ทุเรียน ฟีเวอร์ ‘ฟรุต คอร์ต’ ใบหยกสกาย
หน้าทุเรียนแบบนี้ ปีละครั้งพลาดไม่ได้อยู่แล้ว ที่ต้องไปลิ้มลองรสชาติความหวานละมุนของราชาแห่งผลไม้ไทย แต่จะให้ตะเกียกตะกาย เดินทางไปต่อคิวกันถึงถิ่นสวนทุเรียน ระยอง หรือจันทบุรี แย่งชิงความอร่อยกับนักท่องเที่ยวจีนและคนไทยที่หลั่งไหลกันไป หรือลุ้นว่าคิวจะหมดตรงเราหรือเปล่า เพื่อที่จะกินทุเรียน คละเหงื่อและไอร้อน งานนี้ขอบ๊ายบายดีกว่า
เมื่อทางเลือกในการทานทุเรียนปีนี้ เราขออร่อยสุดฟินกับการนั่งทานในบรรยากาศแอร์เย็นๆ ล้างท้องมาทานไม่อั้น กับโปรโมชัน บุฟเฟต์ “ทุเรียนฟีเวอร์” ณ Fruit Court (ฟรุต คอร์ต) ชั้น 18 “โรงแรมใบหยกสกาย” เดสติเนชันฮ็อตสุดๆ ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดลิ้มลองทุเรียน ซึ่งในแต่ละวันโรงแรมเสิร์ฟทุเรียนร่วม 3 พันกิโลกรัม
ไม่เพียงคุณจะเลือกทานเป็นพลูๆ โดยพนักงานจะแกะให้คุณชิมเนื้อทุเรียนพันธุ์ต่างๆ ที่ส่งขึ้นมาเสิร์ฟในแต่ละวันไม่เหมือนกัน อย่าง หมอนทอง, พวงมณี, ชะนีไข่, กระดุม ในแบบที่คุณชอบก่อน หากได้รสชาติที่ใช่ ก็ยกกันไปทานทั้งพลูได้เลย ทั้งไฮไลต์ของที่นี่ คือ เมนูอาหารคาว-หวาน ทำจากทุเรียนสด กว่า 20 รายการ ที่เชฟของโรงแรมครีเอตขึ้น รับรองหาทานไม่ได้ที่ไหน หน้าตาดี แถมอร่อยยังต้องยกนิ้วให้
ไม่ว่าจะเป็น “ต้มยำทุเรียนนํ้าใส” คิดค้นโดยเชฟ “ปราณีต สุวรรณทา” ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ที่นำเนื้อทุเรียนหมอนทองนุ่มกำลังดี ปรุงในต้มยำนํ้าใสหอมกลิ่น ตะไคร้ ใบมะกรูดได้ความเผ็ดและเปรี้ยวจากมะนาวแท้ ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันอย่างลงตัว จนคุณต้องเพิ่มอีกชามอย่างแน่นอน อีกเมนูที่ต้องไปหยิบซํ้า นี่เลย “ทุเรียนย่าง”
อีกเมนูสุดว้าว “ผัดไทยทุเรียน” ใช้เส้นจันท์สุดเหนียวนุ่ม ผัดกับนํ้าซอสผัดไทยเข้มข้นสูตรเฉพาะของโรงแรม และทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมียม ได้รสชาติกลมกล่อมเข้าก
นลงตัว เติมความเข้มข้นด้วยการราดซอสผัดไทยทุเรียน บีบมะนาวอีกนิดโรยพริกป่นอีกหน่อยใช่เลย หรือจะ “หมี่กะทิทุเรียน” ไปจนถึง “มัสมั่นทุเรียน” รสชาติเข้มข้น
ส่วนของหวาน “ทุเรียนเชื่อม” ดูเหมือนจะโดนใจคนชอบความหวานสุดๆ แต่ถ้าเย็นๆ ของโปรดเลย “บิงซูทุเรียน” หรือ
“ไอศกรีมทุเรียน” โฮมเมด ส่วน “ซาลาเปาทุเรียน” ก็ปั้นมาเป็นพลูเก๋หยอกใคร ขนมหวานแบบ สากล “เครปทุเรียน” และ “โรลล์ทุเรียน” ก็มีให้เลือกทาน รวมถึงขนมไทย อย่าง “ข้าวเหนียวนํ้ากะทิทุเรียน” และ “แกงบวดทุเรียน”
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่เมนูทุเรียนเท่านั้น ขึ้นชื่อว่า “ฟรุต คอร์ต” ก็มีผลไม้สดตามฤดูกาลมากมายให้ทานคู่กับทุเรียนกันด้วย อาทิ มะม่วงนํ้าดอกไม้, สับปะรดภูแล ฯลฯ และอีกกว่า 50 เมนู ที่สรรค์สร้างจากผลไม้ เช่น ฟองดูว์ผลไม้, วุ้นผลไม้ และที่พลาดไม่ได้ คือ “ข้าวแกงผลไม้” ที่นำผลไม้มาทำสารพัดแกง อย่าง แกงเขียวหวาน, แกงกะหรี่มันฝรั่งแครอต กล้วย, แกงผัดเงาะ, แกงคั่วสับปะรด
จัดเต็มขนาดนี้ 90 นาที ทานกันท้องจะแตก จ่ายในราคา 390 บาทถ้วน เรียกว่าคุ้มสุดๆ เพราะเราไปซื้อทุเรียนเป็นลูกๆ ทานก็กิโลหนึ่ง ก็ปาไป 150 บาทแล้ว ทั้งทานเสร็จยังขึ้นไปชมวิวบนจุดชมวิวชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84 ของโรงแรมฟรี
ใครจะไปให้จองกันล่วงหน้า ที่นี่จะไม่รับกรุ๊ปทัวร์ คนไทยอย่างเราๆ เลยกินกันอย่างสบายใจ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เห็นมานั่งทาน ก็เป็นแบบเดินทางมาเที่ยวเองหรือเอฟไอที ระบบการจองเขาเปิดให้จองในแบบใครมาก่อนได้ก่อน ให้บริการเพียง 7 รอบต่อวันเท่านั้น แว่วมาว่าตอนนี้คิวเต็มไปหลายวันแล้วอีกต่างหาก ซึ่งโปรโมชันทุเรียนฟินเว่อร์ จะมีถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น สนใจเข้า ไปดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.baiyokebuffet.com
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3 -6 มิ.ย. 2561
เมื่อทางเลือกในการทานทุเรียนปีนี้ เราขออร่อยสุดฟินกับการนั่งทานในบรรยากาศแอร์เย็นๆ ล้างท้องมาทานไม่อั้น กับโปรโมชัน บุฟเฟต์ “ทุเรียนฟีเวอร์” ณ Fruit Court (ฟรุต คอร์ต) ชั้น 18 “โรงแรมใบหยกสกาย” เดสติเนชันฮ็อตสุดๆ ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดลิ้มลองทุเรียน ซึ่งในแต่ละวันโรงแรมเสิร์ฟทุเรียนร่วม 3 พันกิโลกรัม
ไม่เพียงคุณจะเลือกทานเป็นพลูๆ โดยพนักงานจะแกะให้คุณชิมเนื้อทุเรียนพันธุ์ต่างๆ ที่ส่งขึ้นมาเสิร์ฟในแต่ละวันไม่เหมือนกัน อย่าง หมอนทอง, พวงมณี, ชะนีไข่, กระดุม ในแบบที่คุณชอบก่อน หากได้รสชาติที่ใช่ ก็ยกกันไปทานทั้งพลูได้เลย ทั้งไฮไลต์ของที่นี่ คือ เมนูอาหารคาว-หวาน ทำจากทุเรียนสด กว่า 20 รายการ ที่เชฟของโรงแรมครีเอตขึ้น รับรองหาทานไม่ได้ที่ไหน หน้าตาดี แถมอร่อยยังต้องยกนิ้วให้
ไม่ว่าจะเป็น “ต้มยำทุเรียนนํ้าใส” คิดค้นโดยเชฟ “ปราณีต สุวรรณทา” ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ที่นำเนื้อทุเรียนหมอนทองนุ่มกำลังดี ปรุงในต้มยำนํ้าใสหอมกลิ่น ตะไคร้ ใบมะกรูดได้ความเผ็ดและเปรี้ยวจากมะนาวแท้ ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันอย่างลงตัว จนคุณต้องเพิ่มอีกชามอย่างแน่นอน อีกเมนูที่ต้องไปหยิบซํ้า นี่เลย “ทุเรียนย่าง”
อีกเมนูสุดว้าว “ผัดไทยทุเรียน” ใช้เส้นจันท์สุดเหนียวนุ่ม ผัดกับนํ้าซอสผัดไทยเข้มข้นสูตรเฉพาะของโรงแรม และทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมียม ได้รสชาติกลมกล่อมเข้าก
นลงตัว เติมความเข้มข้นด้วยการราดซอสผัดไทยทุเรียน บีบมะนาวอีกนิดโรยพริกป่นอีกหน่อยใช่เลย หรือจะ “หมี่กะทิทุเรียน” ไปจนถึง “มัสมั่นทุเรียน” รสชาติเข้มข้น
ส่วนของหวาน “ทุเรียนเชื่อม” ดูเหมือนจะโดนใจคนชอบความหวานสุดๆ แต่ถ้าเย็นๆ ของโปรดเลย “บิงซูทุเรียน” หรือ
“ไอศกรีมทุเรียน” โฮมเมด ส่วน “ซาลาเปาทุเรียน” ก็ปั้นมาเป็นพลูเก๋หยอกใคร ขนมหวานแบบ สากล “เครปทุเรียน” และ “โรลล์ทุเรียน” ก็มีให้เลือกทาน รวมถึงขนมไทย อย่าง “ข้าวเหนียวนํ้ากะทิทุเรียน” และ “แกงบวดทุเรียน”
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่เมนูทุเรียนเท่านั้น ขึ้นชื่อว่า “ฟรุต คอร์ต” ก็มีผลไม้สดตามฤดูกาลมากมายให้ทานคู่กับทุเรียนกันด้วย อาทิ มะม่วงนํ้าดอกไม้, สับปะรดภูแล ฯลฯ และอีกกว่า 50 เมนู ที่สรรค์สร้างจากผลไม้ เช่น ฟองดูว์ผลไม้, วุ้นผลไม้ และที่พลาดไม่ได้ คือ “ข้าวแกงผลไม้” ที่นำผลไม้มาทำสารพัดแกง อย่าง แกงเขียวหวาน, แกงกะหรี่มันฝรั่งแครอต กล้วย, แกงผัดเงาะ, แกงคั่วสับปะรด
จัดเต็มขนาดนี้ 90 นาที ทานกันท้องจะแตก จ่ายในราคา 390 บาทถ้วน เรียกว่าคุ้มสุดๆ เพราะเราไปซื้อทุเรียนเป็นลูกๆ ทานก็กิโลหนึ่ง ก็ปาไป 150 บาทแล้ว ทั้งทานเสร็จยังขึ้นไปชมวิวบนจุดชมวิวชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84 ของโรงแรมฟรี
ใครจะไปให้จองกันล่วงหน้า ที่นี่จะไม่รับกรุ๊ปทัวร์ คนไทยอย่างเราๆ เลยกินกันอย่างสบายใจ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เห็นมานั่งทาน ก็เป็นแบบเดินทางมาเที่ยวเองหรือเอฟไอที ระบบการจองเขาเปิดให้จองในแบบใครมาก่อนได้ก่อน ให้บริการเพียง 7 รอบต่อวันเท่านั้น แว่วมาว่าตอนนี้คิวเต็มไปหลายวันแล้วอีกต่างหาก ซึ่งโปรโมชันทุเรียนฟินเว่อร์ จะมีถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น สนใจเข้า ไปดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.baiyokebuffet.com
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3 -6 มิ.ย. 2561
