ประยุทธ์เร่งทุกฝ่ายร่วมสร้างป่าให้เป็น 40% ของพื้นที่

19 พ.ค. 2561 | 10:30 น.
ประยุทธ์เร่งทุกฝ่ายร่วมสร้างป่าให้เป็น 40% ของพื้นที่

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า ” รัฐบาลให้ความสำคัญในการบริหารทรัพยากรป่าไม้ ที่ดิน น้ำ เนื่องจากเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันเรามีพื้นที่ป่าเหลือ 100 ล้านไร่ หรือร้อยละ 32 ของพื้นที่ประเทศ เป้าหมายเราควรจะเพิ่มให้เป็นร้อยละ 40 ให้ได้ โดยเรามีแผนดำเนินการระยะยาว 10 ปี เราต้องทำควบคู่กัน กับผู้ที่เดือดร้อนจากการอยู่ในป่าเหล่านั้น ด้วยการจัดหาที่ดินทำกินให้ชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน เราดำเนินการแล้วใน 66 จังหวัด พื้นที่ประมาณ 1 ล้านไร่ มีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว จำนวนกว่า 250,000 ไร่

จัดที่ดินให้ประชาชนแล้ว 152 พื้นที่ ใน 54 จังหวัด มีประชากรได้รับการจัดที่ดินแล้วกว่า 36,000 ราย โดยมีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) บริหารจัดการในภาพรวม รวมทั้งผลักดันกฎหมายสำคัญอื่น ๆ อาทิ กฎหมายป่าชุมชน และแก้ไข พร.บ.ป่าไม้ฯ เพื่อเปิดทางให้กับเศรษฐกิจชาวบ้าน เกี่ยวกับการปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ เราก็จะทำให้ชาวบ้านและชุมชนสามารถสร้างสวนป่า ปลูกป่าไม้มีค่า ที่เป็นพืชเศรษฐกิจราคาแพงในที่ดินของตนเองได้ ก็จะเกิดเป็นเป็นสินทรัพย์ เป็นการออมระยะยาว ที่ชาวบ้านสามารถตัดขายเมื่อต้องการใช้เงิน และมีมูลค่าเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามอายุของต้นไม้

king

สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ น้อยคนที่จะทราบว่าความเสียหายจากมหาอุทกภัยปี 2554 ที่ธนาคารโลกประเมินไว้ ว่าประเทศไทยเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.35 ล้านล้านบาท อีกทั้งภัยแล้งยังสร้างความเสียหายให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศปีละ 4 - 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ก็ได้ผลักดันให้มียุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำของประเทศ ล่าสุดเป็นแผนงานระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 ถึง 2579 ต้องทำงานต่อเนื่อง มี สทนช. (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) ที่ทำงานในลักษณะ Single Command อย่างมีเอกภาพ แม้จะเกิดจากการบูรณาการกันของหน่วยงาน 3 ปีที่ผ่านมา

มีการสร้างแก้มลิงขนาดเล็ก 30 แห่ง ใน 5 จังหวัดภาคอีสาน สร้างแหล่งเก็บกักน้ำ มากกว่า 50 โครงการ คิดปริมาณน้ำกว่า 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่ชลประมาณ 1.1 ล้านไร่ พัฒนาอาคารบังคับน้ำ สามารถเก็บกักน้ำจากลำน้ำสายหลักได้ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 7 แสนไร่ สร้างระบบกระจายน้ำอุปโภค-บริโภค 256 โครงการทั่วประเทศ ได้ปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับ 15,000 ครัวเรือนเรามีแผนที่จะทยอยสร้างระบบกระจายน้ำฯ เพิ่มเติมอีกประมาณ 3,500 แห่ง ภายใน 3 ปีถัดจากนี้

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

นอกจากนี้ ยังเร่งศึกษาโครงการผันน้ำจากกลุ่มน้ำสาละวินและสาขา เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้อีกกว่า 1 ล้านไร่ และทำแผนจัดหาน้ำระยะ 10 ปี สำหรับป้อนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC จากเดิมที่ดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำไปแล้วกว่า 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะหาเพิ่มเติม 800 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2570 และอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2579 ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำให้กับภาคครัวเรือน ภาคการผลิต เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการรักษาสมดุลทางธรรมชาติของประเทศ”

e-book-1-503x62