ร.ฟ.ท.เคาะซื้อ 50 หัวรถจักรรอไฟเขียวอีกล็อตใหญ่ 186 ขบวนงบกว่า1.3 หมื่นล้าน

ร.ฟ.ท.ชงบอร์ดเคาะจัดซื้อ 50 หัวรถจักรรอบใหม่ มูลค่า 6,500 ล้านบาท หลังเคยล่มมาแล้ว 3 ครั้ง “ทนงศักดิ์” เผยยังมีเค้กจัดซื้อล็อตใหญ่ 426 ขบวน แบ่งก้อนแรก 186 ขบวน ค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท คาดสศช.ไฟเขียวมิ.ย.-ก.ค.นี้ กลุ่มริเวอร์-ซานโฟโก-อินคาไทยแลนด์น้องใหม่จากอินเดียแข่งเดือดแน่


[caption id="attachment_285078" align="aligncenter" width="348"] อานนท์ เหลืองบริบูรณ์[/caption]

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้นำเสนอโครงการจัดซื้อหัวรถจักรจำนวน 50 หัวรวมมูลค่า 6,500 ล้านบาทเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมนี้โดยเรื่อง นี้ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องยกเลิกโครงการจัดซื้อไปก่อนหน้านี้ถึง 3 ครั้งแล้วก็ตาม

“จัดซื้อหัวรถจักรใหม่ทั้งหมดรูปแบบดีเซลรางขนาดนํ้าหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลาและมีครม.รองรับแล้วแต่ก็ยังมีลุ้นว่าบอร์ดได้มีการตั้งข้อสังเกตอย่างไรบ้างซึ่งร.ฟ.ท.ได้ปรับสเปก อย่างเปิดกว้างให้มีการเข้าร่วมประมูลได้มากรายที่สุดแล้วหากไม่มีสาระสำคัญในการแก้ไขคาดว่าจะสามารถประกาศรับฟังความเห็นทีโออาร์ได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยรถจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้บริการเชิงพาณิชย์ทั้งลากขบวนรถโดยสารและขนส่งสินค้า”

[caption id="attachment_285081" align="aligncenter" width="503"] ทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ[/caption]

ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการร.ฟ.ท.กลุ่มธุรกิจเดินรถ กล่าวเสริมว่า ยังมีกรณีการเช่าหัวรถจักรอีกจำนวน 50 หัวรวมค่าซ่อมบำรุงคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ หลังจากนั้นจะนำเสนอ ร.ฟ.ท.เร่งผลักดันต่อเนื่องกันไป พร้อมกันนี้ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการจัดซื้อขบวนใหม่อีกจำนวน 426 ขบวน โดย 186 ขบวนในล็อตแรกนี้คิดเป็นวงเงินลงทุนประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้

“จำนวน 236 ขบวนในล็อตหลังจะนำไปใช้งานทดแทนรถไฟชานเมืองที่ปัจจุบันมีสภาพเก่า แม้จะปรับปรุงคุณภาพแล้วก็ตาม ล่าสุดนั้นยังว่าจ้างให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางธุรกิจด้านการออกแบบรถไฟเชิงท่องเที่ยวอีกจำนวน 10 คัน โดยรถขบวนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากญี่ปุ่นซึ่งจะนำไปปรับปรุงให้พร้อมนำไปใช้งานก่อนที่การจัดซื้อขบวนใหม่จะนำมาใช้งานได้ต่อไป”
ด้านแหล่งข่าวของผู้ประกอบการนำเข้าหัวรถจักรรายหนึ่งกล่าวว่าอยากให้จับตากรณีการประมูลรอบใหม่นี้ถึงข้อพิรุธการนำเสนอบอร์ดร.ฟ.ท. ทั้งๆที่น่าจะนำเสนอเป็นวาระพิจารณาแต่กลับนำเสนอเป็นวาระเพื่อทราบ โดยทุกครั้งที่ผ่านมาผู้ที่ไปซื้อซองเอกสารประกวดราคาต้องวางเงินประกันจำนวนรายละ 3 แสนบาท ส่วนเอกชนที่จะแข่งประมูลครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มริเวอร์เอนจิเนียริ่งที่จะส่งในนามซีอาร์อาร์ซีของจีนกลุ่มซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล และกลุ่มน้องใหม่อินคาไทยแลน์จากอินเดียที่เปิดตัวพร้อมสู้ประมูลเต็มที่ หากพิจารณาด้านการปรับสเปกจะพบว่ามีการปรับไปแล้วกว่า 8 ครั้งรอบใหม่นี้จัดเป็นครั้งที่ 9 กำหนดสเปกใหม่รูปแบบ REV ตามที่ร.ฟ.ท. กำหนดเป็นดิวิชัน 9
“ร.ฟ.ท.รับเงินประกันซองแต่ละครั้ง 3 แสนบาทจำนวนกว่า 10 ราย คิดเป็นวงเงินมากแค่ไหนไม่ได้คืนให้เอกชน ยกเว้นครั้งล่าสุดนี้ ยังเห็นว่าร.ฟ.ท.เอาเปรียบภาคเอกชนเดิมกำหนดสเปก ที่สอดคล้องกับราคากลาง แต่ล่าสุดรอบใหม่นี้ต้องจับตาว่าจะมีการยกเลิกอีกหรือไม่เนื่องจากราคายังเท่าเดิมอีกทั้งยังอนุมัติมาหลายปีแล้ว แต่กำหนดสเปก มากขึ้นทั้งอุปกรณ์ควบคุมรถ กล้องซีซีทีวี ให้ไปวิ่งให้บริการในโครงการรถไฟทางคู่ เอกชนรายไหนจะเข้ามาร่วม ต้องคอยดูว่าจะมีการเสนอแนะในการเปิดรับฟังความเห็นเอกสารประกวดราคาให้ปรับราคากลางเพิ่มอีกทั้งยังจะต้องใช้เงินอีกคันละ 15 ล้านบาทต่อคันในการติดตั้งตามสเปกใหม่รวมเป็นเงินกว่า 700 ล้านบาทจึงเป็นการเอาเปรียบเอกชนอย่างชัดเจนดังนั้นราคากลางขณะนี้จึงคงไม่มีใครผ่านการพิจารณาเข้าไปประมูลมีแนวโน้มว่าจะมีการยกเลิกอีกครั้ง”
เชกชั่น:เศรษฐกิจมหภาค | หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3367 ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ค.2561