ราคาทองคำช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบ
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วิเคราะห์ราคาทองคำช่วงบ่ายวันที่ 23 พฤษภาคม 2561ว่าการเข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
ราคาทองคำช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่วานนี้รัฐบาลต่างๆของสหภาพยุโรป(EU)มีการหารือทางการค้ากับสหรัฐ แต่นางเซซิเลียมาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้า EU กล่าวว่า ดูเหมือนจะไม่สามารถโน้มน้าวสหรัฐ ให้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าต่อเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของอียูได้
อีกทั้งหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอนัล รายงานว่าปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐกำลังพิจารณาลดการนำ เข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป(EU)ลงประมาณ 10% นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ของจีน จนทำ ให้บริษัทZTE ออกมาเปิดเผยประมาณการว่า บริษัทอาจได้รับความเสียหายเป็นวงเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 3.1พันล้านดอลลาร์)
จากการถูกคว่ำบาตรเป็นเวลา 7 ปี อย่างไรก็ตามแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำยังไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด(FOMC MeetingMinutes)คืนนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ภาคผลิต,บริการและยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แสดงว่าเป็นเพียงแรงดีดตัวขึ้นระยะสั้น อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แนะนำลงทุนในกรอบราคา โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การเข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลง ของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
ราคาทองคำช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่วานนี้รัฐบาลต่างๆของสหภาพยุโรป(EU)มีการหารือทางการค้ากับสหรัฐ แต่นางเซซิเลียมาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้า EU กล่าวว่า ดูเหมือนจะไม่สามารถโน้มน้าวสหรัฐ ให้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าต่อเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของอียูได้
อีกทั้งหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอนัล รายงานว่าปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐกำลังพิจารณาลดการนำ เข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป(EU)ลงประมาณ 10% นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ของจีน จนทำ ให้บริษัทZTE ออกมาเปิดเผยประมาณการว่า บริษัทอาจได้รับความเสียหายเป็นวงเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 3.1พันล้านดอลลาร์)
จากการถูกคว่ำบาตรเป็นเวลา 7 ปี อย่างไรก็ตามแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำยังไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด(FOMC MeetingMinutes)คืนนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ภาคผลิต,บริการและยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แสดงว่าเป็นเพียงแรงดีดตัวขึ้นระยะสั้น อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แนะนำลงทุนในกรอบราคา โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การเข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลง ของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
