใต้นโยบาย “เนชั่นแนล อีเพย์เมนต์” กระทรวงการคลัง คาดกวาด 3-4 โครงการ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ล่าสุดปรับธุรกิจรับ อนาคต ทุ่ม 100 ล้านบาท สร้าง คลาวด์ ลงทุนอาร์แอนด์ดี
นายศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์ รองกรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เปิดเผยว่าการดำเนินธุรกิจปีนี้ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มตลาดหลักที่มีความเชี่ยวชาญ คือ กลุ่มราชการ และธนาคาร โดยในราชการนั้นมีแผนเข้าประมูลโครงการใหญ่ภายใต้โครงการระบบการชำระเงิน แห่งชาติ หรือ เนชั่นแนล อีเพย์เมนต์ของกระทรวงการ คลัง ที่มีมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการ Data Achieving ของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มูลค่าประมาณ 800-900 ล้าน บาท หรือ โครงการบิ๊กดาต้ามูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท
[caption id="attachment_288976" align="aligncenter" width="503"]
ศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์[/caption]
อย่างไรก็ตามในปี 2561 บริษัท ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มธุรกิจไอทีไว้ที่ 3,600 ล้านบาท เติบโต 12% โดยมีกำไร 91 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ 60% และบริการด้านระบบต่างๆ 40% ซึ่งรายได้หลักจะมาจากบริษัทโปรเฟสชั่นแนล คอมพิวเตอร์ คอมพานี จำกัด หรือ พีซีซี เป็นเงินราว 1,500 ล้านบาท และบริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) (Loxbit) เป็นเงิน 1,200 ล้านบาท และ บริษัท เน็ทวัน เน็ทเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด เป็นเงิน 500 ล้านบาท
นายศักดิ์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า ปีนี้บริษัทยังได้เริ่มปรับยุทธศาสตร์ของกลุ่มไอที ทั้งหมดเพื่อรองรับอนาคตและ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี โดยมองว่าอีก 3 ปีข้างหน้าโมเดลธุรกิจวางระบบ หรือเอสไอ แบบเดิมจะอยู่ยาก โดย องค์กรจะมีการลงทุนฮาร์ดแวร์ลดลง และหันไปใช้บริการเช่า ใช้คลาวด์เซอร์วิสมากขึ้น
ซึ่งกลุ่มธุรกิจไอทีของบริษัทจะมุ่งไปยังการให้บริการมากขึ้น โดยรายได้อาจไม่เติบโตมากขึ้น แต่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัททุ่มเงินลงทุนราว 100 ล้านบาท ด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และขยายระบบคลาวด์ เพื่อสร้างนวัตกรรม และแพลต ฟอร์มใหม่ๆ บนบล็อกเชนขึ้นมาเพื่อรองรับอนาคต
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย.61
นายศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์ รองกรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เปิดเผยว่าการดำเนินธุรกิจปีนี้ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มตลาดหลักที่มีความเชี่ยวชาญ คือ กลุ่มราชการ และธนาคาร โดยในราชการนั้นมีแผนเข้าประมูลโครงการใหญ่ภายใต้โครงการระบบการชำระเงิน แห่งชาติ หรือ เนชั่นแนล อีเพย์เมนต์ของกระทรวงการ คลัง ที่มีมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการ Data Achieving ของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มูลค่าประมาณ 800-900 ล้าน บาท หรือ โครงการบิ๊กดาต้ามูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท
[caption id="attachment_288976" align="aligncenter" width="503"]
อย่างไรก็ตามในปี 2561 บริษัท ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มธุรกิจไอทีไว้ที่ 3,600 ล้านบาท เติบโต 12% โดยมีกำไร 91 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ 60% และบริการด้านระบบต่างๆ 40% ซึ่งรายได้หลักจะมาจากบริษัทโปรเฟสชั่นแนล คอมพิวเตอร์ คอมพานี จำกัด หรือ พีซีซี เป็นเงินราว 1,500 ล้านบาท และบริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) (Loxbit) เป็นเงิน 1,200 ล้านบาท และ บริษัท เน็ทวัน เน็ทเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด เป็นเงิน 500 ล้านบาท
นายศักดิ์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า ปีนี้บริษัทยังได้เริ่มปรับยุทธศาสตร์ของกลุ่มไอที ทั้งหมดเพื่อรองรับอนาคตและ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี โดยมองว่าอีก 3 ปีข้างหน้าโมเดลธุรกิจวางระบบ หรือเอสไอ แบบเดิมจะอยู่ยาก โดย องค์กรจะมีการลงทุนฮาร์ดแวร์ลดลง และหันไปใช้บริการเช่า ใช้คลาวด์เซอร์วิสมากขึ้น
ซึ่งกลุ่มธุรกิจไอทีของบริษัทจะมุ่งไปยังการให้บริการมากขึ้น โดยรายได้อาจไม่เติบโตมากขึ้น แต่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กำไรจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัททุ่มเงินลงทุนราว 100 ล้านบาท ด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และขยายระบบคลาวด์ เพื่อสร้างนวัตกรรม และแพลต ฟอร์มใหม่ๆ บนบล็อกเชนขึ้นมาเพื่อรองรับอนาคต
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย.61