‘ภัทรภร’จัดทัพ-ปรับแพ็กเกจ ส่งเม็ดมะม่วงหิมพานต์บุกนอก
“ภัทรภร โฮมเมด” ปรับแพ็กเกจจิ้งสู่รูปแบบซองยืดอายุผลิตภัณฑ์เป็น 1 ปี หวังขยายตลาดส่งออก หลังนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมซื้อกลับไปรับประทาน และเตรียมออกงานไทยเฟ็กซ์ เล็งเจาะตลาดจีนและตะวันออกกลาง พร้อมปรับทำเลขายหน้าร้าน และเพิ่มช่องทางออนไลน์ เชื่อรายได้ปีนี้ทะยาน 20 ล้านบาท
นางภัทรภร ศุภศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรภร โฮมเมด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูปแบรนด์ “Pattaraporn” เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งไปสู่รูปแบบซอง เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปรับประทานที่ประเทศของตนและรองรับตลาดการส่งออก ซึ่งบริษัทกำลังจะออกแสดงสินค้าอาหารประจำปี 2561 หรืองานไทยเฟ็กซ์ (THAIFEX-Word of Food Asia 2018) ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้พบกับกลุ่มลูกค้าจากทั้งใน และต่างประเทศที่มาร่วมงาน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เดิมทีผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นรูปแบบกระปุกใส ซึ่งจะสามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ประมาณ 6 เดือน แต่ในรูปแบบซองจะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้เป็น 1 ปี โดยมองตลาดส่งออกที่ประเทศจีน และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ และคูเวต เป็นต้น เพราะจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่าลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าจะประเทศดังกล่าวเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายหน้าร้านบริษัทก็จะดำเนินการปรับเปลี่ยนทำเล โดยกำลังจะเปิดหน้าร้านจำหน่ายที่ห้างเทอร์มินอล21 (Terminal21) สาขาพัทยา และกำลังจะเปิดบูธจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน ในส่วนของกรูเมต์มาร์เก็ต (Gourmet Market) เพื่อรองรับตลาดของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมที่บริษัทจะมีหน้าร้านจำหน่ายที่ห้างเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาเช่า นอกจากนี้ ยังจะขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มเติมในส่วนของอินสตาแกรม (Instagram : IG) จากเดิมที่มีช่องทางผ่านเพจเฟซบุ๊ก, เว็บไซต์ และไลน์แอด (Line@) เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในช่องทางออนไลน์
“บริษัทต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ให้มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวกันมากขึ้น อีกทั้งลูกค้าของบริษัทก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นบนช่องทางออนไลน์ จากกลุ่มของผู้ใหญ่วัยทำงาน และผู้สูงอายุ โดยบริษัทยังสามารถขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดที่ขยายเพิ่มมากขึ้นได้”
นางภัทรภร กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาทในปี 2561 จากเดิมที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยจากภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใดกับยอดขายผลิตภัณฑ์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งยังคงซื้อผลิตภัณฑ์ตามปกติ
สำหรับจุดเด่นของเม็ดมะม่วง หิมพานต์แบรนด์ Pattaraporn นั้น อยู่ที่คัดสรรเลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบคัดพิเศษที่ต้องเป็นมีขนาดใหญ่ ส่วนวิธีการทำก็จะเป็นแบบโบราณซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของครอบครัว โดยใช้กระทะทองเหลืองเป็นภาชนะในการทำ ขณะที่ขั้นตอนในการทำจะต้องมีการเอาใจใส่เป็นพิเศษกับการปรับระดับของไฟให้ความร้อนอยู่ในระดับที่ต้องการ เพื่อเคี่ยวคาราเมลให้งวดแห้งและกรอบจนได้ที่ โดยที่ทั้งกระบวนการจะไม่มีการใช้นำมันเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด ทำให้ได้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบคาราเมลที่หอม และกรอบอร่อยไม่เหมือนใคร ซึ่งทุกกระบวนการมาจากการทำด้วยมือทั้งหมด โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบคาราเมลของ Pattaraporn จะมีทั้งรูปแบบที่มีงาขาว ซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิม และส่วนที่ผสมกับงาดำ นอกจากนี้ยังมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ ซึ่งจะไม่ใช้วิธีการทอดเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ซื้อหาตามความต้องการที่แตกต่างกัน
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจปีที่38 ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2561
นางภัทรภร ศุภศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรภร โฮมเมด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูปแบรนด์ “Pattaraporn” เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งไปสู่รูปแบบซอง เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปรับประทานที่ประเทศของตนและรองรับตลาดการส่งออก ซึ่งบริษัทกำลังจะออกแสดงสินค้าอาหารประจำปี 2561 หรืองานไทยเฟ็กซ์ (THAIFEX-Word of Food Asia 2018) ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้พบกับกลุ่มลูกค้าจากทั้งใน และต่างประเทศที่มาร่วมงาน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เดิมทีผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นรูปแบบกระปุกใส ซึ่งจะสามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ประมาณ 6 เดือน แต่ในรูปแบบซองจะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้เป็น 1 ปี โดยมองตลาดส่งออกที่ประเทศจีน และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ และคูเวต เป็นต้น เพราะจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่าลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าจะประเทศดังกล่าวเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายหน้าร้านบริษัทก็จะดำเนินการปรับเปลี่ยนทำเล โดยกำลังจะเปิดหน้าร้านจำหน่ายที่ห้างเทอร์มินอล21 (Terminal21) สาขาพัทยา และกำลังจะเปิดบูธจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน ในส่วนของกรูเมต์มาร์เก็ต (Gourmet Market) เพื่อรองรับตลาดของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมที่บริษัทจะมีหน้าร้านจำหน่ายที่ห้างเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาเช่า นอกจากนี้ ยังจะขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มเติมในส่วนของอินสตาแกรม (Instagram : IG) จากเดิมที่มีช่องทางผ่านเพจเฟซบุ๊ก, เว็บไซต์ และไลน์แอด (Line@) เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในช่องทางออนไลน์
“บริษัทต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ให้มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวกันมากขึ้น อีกทั้งลูกค้าของบริษัทก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นบนช่องทางออนไลน์ จากกลุ่มของผู้ใหญ่วัยทำงาน และผู้สูงอายุ โดยบริษัทยังสามารถขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดที่ขยายเพิ่มมากขึ้นได้”
นางภัทรภร กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาทในปี 2561 จากเดิมที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยจากภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใดกับยอดขายผลิตภัณฑ์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งยังคงซื้อผลิตภัณฑ์ตามปกติ
สำหรับจุดเด่นของเม็ดมะม่วง หิมพานต์แบรนด์ Pattaraporn นั้น อยู่ที่คัดสรรเลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบคัดพิเศษที่ต้องเป็นมีขนาดใหญ่ ส่วนวิธีการทำก็จะเป็นแบบโบราณซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของครอบครัว โดยใช้กระทะทองเหลืองเป็นภาชนะในการทำ ขณะที่ขั้นตอนในการทำจะต้องมีการเอาใจใส่เป็นพิเศษกับการปรับระดับของไฟให้ความร้อนอยู่ในระดับที่ต้องการ เพื่อเคี่ยวคาราเมลให้งวดแห้งและกรอบจนได้ที่ โดยที่ทั้งกระบวนการจะไม่มีการใช้นำมันเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด ทำให้ได้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบคาราเมลที่หอม และกรอบอร่อยไม่เหมือนใคร ซึ่งทุกกระบวนการมาจากการทำด้วยมือทั้งหมด โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบคาราเมลของ Pattaraporn จะมีทั้งรูปแบบที่มีงาขาว ซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิม และส่วนที่ผสมกับงาดำ นอกจากนี้ยังมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ ซึ่งจะไม่ใช้วิธีการทอดเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ซื้อหาตามความต้องการที่แตกต่างกัน
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจปีที่38 ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2561
