ทำการเกษตรอย่างผู้รู้

09 มิ.ย. 2561 | 18:35 น.
thumbnail_06

ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยและเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศมาช้านาน แม้ว่าประเทศไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้มากเป็นลำดับแรกของโลก แต่ปัญหาข้าวไทยยังมีหลายประการที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือและเร่งแก้ไข อาทิเช่น ปัญหาด้านประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงปัญหาด้านการตลาด ซึ่งส่งผลให้ขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มลดลง ไม่สามารถแข่งกับประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหม่ที่สามารถผลิตข้าวด้วยต้นทุนการผลิตที่ตํ่ากว่าได้

เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหาร และยังคงเป็นผู้นำการส่งออกข้าวในตลาดโลก รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ด้านการเกษตรจากการทำ การเกษตรแบบดั้งเดิม สู่การทำการเกษตรสมัยใหม่ ที่เน้นการบริหารจัดการและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยมุ่งการลดต้นทุนการผลิต การปรับเปลี่ยนการผลิตสินค้าจาก “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” เป็นการทำการเกษตรโดยใช้ความรู้เป็นเป้าหมายสำคัญ

โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่เป็นสินค้าปฐมภูมิและมีมูลค่าตํ่า ต้องมีการสร้างนวัตกรรมการผลิตข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม เปลี่ยนข้าวให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยพื้นฐานการวิจัยจากหน่วยงานหลายๆ หน่วย ร่วมกันระดมความรู้ความคิดและร่วมมือกันอย่างจริงจัง ข้าวไทยที่ออกสู่สากลมานานแล้ว จึงจะสามารถยืนหยัดในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะมีผลทำให้เกษตรกรของไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้มั่นคง พึ่งพาตัวเองได้”

พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดการประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2561 ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

สำหรับการประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2561 ครั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธาน ทรงเปิดงาน โดยงานจัดขึ้นอย่างบูรณาการหลากหลายภาคส่วน เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) พร้อมด้วย มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กรมการข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

thumbnail_12ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง

คุณกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า การประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติครั้งนี้ภายใต้หัวข้อ “งานวิจัยข้าวไทย สู่ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อนำเสนอผลงานการพัฒนาข้าวไทยด้วยงานวิจัย นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการแปรรูปข้าวแบบครบวงจรตั้งแต่ ต้นนํ้า กลางนํ้า และปลายนํ้า โดยจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวของไทย และรักษาความเป็นผู้นำการค้าข้าวในตลาดโลก ซึ่งกิจกรรมหลักภายในงานประกอบไปด้วย การประชุม-เสวนาวิชาการ ซึ่งมีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “อนาคตข้าวไทย ทำไมต้อง Thailand 4.0” “ทิศทางงานวิจัยด้านข้าวในภาพรวมและตลาดข้าวในอนาคต” “Rice Innovation” และการนำเสนอผลงานวิจัยทั้งภาคบรรยายและภาคโปสเตอร์จากหน่วยงานวิจัยด้านข้าวทั่วประเทศ

ด้านคุณพรรณพิมล ชัญญานุวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวเสริมว่า ทางสำนักงานฯ หรือ สวก. ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยด้านการเกษตร พร้อมดำเนินงานสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการมุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาไทยให้มีรายได้มั่นคง มีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานวิจัย และหน่วยงานด้านข้าวอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างองค์ความรู้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงมีต่อสายพันธุ์ข้าวของประเทศไทย ระหว่างที่ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อข้าวไทย เพื่อสืบสานปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9  ด้วยความสนพระทัยอยู่นั้น ทรงมีรับสั่งให้ กรมการข้าวฟื้นฟูอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยที่มีมากกว่า 1,300 กว่าสายพันธุ์ที่กำลังสูญหายไปจากประเทศไทย

เพราะในทุกวันนี้เกษตรกรไทยใช้ข้าวพันธุ์พื้นเมืองเป็นจำนวนลดลง และที่สำคัญข้าวเป็นหนึ่งในศาสตร์พระราชา ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงหว่านข้าว ในแปลงทดลองที่โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตเมื่อปี พ.ศ.2504 อีกทั้งทรงรับสั่งเพิ่มเติมว่าการที่ข้าวไทยจะเป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเต็มตัวนั้น นอกจากมีการแปรรูปข้าวด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีแล้ว หากแต่ต้องส่งออกไปขายผ่านระบบออนไลน์ได้อีกด้วย

ในการนี้ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 คัน เพื่อใช้ในโครงการส่วนพระองค์ต่อไป

ถือได้ว่าการพัฒนาข้าว คือ อัตลักษณ์ที่ชาวไทยทุกคนต้องพึงปฏิบัติ รักษาและฟื้นฟูพร้อมกับดำรงไว้ เพราะข้าวไทยคือโภคภัณฑ์ที่แสดงออกถึงความเป็นไทยได้อย่างงดงามและภาคภูมิใจ

หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3 -6 มิ.ย. 2561

e-book-1-503x62-7