ไทรอัมพ์เร่งขยายดีลเลอร์
- 22 พ.ค. 61 - ตลาดบิ๊กไบค์สู้กันเดือด ค่ายผู้นำเซ็กเมนต์พรีเมียม “ไทรอัมพ์” แห่ผุดโชว์รูมใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดแกรนด์โอเพนนิ่งสาขาอุบลราชธานี บริหารงานโดยเอ็มทู มอเตอร์สปอร์ต ที่เทงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ชูจุดแข็งมีโมเดลครบ มีรถให้ทดลองทุกรุ่น พร้อมสนามขับขี่
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนของไทรอัมพ์ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 905 คัน เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มพรีเมียมสัญชาติยุโรปและอเมริกายังคงเป็นผู้นำตลาดที่ 48%
จากแนวโน้มยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทเดินหน้าขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในสิ้นปีจะมีจำนวน 15 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุดได้เปิดตัวไทรอัมพ์ อุบลราชธานี อย่างเป็นทางการ ซึ่งสาขานี้ลงทุนกว่า 30 ล้านบาทและดำเนินงานโดยบริษัท เอ็มทู มอเตอร์ฯ
“เพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเร่งขยายสาขา โดยในเดือนนี้จะจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างเป็นทางการของ 2 สาขาในภาคอีสาน อย่างอุบลราชธานี และขอนแก่น หลังจากนั้นเราจะเปิดอีก 2 แห่ง คือ กรุงเทพฯ บนถนนวิภาวดีฯ และ นครราชสีมา” นายจักรพงษ์ กล่าว
ด้านนายสุวิชา มุละสิวะ รองกรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มทู มอเตอร์สปอร์ต เปิดเผยว่า ได้ลงทุนมากกว่า 30 ล้านบาทเพื่อทำโชว์รูมและศูนย์บริการตามมาตรฐาน ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด (Triumph World Standard) โดยตั้งอยู่บนถนนวารินชำราบ-ศรีสะเกษ ใช้พื้นที่ 900 ตารางเมตร ให้บริการทั้งการขายรถใหม่ มีรถให้ทดลองขี่ทุกรุ่น มีโซนเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริม และมีบริการหลังการขายครบวงจร อาทิ ตรวจสภาพรถ, ซ่อมบำรุง, ศูนย์อะไหล่ และมีช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์สูง โดยมีแท่นซ่อมบำรุง 4 แท่น สามารถรองรับบริการของรถมอเตอร์ไซค์ได้ถึง 100 คันต่อเดือน
“เรามีรถให้ลูกค้าทดลองขี่ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น บอนเนวิลล์ ที120, บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค, บอนเนวิลล์ที 100, บอนเนวิลล์ ที100 แบล็ค, สตรีท ทวิน และสตรีท สแครมเบลอร์, ทรักซ์ตัน อาร์, บอนเนวิลล์ บอบเบอร์, บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค, บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์, สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส และความพิเศษคือเรามีสนามหรือแทร็กที่เปิดโอกาสให้ทั้งลูกค้าที่ขี่เป็นกับขี่ไม่เป็นเลยได้มาใช้บริการ ซึ่งเรามองว่า ไม่ใช่เฉพาะการขาย แต่เราอยากให้ลูกค้าสนุกที่จะขับขี่ และขี่ด้วยความปลอดภัย”
นายสุวิชา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการตลาดที่จะใช้เจาะกลุ่มเป้าหมายในภาคอีสานนั้น จะมุ่งเน้นการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า ให้เกิดประสบการณ์ โดยจะจัด วัน เดย์ ทริป ทุกเดือนเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสนุก ปัจจุบันบริษัทมีประชากรไทรอัมพ์ที่ขายไปแล้วกว่า 500 คัน และจำนวนประชากรที่เข้าร่วมกิจกรรมมาโดยตลอดจะอยู่ที่ 200 คัน นอกจากนั้นแผนการตลาดจะเน้นไปที่การบริการหลังการขาย มีอะไหล่รองรับ มีรถโมบายเซอร์วิส 2 คัน และมุ่งแก้ไขปัญหาลูกค้าอย่างรวดเร็ว
“การแข่งขันของตลาดบิ๊กไบค์ในภาคอีสานดุเดือด เฉพาะอุบลราชธานีซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลัก เป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง ดังจะเห็นจากการที่ทุกแบรนด์เข้ามาเปิดขาย ดังนั้นคนที่เข้ามาทำตลาดจะต้องรู้ว่าความต้องการของลูกค้าเป็นแบบไหน และจะต้องมีความชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ จากปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เราตัดสินใจลงทุนและเปิดโชว์รูมใหม่ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและมั่นใจที่จะซื้อรถกับเรา”
นายสุวิชา ตั้งเป้าหมายจากการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ว่า จะมียอดขายในปี 2561 จำนวน 170 คัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านั้นที่มียอดขายประมาณ 120-150 คันต่อปี ขณะที่สัดส่วนของลูกค้าที่เข้ามาซื้อแบ่งออกเป็นคนไทยประมาณ 97% และลูกค้าจากลาวประมาณ 3%
เซกชั่นยานยนต์ หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 3,368 วันที่ 24-26 พฤษภาคม 2561
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนของไทรอัมพ์ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 905 คัน เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มพรีเมียมสัญชาติยุโรปและอเมริกายังคงเป็นผู้นำตลาดที่ 48%
จากแนวโน้มยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทเดินหน้าขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในสิ้นปีจะมีจำนวน 15 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุดได้เปิดตัวไทรอัมพ์ อุบลราชธานี อย่างเป็นทางการ ซึ่งสาขานี้ลงทุนกว่า 30 ล้านบาทและดำเนินงานโดยบริษัท เอ็มทู มอเตอร์ฯ
“เพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเร่งขยายสาขา โดยในเดือนนี้จะจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างเป็นทางการของ 2 สาขาในภาคอีสาน อย่างอุบลราชธานี และขอนแก่น หลังจากนั้นเราจะเปิดอีก 2 แห่ง คือ กรุงเทพฯ บนถนนวิภาวดีฯ และ นครราชสีมา” นายจักรพงษ์ กล่าว
ด้านนายสุวิชา มุละสิวะ รองกรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มทู มอเตอร์สปอร์ต เปิดเผยว่า ได้ลงทุนมากกว่า 30 ล้านบาทเพื่อทำโชว์รูมและศูนย์บริการตามมาตรฐาน ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด (Triumph World Standard) โดยตั้งอยู่บนถนนวารินชำราบ-ศรีสะเกษ ใช้พื้นที่ 900 ตารางเมตร ให้บริการทั้งการขายรถใหม่ มีรถให้ทดลองขี่ทุกรุ่น มีโซนเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริม และมีบริการหลังการขายครบวงจร อาทิ ตรวจสภาพรถ, ซ่อมบำรุง, ศูนย์อะไหล่ และมีช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์สูง โดยมีแท่นซ่อมบำรุง 4 แท่น สามารถรองรับบริการของรถมอเตอร์ไซค์ได้ถึง 100 คันต่อเดือน
“เรามีรถให้ลูกค้าทดลองขี่ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น บอนเนวิลล์ ที120, บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค, บอนเนวิลล์ที 100, บอนเนวิลล์ ที100 แบล็ค, สตรีท ทวิน และสตรีท สแครมเบลอร์, ทรักซ์ตัน อาร์, บอนเนวิลล์ บอบเบอร์, บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค, บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ, ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์, สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส และความพิเศษคือเรามีสนามหรือแทร็กที่เปิดโอกาสให้ทั้งลูกค้าที่ขี่เป็นกับขี่ไม่เป็นเลยได้มาใช้บริการ ซึ่งเรามองว่า ไม่ใช่เฉพาะการขาย แต่เราอยากให้ลูกค้าสนุกที่จะขับขี่ และขี่ด้วยความปลอดภัย”
นายสุวิชา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการตลาดที่จะใช้เจาะกลุ่มเป้าหมายในภาคอีสานนั้น จะมุ่งเน้นการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า ให้เกิดประสบการณ์ โดยจะจัด วัน เดย์ ทริป ทุกเดือนเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสนุก ปัจจุบันบริษัทมีประชากรไทรอัมพ์ที่ขายไปแล้วกว่า 500 คัน และจำนวนประชากรที่เข้าร่วมกิจกรรมมาโดยตลอดจะอยู่ที่ 200 คัน นอกจากนั้นแผนการตลาดจะเน้นไปที่การบริการหลังการขาย มีอะไหล่รองรับ มีรถโมบายเซอร์วิส 2 คัน และมุ่งแก้ไขปัญหาลูกค้าอย่างรวดเร็ว
“การแข่งขันของตลาดบิ๊กไบค์ในภาคอีสานดุเดือด เฉพาะอุบลราชธานีซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลัก เป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง ดังจะเห็นจากการที่ทุกแบรนด์เข้ามาเปิดขาย ดังนั้นคนที่เข้ามาทำตลาดจะต้องรู้ว่าความต้องการของลูกค้าเป็นแบบไหน และจะต้องมีความชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ จากปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เราตัดสินใจลงทุนและเปิดโชว์รูมใหม่ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและมั่นใจที่จะซื้อรถกับเรา”
นายสุวิชา ตั้งเป้าหมายจากการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ว่า จะมียอดขายในปี 2561 จำนวน 170 คัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านั้นที่มียอดขายประมาณ 120-150 คันต่อปี ขณะที่สัดส่วนของลูกค้าที่เข้ามาซื้อแบ่งออกเป็นคนไทยประมาณ 97% และลูกค้าจากลาวประมาณ 3%
เซกชั่นยานยนต์ หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 3,368 วันที่ 24-26 พฤษภาคม 2561
