คอมมิวนิตีมอลล์คึกคัก กทม.โซนตะวันออกแข่งดุรับกำลังซื้อพุ่ง
คอมมิวนิตี มอลล์กรุงเทพฯตะวันออกคึกคัก “บอสตัน เอเวนิว” ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทผุด “เดอะ ปาร์ค” หวังเสิร์ฟลูกค้าบ้านหรู มั่นใจกำลังซื้อพุ่ง หลังสาธารณูปโภคพร้อมทั้งถนนใหม่-รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเสร็จ ด้าน “เดอะไนน์” ดึงร้านดัง เสริมแกร่งแม็กเนต ขณะที่ “ธัญญาพาร์ค” ซุ่มปรับตัวครั้งใหญ่ รับอานิสงส์คอนโดฯ เรสิเดนซ์ขยายตัว
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) ระบุว่า การขยายตัวของ “คอมมิวนิตี้ มอลล์” อย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนตร.ม.ในปี 2550 เป็น 1.25 ล้านตร.ม. ในไตรมาสแรกปี 2561 มีการขยายตัวเฉลี่ย 28.9% สูงสุดในเซ็กเมนต์ ค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด และแม้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คอมมิวนิตี มอลล์หลายแห่งจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ยังคงมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาลงทุนโดยเฉพาะในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ หนึ่งในนั้นคือ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก หรือในย่านศรีนครินทร์- พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา
โดยนายบุญฤทธิ์ จิระพจชพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) จำกัด ผู้บริหารคอมมิวนิตี มอลล์ ภายใต้ชื่อ “เดอะ ปาร์ค” (The Park) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มั่นใจในศักยภาพของทำเลย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ทั้งศรีนครินทร์ พระราม 9 กรุงเทพกรีฑาว่าจะกลายเป็นชุมชนใหม่และใหญ่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวสูง จากการเข้ามาของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ทำให้เกิดเป็นที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ และความเป็นส่วนตัวสูง เป็นบ้านเดี่ยวราคาสูง และยังมีโรงแรม โรงเรียนนานาชาติ และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นหลังจากที่ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ทำให้บริษัทตัดสินใจทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทในการพัฒนาที่ดินเป็นคอมมิวนิตี มอลล์แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “เดอะ ปาร์ค” ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว “The Park Avenue Private” บ้านหรูระดับราคา 27-49 ล้านบาท บนที่ดินรวม 20 ไร่ ซึ่งมีทางเข้าออกทั้งฝั่งถนนศรีนครินทร์ และถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า โดยเดอะ ปาร์คถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Greenery Merging Living” ที่เชื่อมโยงแนวคิด “บ้านใกล้มอลล์ มอลล์ใกล้บ้าน” เพื่อรองรับผู้พักอาศัยในย่านนี้ที่ยังขาดแหล่งรวบรวมสินค้าและบริการ
“ที่ดิน 20 ไร่ แบ่งพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 10 ไร่จำนวน 36 หลัง อีก 3 ไร่พัฒนาเป็นคอมมิวนิตี้ มอลล์ ส่วนที่เหลืออีก 7 ไร่จะพัฒนาในเฟสต่อไป”
โดยคอมมิวนิตี มอลล์แห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้บริโภคในย่านนี้ ภายในศูนย์จึงเน้นร้านค้าแบรนด์พรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น Tops Daily Starbucks Coffee The Pizza W Fitness คลับเฮาส์หรู ที่เป็นฟิตเนสยิมขนาดใหญ่มีทั้ง พิลาทิส/โยคะ หน้าผาจำลอง มวยไทย แบดมินตัน บาสเกตบอล จากุซชี่ออนเซ็นและสระว่ายนํ้า Infinity Edge Pool ระบบสระนํ้าเกลือยาวกว่า 30 เมตรด้วย โดยเดอะ ปาร์คเปิดให้บริการกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นายบุญฤทธิ์กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายแห่ง รวมถึงที่ดินขนาด 50 ไร่ ที่อยู่ตรงข้ามกับเดอะ ปาร์ค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาถึงโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติ โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์และมีไลเซนส์จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันในย่านดังกล่าวมีโรงเรียนนานาชาติเปิดทำการเรียนการสอน 2 แห่ง ได้แก่ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ และ เวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดทำการเรียนการสอนในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่แนวโน้มความต้องการโรงเรียนนานาชาติเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคทั้งถนนตัดใหม่อย่างศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะวิ่งผ่านถนนศรีนครินทร์ในอนาคตอันใกล้ด้วย
ด้านนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์ การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 1.5 หมื่นคนต่อวัน อย่างไรก็ดีเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทมุ่งสรรหาร้านค้าที่มีสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเข้ามาเปิดให้บริการมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายและครบครัน ใช้เป็นแม่เหล็กในการดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการทำกิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์อีเวนต์และซีซันนัล อีเวนต์ อาทิ งาน Dog Me Crazy , งานรื่นรมย์ชมหนังกลางแปลง ฯลฯ เพื่อสร้างการจดจำ และทำให้เกิดการหมุนเวียนลูกค้า รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า นอกจากนี้บริษัทยังเปิดร้านค้า 24 ชั่วโมง อาทิ สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ และแม็กซ์ แวลู เพื่อตอบโจทย์ผู้พักอาศัยและชุมชนด้วย
ขณะที่ “ธัญญาพาร์ค” หนึ่งในคอมมิวนิตี มอลล์ที่ปักหมุด ให้บริการนักช็อปในย่านนี้มานานกว่า 3 ปี ก็ลุกขึ้นมาปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งรอคอยการมาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะวิ่งผ่านหน้าโครงการด้วยการปรับพื้นที่ภายในใหม่ เพิ่มร้านอาหารเข้ามาเป็นแม็กเนต ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น รวมถึงร้านน้องเนยซีฟู้ดแบรนด์ดัง ที่เริ่มเข้ามาให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการเพิ่มจุดให้บริการหน่วยงานภาครัฐก็เป็นแม็กเนตสำคัญที่ทำให้ทราฟฟิกภายในศูนย์หมุนเวียนมากขึ้นด้วย
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย.61
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) ระบุว่า การขยายตัวของ “คอมมิวนิตี้ มอลล์” อย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนตร.ม.ในปี 2550 เป็น 1.25 ล้านตร.ม. ในไตรมาสแรกปี 2561 มีการขยายตัวเฉลี่ย 28.9% สูงสุดในเซ็กเมนต์ ค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด และแม้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คอมมิวนิตี มอลล์หลายแห่งจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ยังคงมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาลงทุนโดยเฉพาะในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ หนึ่งในนั้นคือ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก หรือในย่านศรีนครินทร์- พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา
โดยนายบุญฤทธิ์ จิระพจชพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) จำกัด ผู้บริหารคอมมิวนิตี มอลล์ ภายใต้ชื่อ “เดอะ ปาร์ค” (The Park) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มั่นใจในศักยภาพของทำเลย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ทั้งศรีนครินทร์ พระราม 9 กรุงเทพกรีฑาว่าจะกลายเป็นชุมชนใหม่และใหญ่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวสูง จากการเข้ามาของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ทำให้เกิดเป็นที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ และความเป็นส่วนตัวสูง เป็นบ้านเดี่ยวราคาสูง และยังมีโรงแรม โรงเรียนนานาชาติ และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นหลังจากที่ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ทำให้บริษัทตัดสินใจทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทในการพัฒนาที่ดินเป็นคอมมิวนิตี มอลล์แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “เดอะ ปาร์ค” ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว “The Park Avenue Private” บ้านหรูระดับราคา 27-49 ล้านบาท บนที่ดินรวม 20 ไร่ ซึ่งมีทางเข้าออกทั้งฝั่งถนนศรีนครินทร์ และถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า โดยเดอะ ปาร์คถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Greenery Merging Living” ที่เชื่อมโยงแนวคิด “บ้านใกล้มอลล์ มอลล์ใกล้บ้าน” เพื่อรองรับผู้พักอาศัยในย่านนี้ที่ยังขาดแหล่งรวบรวมสินค้าและบริการ
โดยคอมมิวนิตี มอลล์แห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้บริโภคในย่านนี้ ภายในศูนย์จึงเน้นร้านค้าแบรนด์พรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น Tops Daily Starbucks Coffee The Pizza W Fitness คลับเฮาส์หรู ที่เป็นฟิตเนสยิมขนาดใหญ่มีทั้ง พิลาทิส/โยคะ หน้าผาจำลอง มวยไทย แบดมินตัน บาสเกตบอล จากุซชี่ออนเซ็นและสระว่ายนํ้า Infinity Edge Pool ระบบสระนํ้าเกลือยาวกว่า 30 เมตรด้วย โดยเดอะ ปาร์คเปิดให้บริการกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นายบุญฤทธิ์กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายแห่ง รวมถึงที่ดินขนาด 50 ไร่ ที่อยู่ตรงข้ามกับเดอะ ปาร์ค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาถึงโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติ โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์และมีไลเซนส์จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันในย่านดังกล่าวมีโรงเรียนนานาชาติเปิดทำการเรียนการสอน 2 แห่ง ได้แก่ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ และ เวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดทำการเรียนการสอนในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่แนวโน้มความต้องการโรงเรียนนานาชาติเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคทั้งถนนตัดใหม่อย่างศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะวิ่งผ่านถนนศรีนครินทร์ในอนาคตอันใกล้ด้วย
ด้านนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์ การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 1.5 หมื่นคนต่อวัน อย่างไรก็ดีเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทมุ่งสรรหาร้านค้าที่มีสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเข้ามาเปิดให้บริการมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายและครบครัน ใช้เป็นแม่เหล็กในการดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการทำกิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์อีเวนต์และซีซันนัล อีเวนต์ อาทิ งาน Dog Me Crazy , งานรื่นรมย์ชมหนังกลางแปลง ฯลฯ เพื่อสร้างการจดจำ และทำให้เกิดการหมุนเวียนลูกค้า รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า นอกจากนี้บริษัทยังเปิดร้านค้า 24 ชั่วโมง อาทิ สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ และแม็กซ์ แวลู เพื่อตอบโจทย์ผู้พักอาศัยและชุมชนด้วย
ขณะที่ “ธัญญาพาร์ค” หนึ่งในคอมมิวนิตี มอลล์ที่ปักหมุด ให้บริการนักช็อปในย่านนี้มานานกว่า 3 ปี ก็ลุกขึ้นมาปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งรอคอยการมาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะวิ่งผ่านหน้าโครงการด้วยการปรับพื้นที่ภายในใหม่ เพิ่มร้านอาหารเข้ามาเป็นแม็กเนต ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น รวมถึงร้านน้องเนยซีฟู้ดแบรนด์ดัง ที่เริ่มเข้ามาให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการเพิ่มจุดให้บริการหน่วยงานภาครัฐก็เป็นแม็กเนตสำคัญที่ทำให้ทราฟฟิกภายในศูนย์หมุนเวียนมากขึ้นด้วย
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3371 ระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย.61