'ไทย' ชนะประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ 2 แสนตัน ลุ้นจีนต่อ!
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกข้าวไทย 4 ราย ชนะการประมูลขายข้าวขาว 25% ปริมาณรวม 212,500 ตัน คิดเป็น 85% ของปริมาณข้าวทั้งหมด ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยองค์การอาหารแห่งชาติ (NFA) เปิดประมูลนำเข้าเป็นการทั่วไปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เป็นชนิดข้าวขาว 25% ปริมาณ 250,000 ตัน โดยส่วนที่เหลืออีก 37,500 ตัน เป็นของสิงคโปร์ โดย NFA กำหนดให้ส่งมอบเดือน ก.ค.–ส.ค. 2561 ซึ่งก่อนหน้านี้ ไทยได้ชนะการประมูลขายข้าวขาว 25% แบบจีทูจีกับ NFA ปริมาณ 120,000 ตัน ซึ่งกำหนดส่งมอบเดือน พ.ค.–มิ.ย.
โดยการที่ไทยชนะประมูลขายข้าวของเอกชนไทยในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณส่งออกข้าวไทย รักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญของโลกแล้ว ยังทำให้มีคำสั่งซื้อปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือน ส.ค. 2561 ส่งผลดีต่อตลาดข้าวไทยโดยรวม และราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ รวมทั้งช่วยรักษาระดับราคาข้าวไทยให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น
สำหรับ การส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–22 พ.ค. 2561 มีปริมาณ 4.276 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.166 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 2.64% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีมูลค่า 2,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23.26 โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าการส่งออกข้าวไทยในปี 2561 จะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10 ล้านตันอย่างแน่นอน
ด้าน นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แนวโน้มราคาข้าวโลกน่าจะยังทรงตัวสูงในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ขณะนี้ราคาถึง 1,225 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เป็นราคาสูงเกือบเท่าปี 2551 ที่ขณะนั้น ราคาเกือบถึง 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนข้าวขาว 5% เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 451 ดอลลาร์สหรัฐ และความต้องการนำเข้าข้าวในหลายประเทศยังสูง เช่น อินโดนีเซีย ที่เดิมจะนำเข้าทั้งปี 1.3 ล้านตัน หรืออยู่หว่างกำลังเจรจาขายข้าวอีก 1 แสนตัน ในกรอบสัญญาจีทูจีที่ทำไว้เดิม
สำหรับความคืบหน้าเปิดระบายข้าว 4.37 หมื่นตัน ซึ่งมี 9 ราย เสนอราคาสูงสุดนั้น จะนำเสนอที่ประชุมอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวพิจารณาในวันที่ 28 พ.ค. ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมประชุมหารือกับผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าว และโรงสี เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและกำหนดแผนล่วงหน้าในการบริหารจัดการข้าวฤดูกาลใหม่นาปรัง 2561 และนาปี 2561/62 ที่จะเริ่มมีข้าวออกสู่ตลาดเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา มีการกำหนดราคาส่งออกที่ต่ำมาก และ ประเมินว่าผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของไทยจะสูงมากเพราะปริมาณน้ำเพียงพอ
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'อคส.' จับมือ 'สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย' เพิ่มช่องทางกระจายข้าว
● โละสต๊อก"ข้าวโพด-มัน" ลดค่าเก็บ12ล้าน/เดือน
โดยการที่ไทยชนะประมูลขายข้าวของเอกชนไทยในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณส่งออกข้าวไทย รักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญของโลกแล้ว ยังทำให้มีคำสั่งซื้อปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือน ส.ค. 2561 ส่งผลดีต่อตลาดข้าวไทยโดยรวม และราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ รวมทั้งช่วยรักษาระดับราคาข้าวไทยให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น
สำหรับ การส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–22 พ.ค. 2561 มีปริมาณ 4.276 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.166 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 2.64% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีมูลค่า 2,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23.26 โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน แอฟริกาใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าการส่งออกข้าวไทยในปี 2561 จะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10 ล้านตันอย่างแน่นอน
ด้าน นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แนวโน้มราคาข้าวโลกน่าจะยังทรงตัวสูงในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ขณะนี้ราคาถึง 1,225 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เป็นราคาสูงเกือบเท่าปี 2551 ที่ขณะนั้น ราคาเกือบถึง 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนข้าวขาว 5% เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 451 ดอลลาร์สหรัฐ และความต้องการนำเข้าข้าวในหลายประเทศยังสูง เช่น อินโดนีเซีย ที่เดิมจะนำเข้าทั้งปี 1.3 ล้านตัน หรืออยู่หว่างกำลังเจรจาขายข้าวอีก 1 แสนตัน ในกรอบสัญญาจีทูจีที่ทำไว้เดิม
สำหรับความคืบหน้าเปิดระบายข้าว 4.37 หมื่นตัน ซึ่งมี 9 ราย เสนอราคาสูงสุดนั้น จะนำเสนอที่ประชุมอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวพิจารณาในวันที่ 28 พ.ค. ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมประชุมหารือกับผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าว และโรงสี เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและกำหนดแผนล่วงหน้าในการบริหารจัดการข้าวฤดูกาลใหม่นาปรัง 2561 และนาปี 2561/62 ที่จะเริ่มมีข้าวออกสู่ตลาดเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา มีการกำหนดราคาส่งออกที่ต่ำมาก และ ประเมินว่าผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของไทยจะสูงมากเพราะปริมาณน้ำเพียงพอ
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'อคส.' จับมือ 'สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย' เพิ่มช่องทางกระจายข้าว
● โละสต๊อก"ข้าวโพด-มัน" ลดค่าเก็บ12ล้าน/เดือน
