แนะ 10 เทคโนฯ หนุนองค์กรสู่ 'ดิจิทัล เวิร์คเพลส'

23 พ.ค. 2561 | 14:39 น.
'จีเอเบิล' แนะกุญแจสำคัญนำองค์กรก้าวสู่ 'ดิจิทัล เวิร์คเพลส' เต็มรูปแบบ ชูหัวใจสำคัญ คือ การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสนับสนุน 10 ด้าน เชื่อมโยงการทำงานในทุกภาคส่วน เน้นเพิ่มศักยภาพบุคลากร การสร้างบรรยากาศการทำงาน เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และเป็นผู้ช่วยส่งเสริมการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว เพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่างแท้จริง




ดร.ศิษฏพงศ์ เศรษฐภัทร_G-Able

 

ดร.ศิษฏพงศ์ เศรษฐภัทร Head of Big Data and Analytics กลุ่มบริษัท จีเอเบิล กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญขององค์กรที่ต้องการทำ ดิจิทัล เวิร์คเพลส (Digital Workplace) คือ ต้องการปรับปรุงรูปแบบการทำงานภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้นเพื่อให้ทันการแข่งขันที่รวดเร็วในโลกดิจิทัล

"การที่จะเกิด ดิจิทัล เวิร์คเพลส ได้หลัก ๆ ที่ต้องคำนึงถึง คือ เรื่องของการทำให้เกิดการทำงานร่วมกันภายในองค์กรมากขึ้น (Collaboration) เช่นเดียวกับการที่ต้องรู้ว่าบุคลากรใดเหมาะสมกับการทำงานรูปแบบใด (Visibility) และเขาเหล่านั้นจะช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างไร ขณะเดียวกัน องค์กรที่ต้องการปรับรูปแบบการทำงาน ควรตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการมุ่งหน้าสู่ ดิจิทัล เวิร์คเพลส เพื่อให้องค์กรชับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยให้การทำงานบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพ"

 

[caption id="attachment_283382" align="aligncenter" width="503"] Business people looking at a screen during a video conference in the office Business people looking at a screen during a video conference in the office[/caption]

ทั้งนี้ จีเอเบิล ได้สรุปการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการทำงาน 10 ด้าน เพื่อการปรับองค์กรสู่การเป็น ดิจิทัล เวิร์คเพลส เต็มรูปแบบ ประกอบไปด้วย

1.สร้างแหล่งศึกษาความรู้ (Ambient Knowledge) เนื่องจากทุกคนมีความต้องการที่จะเรียนรู้เฉพาะเรื่อง เพื่อนำไปแก้ปัญหาในการทำงาน การจัดคอร์สเทรนนิ่งที่ใช้เวลาไม่นานในองค์กร จะช่วยก่อให้เกิดศูนย์กลางความรู้

2.เครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ (Embedded Analytics) เพื่อช่วยให้องค์กร หรือบุคลากรตัดสินใจง่ายขึ้น การเข้าไปรายงานการทำงานต่าง ๆ จะมีการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และแสดงผล โดยมีการบันทึกลงในโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการวิเคราะห์ แล้วจึงนำข้อมูลนั้นไปใช้งาน

3.เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน (Production Studio) เช่น การจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรมได้ และจัดพื้นที่สำหรับการพรีเซนต์ข้อมูลในการประชุมต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน

4.เครื่องมือช่วยลดระยะเวลาทำงาน ลดขั้นตอนการทำงาน (Process Hacking) เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพในความถูกต้องและแม่นยำ เช่น ใช้เครื่องมืออัตโนมัติมาช่วยตรวจสอบคุณภาพของสินค้า โปรแกรมตรวจคำผิด

5.คอร์สระยะสั้น (Microlearning) เพื่อเสริมศักยภาพของบุคลากรและสร้างความรู้ใหม่ ๆ การจัดคอร์สที่ให้ความรู้ที่มีหัวข้อหลากหลาย เพื่อให้บุคลากรที่สนใจสามารถเข้ามาเลือกที่จะเรียนรู้ได้ โดยจะเน้นเป็นคอร์สระยะสั้น ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง

6.ปรับภูมิทัศน์องค์กร (Office Landscape) ปัจจุบันทุกคนทำงานผ่านโน้ตบุ๊ก ผ่านโลกการสื่อสารดิจิทัล จึงควารปรับภูมิทัศน์ของสถานที่ทำงานที่เอื้ออำนวยต่อการก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และสร้างบรรยากาศการทำงานที่สามารถตอบสนองการทำงานร่วมกันให้ได้มากที่สุด

7.การก่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน (Silo-buster) ด้วยการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยแสดงให้เห็นความชัดเจนในการทำงาน (Visibility) ให้ทุกคนสามารถโชว์ผลงานของตัวเองได้เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในผลสำเร็จของงานที่ทำ โดยการสร้างพื้นที่หรือแพลตฟอร์มในการพูดคุย ลงรายละเอียดงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกทุกคนในองค์กร

8.การนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) & Augmented Reality (AR) มาใช้ (Immersive Technologies) ด้วยการนำอุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยในการเทรนนิ่ง เช่น การนำ VR มาสอนวิธีใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำให้เราได้เห็นมุมมองเสมือนจริง

9.สร้างพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวบนคลาวด์ (Personal Cloud) เพราะปัจจุบันในการทำงานไม่จำเป็นต้องทำผ่านโน้ตบุ๊กเครื่องเดียวอีกต่อไป แต่สามารถเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์เพื่อเรียกใช้งานจากอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับรูปแบบของงาน

10.การมีผู้ช่วยเสมือน (Virtual Personal Assistants) อย่างแชทบอท หรือเทคโนโลยีสูง ๆ ที่เข้ามาช่วยตอบคำถามเบื้องต้น หรือใช้ในการแนะนำฝ่ายที่เหมาะสมเพื่อที่จะเข้าไปพูดคุยได้ต่อไป

กลุ่มบริษัท จีเอเบิล มีโซลูชัน สำหรับการทำ ดิจิทัล เวิร์คเพลส ให้กับองค์กรต่าง ๆ โดยเริ่มจากการทำ ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจนำเทคโนโลยีมาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยยกระดับองค์กร โซลูชันดังกล่าวจะมีทั้ง Productivity Suite  (โปรดักทิวิตี้ สวีท) ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานภายในองค์กร ตัวอย่างเช่น ระบบจัดการการประเมินประสิทธิภาพของบุคลากร ระบบการจัดการทางด้านการเงิน ระบบการลา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี Digital Recruitment (ดิจิทัล รีครูทเม้นท์ ) ระบบการเปิดรับผู้ร่วมงานทางด้านดิจิทัล เพื่อค้นหาบุคลากรด้านดิจิทัล ที่มีคุณภาพและเหมาะสมให้กับองค์กร และ Digital Training (ดิจิทัล เทรนนิ่ง) ระบบสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับดิจิทัล โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศสำหรับองค์กร เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ทางด้านดิจิทัลให้กับบุคลากร เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพขององค์กรที่จะนำไปสู่การเป็นสถานที่ทำงานแบบดิจิทัลให้เลือกนำไปใช้งานได้ในอนาคต


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ยกเครื่องรพ.สัตว์เจริญสุข ชูเทคโนโลยีเพิ่มบริการขยายสาขาไซซ์เล็ก
ประยุทธ์ย้ำหน่วยราชการเร่งใช้เทคโนโลยีทำงานพัฒนาชาติเเละช่วยปชช.


e-book-1-503x62-7