เอ็มเพอเร่อร์เจาะเศรษฐีใหม่ลุยสร้างบ้านทั่วประเทศหวังกวาดรายได้450ล้าน
“ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์” เจาะกลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่เป็นนักธุรกิจสตาร์ตอัพ ด้วยไลฟ์สไตล์บ้านคลาสสิกที่แตกต่าง ตั้งเป้าปีนี้โกยรายได้ 450 ล้านบาท ตอกยํ้าผู้นำตลาดรับสร้างบ้านหรู เปิดเวทีนักออกแบบรุ่นใหม่โชว์ไอเดียบ้านหรูชิงเงินรางวัล 3 แสนบาท
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้เล็งเห็นถึงศักยภาพกลุ่มลูกค้า ใหม่ที่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งได้ชื่อเศรษฐีรุ่นใหม่ และเป็นนักธุรกิจสตาร์ตอัพ อายุกว่
า 30 ปีขึ้นไปที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ มีรสนิยมหรือไลฟ์สไตล์ชื่นชอบบ้านสไตล์คลาสสิกไม่เหมือนกับคนรุ่นเก่า รูปแบบบ้านจึงเปลี่ยนแปลงไปแต่ยังคงความเป็นบ้านระดับลักชัวรีที่สนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
สำหรับตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบันจะเหลือเฉพาะรายใหญ่ที่เป็นมืออาชีพเท่านั้น คุณภาพต้องโดดเด่นจริง กลุ่มเป้าหมายหลักยังเป็นบ้านราคาระดับหรูสมรูปแบบ ราคาตํ่าสุดในปัจจุบันราคา 40 ล้านบาท คู่แข่งเน้นการปรับลดราคา แต่ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ยังเน้นคุณภาพและมาตรฐานที่แตกต่างไปซึ่งมาตรฐาน ISO ที่ได้รับเป็นรายแรกในประเทศไทย บริษัทมีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ให้สอดรับเทคโนโลยีเวิลด์ไวด์ ให้เป็นบ้านลักชัวรีในอนาคต
แผนธุรกิจของบริษัทยังคงรุกการตลาดในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการออกบูธแนะนำตามงานอีเวนต์ต่างๆ การจัดงานร่วมกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังคงตั้งเป้าโกยรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 450 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน ส่วนภาพรวมการตลาดยังอยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท โดยพร้อมนำเสนอรูปแบบบ้านคลาสสิกโฉมใหม่ รองรับพื้นที่ตั้งแต่ 800 -2,000 ตารางเมตร ปัจจุบันบริษัทยังรุกตลาดการรับสร้างบ้านไปทั่วประเทศ ใช้ศักยภาพทั้งส่วนกลางและจากพื้นที่โดยเฉพาะวัสดุมาตรฐานพร้อมกับการนำเข้าสินค้าตกแต่งบ้านจากต่างประเทศ ส่วนวิศวกรหลักยังเป็นบุคลากรที่ส่งไปจากส่วนกลางเพื่อกำกับดูแล โครงสร้างยังเน้นการทำในพื้นที่ ปูนปั้นเองทั้งหมด
“ยังปฏิบัติอย่างต่อเนื่องนั่นคือ รุกตลาดแบบโอเพ่นให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่และมองว่าเทรนด์ในระยะ 3-5 ปี หลังจากนี้จะปรับเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่จะชื่นชอบบ้านในสไตล์ของตนเองมากขึ้น รูปแบบสไตล์คลาสสิกอาจจะลดน้อยลงไปบ้าง จึงออกแบบสไตล์ใหม่มารองรับ โดยบ้านหลังแรกที่บริษัทสร้างเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาปัจจุบันยังใช้บริการกันมาโดยตลอด มาตรฐานสูงแทบจะไม่ต้องเข้าไปดูแลรักษา นั่นคือมีทีมเวิร์กที่ดีทั้งก่อนและหลังบริหารการขาย ประการสำคัญลูกค้าจะอนุญาตให้พาลูกค้ารายใหม่ไปเยี่ยมชมบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่คือกลยุทธ์เชิงรุกที่บริษัทใช้มาโดยตลอด 30 ปี”
นายสุรัตน์ชัยกล่าวอีกว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทตระหนักเสมอว่าเราไม่ใช่แค่สร้างบ้าน แต่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ สำหรับการออกรูปแบบบ้านของบริษัทปัจจุบันมี 2 วิธี คือ 1. บริษัทออกแบบเอง และ 2. จัดประกวดแบบจากนักออกแบบทั่วไปที่เน้นดีไซเนอร์คนรุ่นใหม่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ โดยแบบที่ชนะเลิศบริษัทจะนำไปปรับปรุงให้เหมาะสมก่อนนำไปกำหนดเป็นแบบบ้านมาตรฐานของบริษัทต่อไป
“หวังกระตุ้นดีมานด์งานรับสร้างบ้านสไตล์คลาสสิก โดยตั้งเงินรางวัลการประกวดครั้งนี้ไว้จำนวน 3 แสนบาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน มีประกวดรอบแรก รอบที่ 2 ชิงรางวัลชมเชย และรางวัลป๊อปปูล่าโหวต อีกทั้งยังจะมีหนังสือฉบับพิเศษครบรอบ 30 ปีที่รวบรวมประวัติความเป็นมาผลงานเด่นของบริษัทเพื่อเก็บเป็นตำนานมอบให้กับทุกคนในโอกาสพิเศษช่วงเดือนสิงหาคมนี้ด้วย อีกทั้งยังจะจัดกิจกรรมร่วมกับซัพพลายเออร์ และลูกบ้านในรอบพิเศษช่วงปลายปีนี้”
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่38 ฉบับ 3,370 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2561
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้เล็งเห็นถึงศักยภาพกลุ่มลูกค้า ใหม่ที่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งได้ชื่อเศรษฐีรุ่นใหม่ และเป็นนักธุรกิจสตาร์ตอัพ อายุกว่
สำหรับตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบันจะเหลือเฉพาะรายใหญ่ที่เป็นมืออาชีพเท่านั้น คุณภาพต้องโดดเด่นจริง กลุ่มเป้าหมายหลักยังเป็นบ้านราคาระดับหรูสมรูปแบบ ราคาตํ่าสุดในปัจจุบันราคา 40 ล้านบาท คู่แข่งเน้นการปรับลดราคา แต่ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ยังเน้นคุณภาพและมาตรฐานที่แตกต่างไปซึ่งมาตรฐาน ISO ที่ได้รับเป็นรายแรกในประเทศไทย บริษัทมีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ให้สอดรับเทคโนโลยีเวิลด์ไวด์ ให้เป็นบ้านลักชัวรีในอนาคต
แผนธุรกิจของบริษัทยังคงรุกการตลาดในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการออกบูธแนะนำตามงานอีเวนต์ต่างๆ การจัดงานร่วมกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังคงตั้งเป้าโกยรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 450 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน ส่วนภาพรวมการตลาดยังอยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท โดยพร้อมนำเสนอรูปแบบบ้านคลาสสิกโฉมใหม่ รองรับพื้นที่ตั้งแต่ 800 -2,000 ตารางเมตร ปัจจุบันบริษัทยังรุกตลาดการรับสร้างบ้านไปทั่วประเทศ ใช้ศักยภาพทั้งส่วนกลางและจากพื้นที่โดยเฉพาะวัสดุมาตรฐานพร้อมกับการนำเข้าสินค้าตกแต่งบ้านจากต่างประเทศ ส่วนวิศวกรหลักยังเป็นบุคลากรที่ส่งไปจากส่วนกลางเพื่อกำกับดูแล โครงสร้างยังเน้นการทำในพื้นที่ ปูนปั้นเองทั้งหมด
“ยังปฏิบัติอย่างต่อเนื่องนั่นคือ รุกตลาดแบบโอเพ่นให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่และมองว่าเทรนด์ในระยะ 3-5 ปี หลังจากนี้จะปรับเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่จะชื่นชอบบ้านในสไตล์ของตนเองมากขึ้น รูปแบบสไตล์คลาสสิกอาจจะลดน้อยลงไปบ้าง จึงออกแบบสไตล์ใหม่มารองรับ โดยบ้านหลังแรกที่บริษัทสร้างเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาปัจจุบันยังใช้บริการกันมาโดยตลอด มาตรฐานสูงแทบจะไม่ต้องเข้าไปดูแลรักษา นั่นคือมีทีมเวิร์กที่ดีทั้งก่อนและหลังบริหารการขาย ประการสำคัญลูกค้าจะอนุญาตให้พาลูกค้ารายใหม่ไปเยี่ยมชมบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่คือกลยุทธ์เชิงรุกที่บริษัทใช้มาโดยตลอด 30 ปี”
นายสุรัตน์ชัยกล่าวอีกว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทตระหนักเสมอว่าเราไม่ใช่แค่สร้างบ้าน แต่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ สำหรับการออกรูปแบบบ้านของบริษัทปัจจุบันมี 2 วิธี คือ 1. บริษัทออกแบบเอง และ 2. จัดประกวดแบบจากนักออกแบบทั่วไปที่เน้นดีไซเนอร์คนรุ่นใหม่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ โดยแบบที่ชนะเลิศบริษัทจะนำไปปรับปรุงให้เหมาะสมก่อนนำไปกำหนดเป็นแบบบ้านมาตรฐานของบริษัทต่อไป
“หวังกระตุ้นดีมานด์งานรับสร้างบ้านสไตล์คลาสสิก โดยตั้งเงินรางวัลการประกวดครั้งนี้ไว้จำนวน 3 แสนบาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน มีประกวดรอบแรก รอบที่ 2 ชิงรางวัลชมเชย และรางวัลป๊อปปูล่าโหวต อีกทั้งยังจะมีหนังสือฉบับพิเศษครบรอบ 30 ปีที่รวบรวมประวัติความเป็นมาผลงานเด่นของบริษัทเพื่อเก็บเป็นตำนานมอบให้กับทุกคนในโอกาสพิเศษช่วงเดือนสิงหาคมนี้ด้วย อีกทั้งยังจะจัดกิจกรรมร่วมกับซัพพลายเออร์ และลูกบ้านในรอบพิเศษช่วงปลายปีนี้”
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่38 ฉบับ 3,370 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2561
