จับ‘ซี-เอชอาร์’ แต่งหล่อ-จ่ายเท่าไหร่
บี-เอสยูวีหรือบางค่ายถนัดเรียกว่าครอสโอเวอร์ ช่วงราคาตั้งแต่ 7 แสน-1.2 ล้านบาท ถือเป็นตลาดที่บดบี้กันสนุกโดยระดับเริ่มต้นมี “เอ็มจี แซดเอส”เป็นพระเอกปัจจุบันทำยอดขายกว่า 1,000 คันต่อเดือน และยังมียอดค้างส่งมอบอีกพอสมควร
ขณะที่บี-เอสยูวีกลุ่มบนที่พี่ใหญ่โตโยต้า เสริมทัพ “ซี-เอชอาร์”เข้ามาใหม่มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และไฮบริด ราคา 9.79 แสน -1.159 ล้านบาท ส่งมอบให้ลูกค้าในเดือนมีนาคมเป็นเดือนแรกไปกว่า 2,100 คัน
ส่วนคู่แข่ง“ฮอนด้า เอชอาร์-วี” ที่ยอดซบซึมลงไปเป็นเพราะอยู่ในช่วงเตรียมเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่คาดว่าจะแนะนำลงสู่ตลาดภายใน 1-2 เดือนนี้(รุ่นปัจจุบันเริ่มหมดสต๊อกแล้ว) ขณะที่ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ไมเนอร์เชนจ์มีคิวตามมาภายในปีนี้เช่นกัน
สำหรับ “ซี-เอชอาร์” ที่ได้เปรียบเรื่องความสดใหม่กว่าคู่แข่งทว่าโตโยต้ายังมีทีเด็ดเพื่อสร้างความโดดเด่นและตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชอบความแตกต่างด้วยทางเลือกชุดแต่งที่หลากหลาย
ในงานมอเตอร์โชว์ 2018 ที่ผ่านมา เปิดตัวชุดแต่ง TRD Sportivo ตามหลังการเปิดตัวรถใหม่อย่างรวดเร็ว แถมจัดโปรโมชันยั่วใจด้วยการให้ส่วนลด 20% โดยลูกค้าที่ซื้อรถจากโชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐาน สามารถสั่งแพ็กเกจชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo 5 รายการ ในราคาลดพิเศษ ซึ่งไม่รวมค่าแรงติดตั้งและค่าทำสี พร้อมรับรถได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo จะประกอบด้วย สปอยเลอร์กันชนหน้า ราคา 9,600 บาท (ราคาเต็มต่อชิ้น) สปอยเลอร์กันชนหลัง 8,100 บาท สปอยเลอร์ หลัง 7,200 บาท ชุดตกแต่งซุ้มล้อ 17,100 บาท และคิ้วตกแต่งกันชนหน้า 5,900 บาท โดยทั้ง 5รายการราคารวม 47,900 บาท แต่โปรโมชันลดเหลือ 38,320 บาท
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo แล้ว โตโยต้ายังมีทางเลือกกับชุดแต่งแท้จากโรงงาน เอาไปประดับเพิ่มทั้งภายนอก-ภายใน เพื่อเสริมความหล่อและอำนวยความสะดวกในการขับขี่
โดยเริ่มจากล้ออัลลอยขนาด 17นิ้ว Off Set 45 ,กว้าง 6.5J ราคาต่อวง 3,900 บาท และสามารถเสริมคิ้วล้ออัลลอย ที่ผลิตจากพลาสติก (PP) ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Injection Process มีความละเอียดสูง โดย 1 ชุดมี 5ชิ้น ราคา 3,100 บาท (รถ 1 คัน มี 4 ล้อต้องสั่ง 4 ชุด) ตลอดจนชุดสปอยเลอร์กันชนหน้ารวมทำสีราคา 4,300 บาท สปอยเลอร์กันชนหลัง 5,000 บาท ชุดสเกิร์ตข้าง 6,700 บาท ที่ผลิตจากวัสดุ TSOP (Toyota super orifin plastic) ซึ่งเป็นวัสดุเกรดเดียวกับที่ทำกันชนของรถยนต์
โดยชุดแต่งดังกล่าวถูกออกแบบโดยบริษัท Toyota Styling Australia (TSA) และผ่านขั้นตอนการผลิตแบบขึ้นรูปจากโรงงานมาตรฐาน ด้วยการฉีดทำให้งานที่ได้ออกมามีผิวที่เรียบและหนาสมํ่าเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีของประดับเล็กๆน้อยๆอย่าง คิ้วโครเมียมตกแต่งกันชนหน้า/หลัง สติกเกอร์ตกแต่งตัวถังที่เป็นฟิล์มผลิตจากวัสดุพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ครอบกระจกมองข้างที่ผลิตจากพลาสติก(ABS) คิ้วกันกระแทกประตู ที่ผลิตจากพลาสติก PP(Polypropylene)
ส่วนใครจะเติมการแต่งภายในก็มีทางเลือกเช่น สคัฟเพลทแบบสปอร์ตราคา 2,100 บาทไฟส่องเท้าในห้องผู้โดยสารติดตั้ง 4 จุด ราคา 3,700 ชุดพรมปูพื้น 5 ชิ้น 1,500 บาท
ส่วนออพชันที่ดูจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตยามคํ่าคืนคือ “กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ” ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงทางด้านหลัง พร้อมปรับมุมสะท้อนของแสงของกระจกโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ ทั้งยังติดตั้งด้วยการต่อเข้ากับ Socket ไม่ต้องตัดต่อสายไฟ พร้อมขายราคา 5,000 บาท
…ถือเป็นชุดแต่งจากโรงงานผู้ผลิต ที่คลอดออกมาพร้อมๆ กับโปรดักชันคาร์ นอกเหนือไปจากชุดแต่งของผู้ผลิตแบบอาฟเตอร์มาร์เก็ต ใครนิยมแบบไหนก็เลือกกันตามใจชอบ
หน้า 32-33 “หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ” ฉบับ 3,370 31 พ.ค.-2 มิ.ย.61
ขณะที่บี-เอสยูวีกลุ่มบนที่พี่ใหญ่โตโยต้า เสริมทัพ “ซี-เอชอาร์”เข้ามาใหม่มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และไฮบริด ราคา 9.79 แสน -1.159 ล้านบาท ส่งมอบให้ลูกค้าในเดือนมีนาคมเป็นเดือนแรกไปกว่า 2,100 คัน
ส่วนคู่แข่ง“ฮอนด้า เอชอาร์-วี” ที่ยอดซบซึมลงไปเป็นเพราะอยู่ในช่วงเตรียมเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่คาดว่าจะแนะนำลงสู่ตลาดภายใน 1-2 เดือนนี้(รุ่นปัจจุบันเริ่มหมดสต๊อกแล้ว) ขณะที่ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ไมเนอร์เชนจ์มีคิวตามมาภายในปีนี้เช่นกัน
สำหรับ “ซี-เอชอาร์” ที่ได้เปรียบเรื่องความสดใหม่กว่าคู่แข่งทว่าโตโยต้ายังมีทีเด็ดเพื่อสร้างความโดดเด่นและตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชอบความแตกต่างด้วยทางเลือกชุดแต่งที่หลากหลาย
ในงานมอเตอร์โชว์ 2018 ที่ผ่านมา เปิดตัวชุดแต่ง TRD Sportivo ตามหลังการเปิดตัวรถใหม่อย่างรวดเร็ว แถมจัดโปรโมชันยั่วใจด้วยการให้ส่วนลด 20% โดยลูกค้าที่ซื้อรถจากโชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐาน สามารถสั่งแพ็กเกจชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo 5 รายการ ในราคาลดพิเศษ ซึ่งไม่รวมค่าแรงติดตั้งและค่าทำสี พร้อมรับรถได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo จะประกอบด้วย สปอยเลอร์กันชนหน้า ราคา 9,600 บาท (ราคาเต็มต่อชิ้น) สปอยเลอร์กันชนหลัง 8,100 บาท สปอยเลอร์ หลัง 7,200 บาท ชุดตกแต่งซุ้มล้อ 17,100 บาท และคิ้วตกแต่งกันชนหน้า 5,900 บาท โดยทั้ง 5รายการราคารวม 47,900 บาท แต่โปรโมชันลดเหลือ 38,320 บาท
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากชุดแต่ง C-HR TRD Sportivo แล้ว โตโยต้ายังมีทางเลือกกับชุดแต่งแท้จากโรงงาน เอาไปประดับเพิ่มทั้งภายนอก-ภายใน เพื่อเสริมความหล่อและอำนวยความสะดวกในการขับขี่
โดยเริ่มจากล้ออัลลอยขนาด 17นิ้ว Off Set 45 ,กว้าง 6.5J ราคาต่อวง 3,900 บาท และสามารถเสริมคิ้วล้ออัลลอย ที่ผลิตจากพลาสติก (PP) ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Injection Process มีความละเอียดสูง โดย 1 ชุดมี 5ชิ้น ราคา 3,100 บาท (รถ 1 คัน มี 4 ล้อต้องสั่ง 4 ชุด) ตลอดจนชุดสปอยเลอร์กันชนหน้ารวมทำสีราคา 4,300 บาท สปอยเลอร์กันชนหลัง 5,000 บาท ชุดสเกิร์ตข้าง 6,700 บาท ที่ผลิตจากวัสดุ TSOP (Toyota super orifin plastic) ซึ่งเป็นวัสดุเกรดเดียวกับที่ทำกันชนของรถยนต์
โดยชุดแต่งดังกล่าวถูกออกแบบโดยบริษัท Toyota Styling Australia (TSA) และผ่านขั้นตอนการผลิตแบบขึ้นรูปจากโรงงานมาตรฐาน ด้วยการฉีดทำให้งานที่ได้ออกมามีผิวที่เรียบและหนาสมํ่าเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีของประดับเล็กๆน้อยๆอย่าง คิ้วโครเมียมตกแต่งกันชนหน้า/หลัง สติกเกอร์ตกแต่งตัวถังที่เป็นฟิล์มผลิตจากวัสดุพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ครอบกระจกมองข้างที่ผลิตจากพลาสติก(ABS) คิ้วกันกระแทกประตู ที่ผลิตจากพลาสติก PP(Polypropylene)
ส่วนใครจะเติมการแต่งภายในก็มีทางเลือกเช่น สคัฟเพลทแบบสปอร์ตราคา 2,100 บาทไฟส่องเท้าในห้องผู้โดยสารติดตั้ง 4 จุด ราคา 3,700 ชุดพรมปูพื้น 5 ชิ้น 1,500 บาท
ส่วนออพชันที่ดูจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตยามคํ่าคืนคือ “กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ” ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงทางด้านหลัง พร้อมปรับมุมสะท้อนของแสงของกระจกโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ ทั้งยังติดตั้งด้วยการต่อเข้ากับ Socket ไม่ต้องตัดต่อสายไฟ พร้อมขายราคา 5,000 บาท
…ถือเป็นชุดแต่งจากโรงงานผู้ผลิต ที่คลอดออกมาพร้อมๆ กับโปรดักชันคาร์ นอกเหนือไปจากชุดแต่งของผู้ผลิตแบบอาฟเตอร์มาร์เก็ต ใครนิยมแบบไหนก็เลือกกันตามใจชอบ
หน้า 32-33 “หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ” ฉบับ 3,370 31 พ.ค.-2 มิ.ย.61
