‘นาจิบ’ ให้ปากคำ “ข้อหาโกง” เเล้ว ‘มหาธีร์’ สั่งลุยเต็มสูบ
- 22 พ.ค. 61 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้ปากคำกับสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตของมาเลเซียในเมืองปุตราจายา เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับการทุจริตในกองทุน วันเอ็มดีบี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดยนายนาจิบได้เดินทางมาถึงท่ามกลางการรุมล้อมของผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่มารอเฝ้าทำข่าวสำคัญดังกล่าว โดยนายนาจิบถูกหมายเรียกให้มาให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีของเอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่เป็นบริษัทลูกภายใต้กองทุน วันเอ็มดีบี ซึ่งถือเป็นเพียงหนึ่งในข้อกล่าวหาที่ต้องได้รับการตรวจสอบ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังมาเลเซียตั้งแต่ปี 2555 โดยในขณะนั้นนายนาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งจากการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุว่า มีเงินจากเอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนล 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ เช่นเดียวกับเงินมากถึงกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกองทุน วันเอ็มดีบี ที่ถูกระบุว่าได้มีการถ่ายโอนไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเช่นกัน
ที่ผ่านมานายนาจิบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิดใดๆ ตามที่มีข้อกล่าวหา ขณะที่ผลการสอบสวนภายในที่มีขึ้นขณะที่นายนาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า เงินที่ปรากฏในบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศว่าจะสอบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. มาเลเซียเพิ่งตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อทำหน้าที่สอบสวนหาผู้กระทำความผิดในกรณีนี้ด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดยนายนาจิบได้เดินทางมาถึงท่ามกลางการรุมล้อมของผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่มารอเฝ้าทำข่าวสำคัญดังกล่าว โดยนายนาจิบถูกหมายเรียกให้มาให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีของเอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่เป็นบริษัทลูกภายใต้กองทุน วันเอ็มดีบี ซึ่งถือเป็นเพียงหนึ่งในข้อกล่าวหาที่ต้องได้รับการตรวจสอบ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังมาเลเซียตั้งแต่ปี 2555 โดยในขณะนั้นนายนาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งจากการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุว่า มีเงินจากเอสอาร์ซีอินเตอร์เนชั่นแนล 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ เช่นเดียวกับเงินมากถึงกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกองทุน วันเอ็มดีบี ที่ถูกระบุว่าได้มีการถ่ายโอนไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเช่นกัน
ที่ผ่านมานายนาจิบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิดใดๆ ตามที่มีข้อกล่าวหา ขณะที่ผลการสอบสวนภายในที่มีขึ้นขณะที่นายนาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า เงินที่ปรากฏในบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศว่าจะสอบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. มาเลเซียเพิ่งตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อทำหน้าที่สอบสวนหาผู้กระทำความผิดในกรณีนี้ด้วย