Coin Asset มุ่งตลาดเทรดบิตคอยน์ มาตรฐานอาเซียน

29 พ.ค. 2561 | 02:57 น.
บริษัท คอยน์แอสเซท จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์กลางซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอล Coin Asset Exchange หรือ CAX ให้บริการผ่านเว็บไซต์ Coinasset.co.th ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางซื้อขายฯแห่งแรกในประเทศไทย ที่ใช้ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 30 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบมากว่า 1 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นตลาดกลางซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมาตรฐานดีที่สุดในอาเซียน เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้

นายศิวนัส ยามดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอยน์แอสเซท (Coinasset.co.th) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นอกจากการให้บริการตลาดกลางซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ทางบริษัทมีแผนจะเพิ่มการให้บริการในด้านอื่นๆเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต เพื่อต่อยอดนอกเหนือจากการซื้อขายทำกำไรแต่อย่างเดียว อาทิ การเป็น ICO Portal

ปัจจุบันตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีมูลค่ารวมตามราคาตลาด (Market Capitalization) 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของตลาดหุ้นโลก ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน สำหรับตลาดคริปโตฯในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน ซึ่งถือว่าขนาดยังเล็กมาก และมีโอกาสเติบโตได้อีก

นายศิวนัสกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง มีความร่วมมือกับบริษัททั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน โดยมีกลุ่มนักลงทุนสนใจซื้อขายผ่านเว็บเทรด Coinasset.co.th ซึ่งทางเราจะมุ่งขยายฐานการให้บริการไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย Go_Siwanut_COINASSET

“วันที่ JFin Coin เข้าซื้อขายในตลาดรองอย่าง Coinasset วันแรก มีการเข้ามาดูข้อมูลของนักลงทุนในประเทศ 70% ขณะที่มีการเข้ามาดูเว็บไซต์ของเราจากประเทศสหรัฐฯถึง 30% และข่าวการซื้อขายในตลาดรองของ JFin Coin ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก แสดงว่านักลงทุนต่างชาติจับตามองตลาดการซื้อขายคริปโตฯ ในประเทศไทยอยู่ไม่น้อย” นายศิวนัสกล่าว

นายศิวนัสกล่าวว่า กระดานเทรดของเรา เน้นการดูแลลูกค้า เป็นสิ่งสําคัญมีการแนะนำคอร์สให้ความรู้ มี Support Chat ให้สอบถามข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้ 24 ชั่วโมง มีบริการทั้งภาษาไทย,อังกฤษและจีน

ทาง Coinasset ได้แก้ปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น อาทิ การจัดการฝาก ถอน โอน สามารถทำได้รวดเร็วการสมัครการยืนยันตัวตนทำได้ภายใน 10 นาที เรามีทีม admin 24 ชั่วโมง 7 วัน, การเก็บรักษาข้อมูลและเก็บรักษาทรัพย์สินลูกค้า ทางบริษัทได้ลงทุนในระบบ Data Security ได้รับ ISO 27001/IEC2013 รายแรกในประเทศไทย

บริษัทได้พัฒนา Blockchain on Blockchain ของบริษัทเองได้สำเร็จ ทำให้ทุกธุรกรรมอยู่บน Blockchain โปร่งใส ตรวจสอบได้ บริษัทมีนโยบายจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิตอลทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์อย่าง Hardware Wallet นอกจากนี้บริษัทยังมีการจ้างแฮกเกอร์เข้ามาทดสอบเจาะข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย

คอยน์แอสเซทยังพร้อมเปิดรับ ICO คุณภาพเข้าซื้อขายในตลาดเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต มีการพัฒนาโมเดลแฟรนไชส์ให้ลูกค้าในอาเซียนเพื่อสร้างพันธมิตร และแบ่งปันเทคโน โลยีระหว่างกัน มีแผนการตลาดมีทีมฝ่ายขายดูแลนักลงทุนรายใหญ่ มีทีม Admin ที่ให้บริการลูกค้าได้ 3 ภาษา มีพันธมิตรที่สนับสนุนอย่างกลุ่มเทรดเดอร์จากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายศิวนัสกล่าวถึงทิศทางของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลในประเทศไทยว่า ตลาดนี้จะเติบโตเร็วขึ้น จำนวนผู้ใช้จะมีมากขึ้น จากในอดีตที่ผ่านมากลุ่มคนที่ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีจะเป็นเฉพาะกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี แต่ในอนาคตจะมีนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆเพิ่มเข้ามามากขึ้น อย่างนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เริ่มเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตฯมากขึ้น อนาคตในธุรกิจนี้ก็จะเติบโตอย่างแน่นอน

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับวันที่ 27-30 พ.ค. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว