ขนส่งทางบกผนึกพันธมิตรลุยลดต้นทุนพลังงานพัฒนาระบบโลจิสติกส์

22 พ.ค. 2561 | 12:10 น.
กรมการขนส่งทางบก ลงนามความร่วมมือกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสมาคมสหพันธ์การขนส่งทางบกไทย ร่วมขับเคลื่อนนโยบายอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่ง เสริมสร้างทักษะการขับรถเพื่อการประหยัดพลังงานแก่ผู้ขับรถบรรทุกและรถโดยสาร ลดต้นทุนการใช้พลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ พัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศอย่างยั่งยืน

kk1

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกตระหนักถึงความสำคัญในการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการดำเนินการด้านโลจิสติกส์ของประเทศที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green & Safety Logistics) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้จัดให้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาผู้ขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสาร เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และความปลอดภัยในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ระหว่าง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, สมาคมสหพันธ์การขนส่งทางบกไทย และกรมการขนส่งทางบก เพื่อร่วมกันดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 ของประเทศ ต้องลดการใช้พลังงานลง 30% ภายในปี 2579 ทั้งนี้ พบว่าภาคการขนส่งทางถนนมีสัดส่วนในการใช้พลังงานมากที่สุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องบูรณาการดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

kk

สำหรับการดำเนินการภายใต้บันทึกความร่วมมือดังกล่าว ทั้ง 4 หน่วยงาน จะร่วมกันพัฒนาผู้ขับรถบรรทุกและรถโดยสารให้ตอบสนองต่อนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงาน, การพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงาน, การพัฒนามาตรฐานการขับขี่และความปลอดภัยบนท้องถนน, การพัฒนาบุคลากรของผู้ประกอบการขนส่งเพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ, การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ขับขี่ทั้งในภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ เพื่อการถ่ายทอดความรู้ การพัฒนาทักษะ และการสร้างจิตสำนึกเพื่อการขับขี่ที่ประหยัดพลังงานและมีความปลอดภัย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกยังส่งเสริมให้เกิดการยกระดับการให้บริการขนส่งทางถนนที่ดีและมีคุณภาพ ลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยระบบบริหารจัดการการเดินรถที่มีประสิทธิภาพ เช่น การนำระบบ GPS Tracking มาใช้ติดตามตำแหน่งของรถและควบคุมกำกับดูแลพนักงานขับรถตลอด 24 ชั่วโมง เช่น การใช้ความเร็วเกินกำหนด นำรถออกนอกเส้นทาง จึงเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการขนส่งนำมาใช้เพื่อการบริหารจัดการเดินรถ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

kk2

นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) และพัฒนาศูนย์รวมข้อมูลการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Truck Data Service Center: TDSC) ซึ่งผู้ประกอบการขนส่งและผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการขนส่ง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดจำนวนรถบรรทุกเที่ยวเปล่าและรถบรรทุกที่ไม่ได้มาตรฐานบนท้องถนน เพิ่มความปลอดภัยและลดจำนวนอุบัติเหตุจากภาคการขนส่งด้วยรถบรรทุก วางแผนการขนส่งสินค้าให้ได้ระยะทางรวมสั้นที่สุด

ทั้งนี้ จากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ที่ต่างเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของคนขับรถทั้งรถบรรทุก และรถโดยสารให้มีทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน จะเป็นส่วนสำคัญในการลดต้นทุนการใช้พลังงานภาคขนส่ง และลดต้นทุนการขนส่งของผู้ประกอบการขนส่งได้อย่างยั่งยืน รองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของประเทศในอนาคต

e-book-1-503x62-7