YLGวิเคราะห์ทองคำช่วงบ่ายแนะซื้อเมื่อราคาใกล้แนวรับ1,285-1,280 ดอลล์/ออนซ์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วิเคราะห์สถานการณ์ทองคำช่วงบ่ายวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 โดยแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัว เข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในระยะสั้นหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในช่วงสั้นและแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
สรุปราคาทองคำช่วงเช้าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับ ตัวลงมา เคลื่อนไหวต่ำกว่า 3% หลังจากวานนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค. ระบุว่าเฟดยอมรับการที่เงินเฟ้ออาจขยับขึ้นออกจากกรอบเป้าหมายของเฟดที่ 2% ได้เป็นการชั่วคราว จากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากนัก และเมื่อตรวจสอบจาก CME Group
โดยใช้เครื่องมือ FedWatch พบว่า
นักลงทุนคาดการณ์ถึงโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 40% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 50% บ่งชี้ว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี อีกเพียง 2 ครั้ง ในเดือนมิ.ย.และก.ย. สำหรับวันนี้ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ รวมถึงสุนทรพจน์ของ William Dudley ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และ Raphael Bostic ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา นอกจากนี้ติดตามการรื้อถอนฐานทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในวันนี้ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคำพยายามทดสอบบริเวณ 1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคาทองคำ แนะนำกลยุทธ์โดยเน้นลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
สรุปราคาทองคำช่วงเช้าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับ ตัวลงมา เคลื่อนไหวต่ำกว่า 3% หลังจากวานนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค. ระบุว่าเฟดยอมรับการที่เงินเฟ้ออาจขยับขึ้นออกจากกรอบเป้าหมายของเฟดที่ 2% ได้เป็นการชั่วคราว จากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากนัก และเมื่อตรวจสอบจาก CME Group
โดยใช้เครื่องมือ FedWatch พบว่า
นักลงทุนคาดการณ์ถึงโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 40% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 50% บ่งชี้ว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี อีกเพียง 2 ครั้ง ในเดือนมิ.ย.และก.ย. สำหรับวันนี้ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ รวมถึงสุนทรพจน์ของ William Dudley ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และ Raphael Bostic ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา นอกจากนี้ติดตามการรื้อถอนฐานทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในวันนี้ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคำพยายามทดสอบบริเวณ 1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคาทองคำ แนะนำกลยุทธ์โดยเน้นลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
